• แนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ : ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ อาจช่วยหนุนให้หุ้นฟื้นตัวต่อ

    22 กุมภาพันธ์ 2564 | SET News
 

ยอดติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ที่ปรับตัวลง ควบคู่กับข้อมูลการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความหวังเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งหมดนี้อาจช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยังคงปรับตัวขึ้นได้ตอบรับการเติบโตของเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า

สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดการณ์เกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจจะทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ จึงทำให้เราเห็นการรีบาวน์ได้ในหุ้นกลุ่มธนาคารและภาคอุตสาหกรรม ตามสภาวะการซื้อขายแบบ Reflation Trade หรือเล่นตามแรงเก็งกำไรเงินเฟ้อ

การกลับมาของเงินเฟ้อดูจะกดดันหุ้นที่เติบโตได้ดีอย่างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกกดดันปรับลงมาประมาณ 2% โดยเฉพาะจากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่จะปรับขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง

S&P500 ปรับลง 0.7% ปิดสัปดาห์ที่ 3,906 จุด

ดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.1% ปิดที่ 31,494 จุด

Nasdaq ปิดสัปดาห์แรง -1.57% ที่ 13,874 จุด หลังหุ้นเทคโนโลยีดิ่ง และหุ้นบริษัท Apple -4% ในสัปดาห์ที่แล้ว

เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ คือ ถ้อยแถลงของ “นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด” เกี่ยวกับรายงานการดำเนินนโยบายและทิศทางเศรษฐกิจช่วงครึ่งปี “Semi-Annual Testimony” ก่อนจะเข้าพบกับ
1) คณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯในคืนวันพรุ่งนี้
2) คณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคบริการทางการเงินในคืนวันพุธ

ถ้อยแถลงของเขาถูกคาดว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่อง “การหารือเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย ควบคู่กับความกังวลเงินเฟ้อที่อาจไม่สามารถปรับขึ้นได้”

หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Bank of America กล่าวว่า ถึงจะทราบดีว่าข้อมูลเศรษฐกิจและสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนานั้นเป็นไปด้วยดี แต่ก็น่าจะเป็นการยากที่จะเห็นเฟดเลือกถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในเวลานี้

ดังนั้น นายโพเวลล์ จึงถูกคาดว่าน่าจะมีการกล่าวย้ำถึง การจะตรึงดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นเวลานาน และจะยังคงนโยบายการเงินต่อไปเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ


การคาดการณ์ทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

นักเศรษฐศาสตร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเพิ่มคาดการณ์ว่าจีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้น่าจะปรับตัวขึ้นได้ หลังจากที่ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นเกินคาดอย่างถล่มทลายทะลุ 5.3%

ประกอบกับการที่ทีมบริหารของนายไบเดนจะผลักดันงบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ ที่น่าจะผ่านส.ส.ได้ก่อนในสัปดาห์นี้


ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญระหว่างสัปดาห์

รายงานผลประกอบการที่ยังเดินหน้าประกาศต่อเนื่องถือเป็น “ปัจจัยสำคัญ” โดยจะมีรายงานจากบริษัทกว่า 60 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น Home Depot, Macy’s และ TJX เป็นต้น

ปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจที่เห็นได้ชัด ได้แก่
- ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ คืนวันพฤหัสบดี
- รายงานรายได้ส่วนบุคคล และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลคืนวันศุกร์

นอกจากนี้ เฟดยังจับตา ดัชนีมาตรวัดค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคส่วนบคุคลของสหรัฐฯ ที่เป็นข้อมูลสำคัญที่เฟดให้ความสนใจ และตลาดมองเป็นตัวส่งสัญญาณเงินเฟ้อ ซึ่งจะประกาศในคืนวันศุกร์นี้

หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการลงทุนจาก QMA แสดงความคิดเห็นว่า การตอบรับกับทิศทางการฟื้นตัวดูจะเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าที่หลายๆฝ่ายคาดคิดไว้ ซึ่งความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ได้เป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯพุ่งขึ้น นำโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ทำสูงสุดในรอบ 1 ปี แตะ 1.36% ประกอบกับตลาดในเวลานี้ตอบรับข่าวการฉีดวัคซีนได้มากขึ้นช่วยหนุนแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและช่วยลดการระบาดของไวรัสโคโรนา

แม้ว่าหลายๆคนจะคิดว่าเศรษฐกิจจะแข็งแกร่งได้ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ในช่วงไตรมาสที่ 2/2021 ดูจะเห็นเศรษฐกิจค่อนข้างแข็งแกร่ง และจะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงสภาพพฤติกรรมของนักลงทุน

สิ่งที่ต้องระวัง คือ “การประหยัดหรือการออม” ที่ยังมีอยู่ ซึ่งอาจคิดเป็น 10% ของจีดีพีในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปีนี้ได้ ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าในช่วงเดือนดังกล่าวจะเป็นเดือนที่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงเงินจำนวนมาก

นักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่น่าจะกลับมาเริ่มได้ในช่วงมี.ค.นี้ที่จะเป็นตัวหนุนการเติบในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปีนี้ให้ประชาชนกลับมารับประทานอาหารหรือทำกิจกรรมนอกที่พักอาศัยได้ แม้สถานการณ์จะแตกต่างออกไปแต่ก็เชื่อว่า ทิศทางเศรษฐกิจเป็นบวก แต่ก็อาจกดดันตลาดหุ้นได้


ปฏิทินเศรษฐกิจ

วันจันทร์

รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ:
Dish Network, Royal Caribbean, Marathon Oil, Ingersoll-Rand, Occidental Petroleum, Transocean, Zoominfo, ONEOK และ HSBC

22.00น. - Leading economic indicators


วันอังคาร

รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ:
Home Depot, Macy’s, Intuit, Thomson Reuters, Square, Toll Brothers, Jazz Pharmaceuticals, McAfee, Medtronic, Pioneer Natural Resources และ Bank of Montreal

21.00น. FHFA home prices

21.00น. S&P/Case-Shiller home prices

22.00น. ถ้อยแถลงประธานเฟดเกี่ยวกับรายงานเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายช่วงครึ่งปีต่อหน้าคณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯ


วันพุธ

รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ:
Lowe’s, NVIDIA, Viacom, Public Storage, Booking Holdings, TJX, Brookdale, Royal Bank of Canada, Apache, Petrobras, Pure Storage, L Brands และ Casper Sleep

19.00น. Mortgage applications

22.00น. New home sales

22.00น. ถ้อยแถลงประธานเฟดเกี่ยวกับรายงานนโยบายเศรษฐกิจครึ่งปีต่อหน้าคณะกรรมาธิการกำกับดูแลภาคบริการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ


วันพฤหัสบดี

รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ:
Salesforce.com, Norwegian Cruise Lines, Etsy, Best Buy, HP, Shake Shack, Beyond Meat, Anheuser-Busch Inbev, Dell Technologies, Virgin Galactic, American Tower, Cleveland Cliffs, Airbnb และ Carvana, Door Dash

20.30น. Atlanta Fed President Raphael Bostic

20.30น. Jobless claims

20.30น. Durable goods

20.30น. Q4 GDP second reading

22.00น. Pending home sales

22.00น. Advanced economic indicators

22.00น. St. Louis Fed President James Bullard

03.00น. New York Fed President John Williams


วันศุกร์

รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ:
Fluor, Cinemark, Draft Kings, Foot Locker และ AMC Networks

20.30น. Personal income and spending

20.30น. Advanced trade

21.45น. Chicago PMI

22.00น. Consumer sentiment


วันเสาร์

รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ: Berkshire Hathaway


ที่มา: CNBC


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com