ดอลลาร์ร่วง – แนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปและอังกฤษฟื้น หนุนสินค้าโภคภัณฑ์รีบาวน์
ดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงอีกครั้งหลังไปทำต่ำสุดรอบหลายปีเมื่อเทียบกับค่าเงินปอนด์และออสเตรเลียดอลลาร์
“ตลาดจับตา”
- โครงการฉีดวัคซีน
- แนวโน้มการเติบทางเศรษฐกิจ
- ภาวะเงินเฟ้อ
ซึ่งทั้งหมดนี้ อาจเป็นปัจจัยที่เข้าหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้นได้
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.3% ที่ 90.046 จุด
ภาพรวมค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากการที่จะเกิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ที่ไม่เพียงแต่จะเร่งให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้เฟดยุติการใช้นโยบายการเงิน รวมทั้งอาจก่อให้เกิดระดับหนี้สินจำนวนมหาศาลและเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นมาแถว 1.37% จากระดับ 1.1% ในช่วงสิ้นเดือนม.ค. โดยภาพรวมอัตราผลตอบแทนวานนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก รอคอยถ้อยแถลงประธานเฟดต่อสภาคองเกรสเป็นหลัก
ยูโรแข็งค่า 0.4% ที่ระดับ 1.2162 ดอลลาร์/ยูโร ขานรับข้อมูลผลสำรวจภาคธุรกิจเยอรมนีที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.พ. บ่งชี้ความแข็งแรงของภาคอุตสาหกรรมของประเทศ
เงินปอนด์ปรับแข็งค่า 0.5% ที่ 1.4066 ดอลลาร์/ปอนด์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2018 หลังจากที่นายกฯอังกฤษเผยแนวทางการคลาย Lockdown ที่สอดคล้องกับความสำเร็จเรื่องโรงการฉีดวัคซีน
Bitcoin ดิ่งหลังทำ All-Time High ปิด -6% ที่ระดับ 53,866 เหรียญ หลังพุ่งแตะ 58,354 เหรียญในช่วงต้นตลาดที่เป็นระดับสูงสุดครั้งประวัติการณ์
Bitcoin เผชิญแรงเทขายทำกำไร ประกอบกับนักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นต่อการปรับขึ้นแรงของราคาในเวลานี้ จึงทำให้ราคา Bitcoin วานนี้ทำต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 47,400 เหรียญ หรือร่วงกว่า 17% ของมูลค่าซื้อขาย หรือคิดเป็นประมาณ 1.60 แสนล้านเหรียญของจำนวนรวมมูลค่าสินทรัพย์ของตลาด
อย่างไรก็ดี เรียกได้ว่า เมื่อวานนี้ Bitcoin ถือเป็นวันที่ปรับลงแรงและแย่ที่สุดตั้งแต่ 27 ม.ค. และมี Market Cap ต่ำกว่า 1 ล้านล้านเหรียญ