คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างงบประมาณ 1.9 ล้านล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อย คาดผลักดันให้เกิดการลงมติจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯอย่างเต็มรูปแบบช่วงปลายสัปดาห์นี้
สมาชิกเดโมแครตร่วมกันเร่งผลักดันให้เกิดการลงมติร่างงบประมาณดังกล่าวให้ได้ก่อนวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายของการขยายโครงการช่วยเหลือคนว่างงาน
รายละเอียดร่างงบประมาณฉบับล่าสุดประกอบด้วย
- วงเงิน 400 เหรียญ/สัปดาห์ สำหรับสวัสดิการว่างงานจนถึง 29 ส.ค.
- การขยายการขอรับสวัสดิการว่างงาน เพื่อช่วยเหลือคนว่างงาน, พนักงานอัตราจ้างชั่วคราว (ไม่ประจำ) และกลุ่มอาชีพอิสระ ให้ได้รับเงินช่วยเหลือรายสัปดาห์จนถึง 29 ส.ค.
- จ่ายเช็คโดยตรงสำหรับภาคครัวเรือน 1,400 เหรียญ สำหรับผู้มีรายได้ตั้งแต่ 75,000 – 150,000 เหรียญ และยกเลิกการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้ตั้งแต่ 100,000 – 200,000 เหรียญขึ้นไป
- การช่วยเหลือภาคครัวเรือนที่มีบุตรในวงเงิน 3,600 เหรียญ/บุตรหนึ่งคน ต่อ 1 ปี
- การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำโดยค่อยๆปรับขึ้นมาที่ 15 เหรียญ/ชั่วโมง ภายในปี 2025
- งบประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญ สำหรับโครงการฉีดวัคซีนของประเทศ
- 1.70 แสนล้านเหรียญ สำหรับการช่วยเหลือการศึกษาขั้นต่ำ K-12 และสถาบันการศึกษาในระดับสูงให้กลับมาเปิดทำการ รวมทั้งเรื่องการช่วยเหลือนักเรียน
- 3.50 แสนล้านเหรียญ สำหรับการสนับสนุนมลรัฐและรัฐบาลท้องถิ่น
ร่างงบประมาณดังกล่าวถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมาธิการด้านกฎระเบียบ และกำลังนำส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โดยนางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎรคาดหวังว่า ส.ส.จะร่วมกันผลักดันร่างดังกล่าวให้ได้เร็วที่สุดในสัปดาห์นี้
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า จะทำการผลักดันร่างกฎหมายโดยไม่ผ่านมติเห็นชอบจากทางรีพับลิกัน มากกว่าการเลือกเจรจารับข้อตกลงการช่วยเหลือประชาชนในวงเงินที่น้อยกว่า
อย่างไรก็ดี การผ่านร่างงบประมาณดังกล่าวจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯไม่อาจทำให้เกิดการเป็นตัวบทกฎหมายขึ้นมาได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องขึ้นอยู่กับ “การผ่านร่างจากวุฒิสภา” ด้วย
ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครต 2 ราย กล่าวค้านการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินจำนวนมาก และอาจโหวตค้านหากวุฒิสภามีการลงมติเห็นชอบ
ที่มา: CNBC