· ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขาดทุนอย่างหนักอาจทำให้เกิดการเทขายสินทรัพย์อื่น ๆ
ขณะที่สัญญาณที่บ่งบอกว่าตลาดหุ้นในยุโรปและสหรัฐฯเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยดัชนี Eurostoxx 50 ฟิวเจอร์ส ร่วงลง 1.7% ขณะที่ดัชนี DAX ฟิวเจอร์สของเยอรมนีและ FTSE ของลอนดอนลดลง 1.3%
สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีลดลงมากกว่า 5% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับร่วงลงมากกว่า 3% ทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ซึ่งภาพรวมรายวันปรับตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับเสถียรภาพตลาด
โดยดัชนี Nikkei ปิด -3.99% ที่ระดับ 28,966.01 จุด ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ด้านดัชนี Topix -3.21% ที่ระดับ 1,864.49 จุด ภาพรวมรายวันทั้ง 2 ดัชนีปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.เมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนกำลังรอคอยว่าบีโอเจซึ่งงดการเข้าซื้อกองทุนในตลาดหลักทรัพย์ (ETFs) ในเดือนนี้จะซื้อในภายหลังหรือไม่
· ตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ลดลงตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวลงในสัปดาห์นี้รุนแรงที่สุดในรอบ 28 เดือน เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมา
โดยดัชนี Shanghai Composite ปิดที่ระดับ 3,509.08 จุด ร่วงลง 75.97 จุด หรือ -2.12% และดิ่งลง 5.1% ในรอบสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ บรรดานักลงทุนยังเทขายหุ้นออกมาจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินในจีน และมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป โดยแรงขายส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสุขภาพ, กลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค
· หุ้นยุโรปปรับตัวลงเล็กน้อยหลังจากที่ตลาดทั่วโลกได้รับผลตอบแทนจากพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นเกินคาด
โดยดัชนี Stoxx 600 ลดลง 0.5% ในช่วงต้นตลาด ซึ่งเป็นการตอบโต้การขาดทุนจากการเปิดตัวส่วนใหญ่โดยทรัพยากรพื้นฐานลดลง 1.9% ในขณะที่ระบบสาธารณูปโภคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 0.3%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 45 ราย ในปท.32-ตรวจเชิงรุก 5-ตปท.8
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 32 ราย จากสมุทรสาคร 14 ราย นครนายก 5 ราย กรุงเทพมหานคร ชัยนาท และนครปฐม จังหวัดละ 3 ราย สระบุรี 2 ราย ประจวบคีรีขันธ์และสมุทรปราการ จังหวัดละ 1 ราย, จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 5 ราย มาจากสมุทรสาครทั้งหมด ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 8 ราย มาจากฝรั่งเศส 2 ราย เยอรมนี บังคลาเทศ เนเธอแลนด์ ปากีสถาน สหราชอาณาจักร และคูเวต ประเทศละ 1 ราย
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
ดีเดย์ 1 มี.ค. เปิดน่านฟ้าให้เครื่องบินต่างชาติจอดพัก-ต่อเครื่องในไทยได้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำนักงานการบินเรือนห่งประเทศไทย(กพท.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 5 เรื่องเงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานที่ทำการบินเข้าออกประเทศไทย เป็นการบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารถ่ายลำหรือเปลี่ยนลำ (Transit/Transfer flight) สามารถบินเข้าประเทศได้ จากเดิมมีประกาศห้ามไว้ ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2564 เป็นต้นไป