การเคลื่อนไหวที่เป็นลักษณะ “ชักเย่อ” กันระหว่างตลาดหุ้นและการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเกิดขึ้นต่อในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะหากข้อมูลเศรษฐกิจ เป็นไปในเชิงบวกก็อาจยิ่งกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น
สำหรับประเด็นเด่นสัปดาห์นี้ คือ ข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯเดือน ก.พ. ในคืนวันศุกร์ที่เป็นตัววัดความสำคัญของผลกระทบจากการระบาดของไวรัสต่อเศรษฐกิจ หลังล่าสุดการจ้างงานเดือนม.ค. ขยายตัวได้เพียง 49,000 ตำแหน่ง ขณะที่เดือน ก.พ. คาดอาจเห็นจ้างงานกลับมาโตได้ 218,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานคาดอยู่ที่ 6.3%
ถ้อยแถลงสมาชิกเฟดก็ยังเป็นจุดสนใจหลักของตลาดเช่นกันและจะเห็นได้ชัดว่ามีผลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดังนั้น นักลงทุนจึงควรต้องติดตามในวันพฤหัสบดีนี้
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนจาก Bleakley Advisory Group กล่าวว่า หากเฟดต้องการยุติการผ่อนคลายทางการเงินและตัดสินใจจะขึ้นดอกเบี้ย ก็ต้องมีการส่งสัญญาณกล่าวถึงบางสิ่งบางอย่างแต่เขาตระหนักดีถึงความเสี่ยงจากแนวทางคุมเข้มทางการเงินในเวลานี้ จึงมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น ดังนั้น “อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงปรับขึ้น”
ทั้งนี้ การปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในเดือนนี้ ดูจะสร้างความประหลาดใจแก่นักลงทุน เพราะถึงล่าสุดคืนวันศุกร์อัตราผลตอบแทน 10 ปีจะทรงตัวได้บริเวณ 1.46% แต่ก็ยืนได้เหนือระดับสูงสุดช่วงต้นสัปดาห์ ประกอบกับในคืนวันพฤหัสบดี อัตราผลตอบแทนดังกล่าวพุ่งทะลุ 1.5% ได้ จึงอาจเห็นผลตอบแทนสิ้นปีปิดเหนือระดับนี้ ไม่เพียงแค่ช่วงเริ่มต้นของปีเท่านั้น
นอกจากนี้ คาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจที่จะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น จึงยิ่งตอกย้ำความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่น่าสำคัญอื่นๆ ได้แก่
- ISM เผยดัชนีวัดภาคการผลิต คืนวันจันทร์นี้
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ คืนวันพฤหัสบดี (หลังสัปดาห์ก่อนลดลงเหนือความคาดหมาย)
ที่มา: CNBC