น้ำมันดิบปิดร่วง แต่ภาพรายสัปดาห์-เดือนเป็นบวกเกือบ 20%
ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลดลงท่ามกลางปัจจัยลบ
1) ดอลลาร์แข็งจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น
2) แนวโน้มอุปทานตลาดกลับมาเพิ่มขึ้น จากคาดการณ์เศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
3) อุปสงค์น้ำมันบริเวณชายฝั่งสหรัฐฯลดลงจากพายุฤดูหนาวสัปดาห์ที่แล้ว
ในคืนวันศุกร์น้ำมันดิบ WTI ปิด -3.2% ที่ระดับ 61.50 เหรียญ/บาร์เรล
แต่ภาพรายสัปดาห์ปิด +3.81% และภาพรวมเดือนดก.พ. ปิด +17.82%
น้ำมันดิบ Brent ปิดตลาด -1.12% ที่ 66.13 เหรียญ/บาร์เรล
JPMorgan คาดราคาน้ำมันดิบเสี่ยงผันผวนจากผลผลิตน้ำมันในสหรัฐฯตลาดหายไปราว 4 ล้านบาร์เรล/วัน จากการปิดทำการชั่วคราวที่อาจยาวไปถึง 5 มี.ค. ทำให้แผนการกลับมาเปิดทำการอาจถูกเลื่อนออกไป จากผลกระทบของพายุฤดูหนาวในสหรัฐฯ
หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ National Australia Bank ระบุว่า แรงเทขายทำกำไรที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตร “หนุนดอลลาร์แข็งค่า” และกดดันราคาน้ำมันดิบให้เผชิญกับความผันผวน
กลุ่มนักลงทุนรอคอยการประชุม OPEC+ ที่อาจตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในช่วงฤดูร้อนนี้จากราคาน้ำมันขึ้นและโอกาสอุปสงค์เพิ่มจากการคลาย Lockdown
จับตาการประชุม OPEC+ ในวันที่ 4 มี.ค.นี้
โดยกลุ่ม OPEC+ มีแนวโน้มจะหารือเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนเม.ย. นี้ อันเนื่องจากราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าบางส่วนจะชี้ว่าการปรับขึ้นในเวลานี้ ก็ยังอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงที่จะเห็นราคาปรับตกลงมาได้จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโนา
ที่มา: CNBC