MTS Help Center

หุ้นสหรัฐฯปิดแดนบวก ดาวโจนส์ปิดทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หุ้นสหรัฐฯปิดแดนบวกขานรับถ้อยแถลงประธานเฟดที่ยังคงดอกเบี้ยและไม่มีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และเป็นการรีบาวน์กลับหลังเผชิญแรงกดดันในช่วงต้นตลาด

โดยดัชนีดาวโจนส์ช่วงต้นตลาดร่วงลงไป 110 จุด หรือ -1.4% , ดัชนี S&P500 เปิดร่วง -0.6%  และดัชนี Nasadaq ปรับลงไป -1.3% ในช่วงต้นตลาด

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิด +424.51 จุด หรือ +1.4% ทำปิดสูงสุดประวัติการณ์ใหม่ที่ 31,961.86 จุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวโจนส์ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน, กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มการเงินที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งวานนี้ นำโดย
- Boeing +8.1%
- Chevron +3.7%
- Goldman Sachs +3%
- Visa +3%

ดัชนี S&P500 ปิด +1.1% ที่ 3,925.40 จุด

ดัชนี Nasdaq ปิด +1% ที่ระดับ 13,597.97 จุด

ภาพรวมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเผชิญแรงเทขายในช่วงต้นตลาดหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับขึ้นไปเหนือ 1.4% ทำสูงสุดตั้งแต่ก.พ. ปี 2020 ทำให้นักลงทุนลดการถือครองหุ้นกลุ่ม High-Flying หรือหุ้นที่มีการปรับขึ้นในระดับสูง และกลับสู่ตลาดพันธบัตรแทน ขณะที่บริษัทบางแห่งก็ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมักได้ประโยชน์จากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำ โดย หุ้นบริษัท Apple, Amazon และ Facebook ปิดแดนลบ แต่ก็ยังไม่ลงไปถึงต่ำสุดที่เคยทำไว้

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นกลับมาปิดแดนบวกได้หลังทราบถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ที่ทำให้ตลาดคลายกังวลว่าจะเห็นเฟดเปลี่ยนนโยบายการเงินที่เป็นแบบผ่อนคลาย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่สูงขึ้น  ซึ่งเฟดยังคงตอกย้ำว่าเงินเฟ้อยังอ่อนตัวและเศรษฐกิจต้องใช้เวลากว่าจะบรรลุเป้าหมายทั้งการจ้างงานและเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ ตลาดตอบรับกับกระแสที่ว่า เจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) พยายามผลักดันการอนุมัติใช้วัคซีนฉุกเฉินของบริษัท Johnson & Johnson ที่มีประสิทธิภาพและการฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม  หากได้รับอนุมัติก็จะกลายเป็นบริษัทที่ 3 ที่มีการใช้งานวัคซีนในประเทศสหรัฐฯ

 

หุ้นบริษัท GameStop ปรับขึ้นกว่า 100% ท่ามกลางการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร

ที่มา: CNBC