MTS Help Center

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าว ณ ที่ประชุม Wall Street Journal โดยแสดงความคาดหวังว่า แรงกดดันเงินเฟ้อจะปรับขึ้นในบางช่วง แต่ก็ไม่เพียงพอจะทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ยังระบุว่า
- เฟดคาดหวังว่าจะกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
- การกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจ อาจส่งผลให้เงินเฟ้อมีการปรับตัวสูงขึ้นได้เป็นบางช่วง
- การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อยัง “ไม่เพียงพอ” จะทำให้เฟดเปลี่ยนแปลงแนวทางการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
- เฟดจะให้ความสนใจและจับตาการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับเงื่อนไขการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจสามารถกลับมาฟื้นตัวได้เต็มรูปแบบ ทั้งในเรื่องการจ้างงานที่กลับมาได้อย่างสมบูรณ์ และเงินเฟ้อสามารถปรับขึ้นได้อย่างยั่งยืนเหนือระดับ 2%

- เฟดไม่คิดว่าปีนี้จะเห็นการจ้างงานและเงินเฟ้อปรับได้ตามเป้าที่วาง

ถ้อยแถลงของเฟด “ส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาด”
- ตลาดหุ้นร่วง
- ทองลง
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น

ทั้งนี้ นักลงทุนบางส่วน และนักเศรษฐศาสตร์ มีแนวโน้มจะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่าคาดจากข้อมูลเศรษฐกิจหรือการฟื้นตัวที่เกิดขึ้น และอาจเป็นไปได้ที่จะจัดการกับโครงการเข้าซื้อพันธบัตร

ณ ปัจจุบันเฟดมีการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้แบบ MBS 1.20 แสนล้านเหรียญ/เดือน และตลาดค่อนข้างหวังจะเห็นเฟดมีความเป็นไปได้ที่จะส่งสัญญาณปรับรูปแบบการดำเนินนโยบาย QE ใหม่ หรือที่เรียกว่า “Operation Twist” ซึ่งจะเป็นการขายระยะสั้นและมีการเข้าซื้อพันธบัตรที่มีอายุที่ยาวนานขึ้น

สมาชิกเฟดบางส่วน ค่อนข้างส่งสัญญาณว่าเป้าหมายต่างๆยังอยู่ห่างไกล และเฟดยังไม่ได้ตระหนกกับการปรับขึ้นของเงินเฟ้อระยะยาว แม้ว่ากลุ่มนักกลยุทธ์หรือนักเศรษฐศาสตร์ในสหรัฐฯจะมองแบบนั้นก็ตาม

ที่มา: CNBC