MTS Help Center

 เหตุโจมตีซาอุด ดัน Brent ทะยานเหนือ 70 เหรียญครั้งแรกตั้งแต่เกิด Covid-19

เหตุโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นปัจจัยที่ทำให้ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นเหนือ 70 เหรียญ/บาร์เรลได้ในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เผชิญกับวิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนา  ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นทำสูงสุดรอบกว่า 2 ปี

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับขึ้นแตะ 71.38 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 8 ม.ค. ปีที่แล้ว ในช่วงระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชีย  ก่อนจะทรงตัวบริเวณ 70.56 เหรียญ/บาร์เรล หรือปรับขึ้น +1.7%

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับขึ้นกว่า 1.08 เหรียญ หรือขึ้นได้ต่อ 1.6% ที่ 67.17 เหรียญ/บาร์เรล ระหว่างวันทำสูงสุดที่ 67.98 เหรียญ/บาร์เรลในช่วงต้นตลาด ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ต.ค. ปี 2018

ปัจจัยบวกช่วงตลาดหุ้นเอเชีย

- วุฒิสภาสหรัฐฯมีมติผ่านร่างกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญของสหรัฐฯ

- ข้อมูลเศรษฐกิจจีนบวก หนุนเศรษฐกิจโลกรีบาวน์

- การขนส่งน้ำมันของประเทศจีนช่วง 2 เดือนแรกของปี 2021 (ม.ค. - ก.พ.) ปรับขึ้นได้กว่า 4.1% หลังจากมีการขยายการส่งออกการกลั่นน้ำ ประกอบกับอุปสงค์พลังงานยังคงเพิ่มขึ้น

ขณะที่ช่วงสายวันนี้ "ปัจจัยบวกที่กระทบตลาดต่อ"

กลุ่มกบฎฮูติในเยเมน มีการโจมตีด้วยระเบิดโดรน และมิสไซน์ ไปยังใจกลางอุตสาหกรรมน้ำมันประเทศซาอุดิอาระเบีย  ซึ่งรวมถึงบริษัท Aramco บริเวณท่าเรือ Ras Tanura ที่เป็นแหล่งส่งออกน้ำมันดิบปิโตรเลียมสำคัญ

ภาพรวมราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI มีการปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง 4 วันทำการ หลังจากที่ OPEC+ ตัดสินใจตรึงกำลังการปรับลดการผลิตน้ำมันไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ดี การที่รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอินเดีย ที่เป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่แห่งที่ 3 ของโลก กล่าวว่า การปรับขึ้นของราคาน้ำมัน อาจเป็น "ผลเสีย" ต่อการอุปโภคบริโภคของบางประเทศที่มีการฟื้นฟูอยู่ก็เป็นไปได้

ที่มา: Reuters