MTS Help Center

 

ดาวโจนส์พุ่งทำสูงสุดประวัติการณ์ - Nasdaq -2% นักลงทุนลดการถือครองหุ้นเทคโนโลยีต่อเนื่อง

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น ท่ามกลางนักลงทุนหันมาตอบรับและเก็งกำไรตามกระแสเศรษฐกิจ หลังสมาชิกวุฒิสภามีการอนุมัติแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะเดียวกันตลาดยังเผชิญแรงขายต่อเนื่องในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่ร้อนแรง กดดันถาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯเวลานี้

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิด +306.14 จุด หรือ +1% ที่ 31,802.44 จุด ระหว่างวันปรับขึ้นแรงกว่า 650 จุด ไปทำสูงสุดประวัติการณ์รายวันรอบใหม่

โดยได้รับอานิสงส์หลักจากหุ้นบริษัทดิสนีย์ที่ปรับขึ้นไปกว่า 6% ขานรับรัฐแคลิฟอร์เนียผ่อนคลายมาตรการ Covid-19 จึงทำให้ Disneyland อาจจะกลับมาเปิดทำการได้ตามข้อจำกัดพื้นฐานในเดือนเม.ย.

หุ้นสายการบิน American Airlines ปิด +5%

United Airlines ปิด +7%

Target +2.5%

 

ดัชนี S&P500 ปิด -0.5% ที่ 3,821.35 จุด

 

ดัชนี Nasdaq ปิด -2.4% ที่ 12,609.16 จุด
หลังเผชิญแรงเทขายในหุ้น Tesla -5.8%, Apple -4.2% และ Alphabet กับ Netflix ปรับลงใกล้เคียงกันกว่า -4%

 

หุ้นเทคโนโลยีปิดร่วงกว่า 10% เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับปิดสูงสุดเมื่อ 12 ก.พ. ส่งผลให้การปรับลงมาล่าสุดมีการเคลื่อนไหวในกรอบการปรับฐาน

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่ดิ่งลงมากสุดเมื่อวานนี้ตามแนวโน้มการเคลื่อนไหวช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังปีที่แล้วทะยานแรง โดยตลาดได้รับแรงกดดันสำคัญ คือความผันผวนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร จึงลดมูลค่าแนวโน้มการถือครองเงินสดในอนาคต

 

ปัจจัยบวกต่อตลาด:

1) วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมาย 1.9 ล้านล้านเหรียญ สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ (ปูทางไปต่อสำหรับการขยายสวัสดิการช่วยเหลือคนว่างงาน, การรับเช็คช่วยเหลือ และการช่วยเหลือมลรัฐ-รัฐบาลท้องถิ่น)

2) ส.ส. เดโมแครตถูกคาดจะผ่านร่างกฎหมายตัวนี้ได้ต่อภายในสัปดาห์นี้

3) นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกคาดว่าจะลงนามร่างกฎหมายเพื่อเป็นการบังคับใช้ให้ได้ก่อน 14 มี.ค. (เป็นวันหมดอายุช่วยเหลือคนว่างงานจากแผนฉบับเก่า)

4) CDC เผย ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามข้อกำหนด สามารถออกนอกสถานที่ได้โดยไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย

5) ความหวังเรื่อง กิจกรรมเศรษฐกิจกลับมา Reopening

6) หุ้นธนาคารพุ่งขานรับมุมมองเชิงบวกด้านเศรษฐกิจ

7) นายเดวิด เทปเปอร์ เชื่อว่า การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้ม “จบลงแล้ว” จึงยากที่จะมองตลาดหุ้นเป็นขาลงในเวลานี้

 

ที่มา: CNBC