• อีซีบีมีแผนเพิ่มการเข้าซื้อพันธบัตรต่อสู้ “การปรับขึ้นกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร” ในไตรมาสหน้า

    12 มีนาคม 2564 | Economic News
   

อีซีบีคงการเข้าซื้อพันธบัตรผ่านโครงการ PEPP ในวงเงินปัจจุบัน 1.85 ล้านล้านยูโร (2.21 ล้านล้านเหรียญ) จนถึงมี.ค. ปี 2022 แต่ก็อาจมีการเพิ่มการเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อจำกัดการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลานี้


อย่างก็ดี อีซีบีมีการเข้าซื้อพันธบัตรในโครงการดังกล่าวสำหรับไตรมาสที่ 1/2021 ปีนี้ลดลง และคาดว่าอีซีบีจะกลับมาใช้การเข้าซื้อมากขึ้นเพื่อจำกัดการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยอีซีบีจะประเมินทิศทางการดำเนินนโยบายจาก
- เงื่อนไขทางการเงิน
- แนวโน้มเงินเฟ้อ

- สภาฝ่ายปกครองอีซีบี คาดอาจมีการเพิ่มการเข้าซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการ PEPP ในไตรมาสที่ 2/2021


ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในยูโรโซนปรับตัวขึ้นตั้งแต่เดือนก.พ. ตามประเทศสหรัฐฯ หลังนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่วงเงินจำนวนมหาศาล ส่งผลให้ตลาดกังวลเงินเฟ้อ ขณะที่การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปได้ จากดอกเบี้ยที่ยังอยู่ระดับต่ำ และวิกฤตไวรัสโคโรนายังคงอยู่


สำหรับคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน

- อีซีบีปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้จะโตได้ 3.9% (เดิมคาด 4%)
- อีซีบีปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปี 2021 จีดีพีโตได้ 4.2% (เดิมคาด 4.1%)
- อีซีบีประเมินทิศทางเงินเฟ้อมีโอกาสผันผวนในบางช่วงจากนี้
- อีซีบีคาดเงินเฟ้อปีนี้จะขยายตัวที่ 1.5% และปีนี้ขยายตัวได้ 1.2%
- อีซีบีต้องการคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ระดับต่ำแต่ต้องเข้าใกล้ 2% ในระยะกลาง



นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี ระบุว่า โครงการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการทยอยผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม และสถานการณ์คืบหน้าต่างๆ ดูจะเป็นปัจจัยหนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในปี 2021 สามารถฟื้นตัวขึ้นได้ แต่ภาพรวมก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อการขยายตัวในระยะกลางที่ต้องมีความสมดุลมากกว่านี้


นอกจากนี้ นางลาการ์ด ยังระบุถึง 2 สิ่งสำคัญที่จะสร้างโอกาสการเติบโตที่ดีต่ออุปสงค์โลก คือ
1) โครงการฉีดวัคซีน
2) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ


การตอบรับของตลาดการเงิน

- หุ้นกลุ่มภาคธนาคารต่างๆในยูโรโซนเผชิญแรงเทขายทำกำไรกว่า 1%
- แนวทางการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปของอีซีบี อาจหมายถึงระดับเงินเฟ้อในภูมิภาคจะชะลอตัวได้ต่อไปจากอัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ระดับต่ำต่อไป


ที่มา: CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com