• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2564

    12 มีนาคม 2564 | SET News


·         JPMorgan แนะจับตาหุ้นกลุ่มต่างๆเหล่านี้ ที่อาจหนุนตลาดหุ้นพุ่งจากทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

- หุ้นกลุ่มวัฎจักร: ตัวบ่งชี้แนวโน้มภาคธุรกิจ ที่จะเคลื่อนไหวตามการเติบโตหรือถดถอยจากภาวะเศรษฐกิจ

- หุ้นกลุ่มปลอดภัย (Defensive): ที่จะดูในเรื่องของประกันด้านสุขภาพและการใช้จ่ายทั่วไปของผู้บริโภค และอาจรวมไปถึงการประกาศผลประกอบการ และการปันผลด้วย

- การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร: ที่ได้รับแรงส่งจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับ "โครงการฉีดวัคซีน" 

 

โดยจะเห็นได้ว่า การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลนั้น เป็นผลมาจาก

- คาดการณ์การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ

- นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางต่างๆจะเริ่มกลับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ทั้งนี้ การตัดสินใจปรับขึ้นของ "เงินเฟ้อ" จะสร้างความกังวลแก่นักลงทุน เนื่องด้วยการขึ้นดอกเบี้ยอาจเป็นผลเสียต่อหุ้นกลุ่มที่มีมูลค่าการเคลื่อนไหวในระดับสูง


·         ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามแพ็คเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญ รวมทั้งการผ่อนคลายนโยบายของอีซีบี ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงและคลายความกังวลทั่วโลกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น



โดยอัตราผลตอบแทนสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นสูง โดยผลตอบแทนอายุ 10 ปีอยู่ที่ 1.5512% หลังจากลดลงเหลือ 1.475% ในช่วงเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกต่ำกว่า 1.5% ในสัปดาห์นี้

ด้านผลตอบแทนอายุ 10 ปีของเยอรมันอยู่ที่ -0.331% หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ -0.367%

ท่ามกลางความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนที่ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวเนื่องจากการเปิดตัววัคซีน ช่วยหนุนการเปิดตัวทางเศรษฐกิจอีกครั้ง

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.53% โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนี Kospi เกาหลีใต้ พุ่งขึ้น 1.39% หุ้นไต้หวันเพิ่มขึ้น 0.27% และดัชนี ASX 200 ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.79%

 

·         ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ฟื้นตัว ขณะที่กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนเป็นบวก

ดัชนี Nikkei ปิด +1.73% ที่ระดับ 29,717.83 จุด ด้านดัชนี Topix ปิด +1.36% ที่ระดับ 1,951.06 จุด

สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนี Nikkei และดัชนี Topix พุ่งขึ้นเกือบ 3%

ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีและพลังงานดีดตัวขึ้นจากการขาดทุนล่าสุดตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ส่วนหนึ่งถูกชดเชยจากแรงเทขายในหุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์และการเงิน

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นโดยรวมยังคงเป็นบวกเนื่องจากความคาดหวังอย่างมากว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเร่งตัวขึ้นเนื่องจากประเทศต่างๆแจกจ่ายวัคซีนแก่พลเมืองของตนแล้ว

 

·         ภาพรวมรายสัปดาห์ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2021 จุดประกายความกังวลว่าจีนสามารถปรับนโยบายที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้น แม้ว่า บริษัทโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยให้ดัชนีหุ้นมาตรฐานปรับตัวสูงขึ้นได้ในวันนี้

ทั้งนี้ ดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +0.4% ที่ระดับ 5,146.38 ด้านดัชนี  Shanghai Composite ปิด +0.5% ที่ระดับ 3,453.08 จุด



·         ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ภาพรวมรายสัปดาห์นี้ยังอยู่ในแนวโน้มเชิงบวก ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนทำให้เกิดความระมัดระวังของนักลงทุน

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.4% ด้านหุ้นเทคโนโลยีร่วงลง 1.3% ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

- หุ้นไทยเช้าปิดลบ 5.14 จุด ขายทำกำไรหลังดีดตัวตอบรับ ปธน.สหรัฐเซ็น กม.กระตุ้นศก.

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,569.99 จุด ลดลง 5.14 จุด (-0.33%) มูลค่าการซื้อขายราว 46,566.77 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวสลับบวก-ลบ ช่วงแรงดีดตัวตอบรับข่าวประธานาธิบดีสหรัฐเซ็นกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว จากนั้นจึงมีแรงขายทำกำไรออกมา ขณะที่ดัชนี SET ใกล้ 1,600 จุดทำให้ Valuation ตึงตัว รวมทั้งเวียนกลุ่มแล่นมาที่กลุ่มโรงไฟฟ้าและอสังหาริมทรัพย์ แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งตัวในกรอบใกล้เคียงภาคเช้า ให้แนวรับสำคัญ 1,560 จุด แนวต้าน 1,590 จุด

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,569.99 จุด ลดลง 5.14 จุด (-0.33%) มูลค่าการซื้อขายราว 46,566.77 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกและแดนลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,584.40 จุด และระดับต่ำสุด 1,568.79 จุด

 

- วิษณุ มองเดินหน้าโหวตแก้ รธน.วาระ 3 อาจมีปัญหาตามมา แนะช่องแก้รายมาตราเร็วกว่า

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีข้อถกเถียงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้รัฐสภามีอำนาจยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ต้องทำประชามติก่อนว่า เป็นเรื่องที่รัฐสภาจะพิจารณา แต่หากเดินหน้าพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 แม้ว่าจะสามารถทำได้ แต่เมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ทำประชามติก่อน และยังมีท่าทีของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยทั้ง ส.ว.และ ส.ส.บางส่วน ก็อาจมีโอกาสเกิดปัญหาตามมา ได้แก่ กรณีที่ 1.ไม่มีสมาชิกเข้าร่วมประชุม กรณีที่ 2.สมาชิกเข้าประชุมแต่งดออกเสียง และ กรณีที่ 3.ลงมติไม่เห็นชอบ จะทำให้จบเรื่องไปเริ่มต้นกันใหม่ ส่วนจะเริ่มทำกันทั้งฉบับหรือพิจารณาเป็นรายมาตราก็อยู่ที่รัฐสภา

 

- ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 81 ราย ในปท.30-ตรวจเชิงรุก 37-ตปท.14

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 81 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 30 ราย ในสมุทรสาคร 14 ราย ปทุมธานี 7 ราย กรุงเทพ 5 ราย เพชรบุรี 2 ราย ตาก 2 ราย, จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 37 ราย ในสมุทรสาคร 21 ราย ปทุมธานี 13 ราย ตาก 3 ราย, ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 14 ราย โดยเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าในสถานกักตัว 11 ราย


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com