• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2564

    16 มีนาคม 2564 | Economic News
   


· “ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ” ประเด็นเด่นที่ตลาดจับตา

กลุ่มนักลงทุนให้ความสำคัญกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯวันนี้ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

โดยปัจจัยสำคัญคืนนี้ จะประกอบไปด้วยช่วงเวลา
20.30น. ข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐฯ
20.30น. ข้อมูลดัชนีราคานำเข้าสหรัฐฯ
21.15น. ข้อมูลผลผลิตสหรัฐฯ
22.00น. ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคธุรกิจ




นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสำคัญกับ “การประชุมบรรดารัฐมนตีรการคลังอียู” 27 ประเทศ โดยที่นักวิเคราะห์จาก Barclays Research คาดว่าการประชุมดังกล่าวจะหารือเกี่ยวกับ
- สถานการณ์ ณ ปัจจุบัน
- แนวทางต่อไปสำหรับภาษี
- ความท้าทายในโลกยุค Digitalisation
- สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
- แนวโน้มการเติบโตของยุโรป ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา


· ดอลลาร์ทรงตัวในทิศทางแข็งค่า – ตลาดมีท่าทีระมัดระวังก่อนเฟดประชุม

ค่าเงินดอลลาร์แกว่งตัวขึ้นได้เล็กน้อยในวันนี้ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจะปรับลงจากระดับสูงสุดรอบ 1 ปี เพื่อรอฟังประชุมเฟด และกลุ่มนักลงทุนที่มีท่าทีระมัดระวังต่อการซื้อขายในตลาด ก่อนเข้าสู่การประชุมเฟดเป็นระยะเวลา 2 วัน ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้




ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 91.798 จุด

นักลงทุนคาด “มีโอกาสน้อย” ที่จะเห็นเฟดเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินนโยบายการเงิน แม้ว่าจะเห็ฯเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และมีการฉีดวัคซีน Covid-19 ให้แก่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งรัฐบาลสหรัฐฯมีการอัดฉีดเม็ดเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ

กลุ่มนักลงทุนยังคงจับตาการประชุมเฟด โดยหวังจะเห็น เฟดส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่อาจเป็นผลมาจากการเติบทางเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อที่เร็วกว่าคาด

หรือความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ

นักกลยุทธ์จาก Standard Chartered Bank กล่าวว่า

- การประชุมเฟดครั้งนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนค่อนข้างจับตา
- ตลาดรอดูว่าเฟดจะตัดสินใจเรื่องเกณฑ์การคำนวณ Supplemental Leverage Ratio (SLR) เพื่อควบคุมความเสี่ยงด้านตลาดการเงินหรือไม่
- ไม่คิดว่าเฟดจะให้สัญญาณใดๆ ที่จะกดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง - เฟดอาจมีการขยาย SLR เพื่อบรรเทาภาวะตลาด ณ ปัจจุบัน
- การยกเว้น SLR มีขึ้นเพื่อให้ธนาคารรายใหญ่ๆสามารถยกเว้นเงินฝากสำรองและพันธบัตร ในสัดส่วนที่เกินจากแผนจัดตั้งกองทุนมีกำหนดจะหมดอายุในวันที่ 31 มี.ค.นี้



ค่าเงินเยนทรงตัวในทิศทางอ่อนค่ามากสุดตั้งแต่มิ.ย. ปีที่แล้ว โดยล่าสุดอยู่แถว 109.170 เยน/ดอลลาร์

หลังวานนี้พุ่งไปทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 9 เดือนบริเวณ 109.170 เยน/ดอลลาร์ ก่อนที่ประชุมบีโอเจจะเริ่มต้นประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ และถูกคาดว่าอาจมีการปรับทบทวนขยายนโยบายการเงิน


ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.19 ดอลลาร์/ยูโร และตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก
ภาพรวมค่าเงินยูโรยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1.20 ดอลลาร์/ยูโร ที่หลุดลงมาตั้งแต่ 5 มี.ค. รับข่าวยุโรปเผชิญปัญหาผลกระทบจากการใช้วัคซีน โดยจะเห็นได้ถึงการระงับใช้วัคซีน AstaZeneca ทั้งในเยอรมนี, ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ

ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงราว 0.2% ที่ 1.3871 ดอลลาร์/ปอนด์
ตลาดรอคอยประชุมบีโออีในวันพฤหัสบดีนี้เช่นกัน โดยตลาดคาดว่าอาจเห็นบีโออีมีการคงดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 0.1% ต่อไป ควบคู่กับการเข้าซื้อพันธบัตรต่อไม่เปลี่ยนแปลง

Bitcoin ปรับอ่อนค่าลง แตะ 54,198.64 เหรียญ

หลังจากที่วันเสาร์ทำสูงสุดประวัติการณ์รอบใหม่ 61,781.83 เหรียญ


· RKI เผย ยอดติดเชื้อ Covid-19 ในเยอรมนี กำลังเพิ่มสูงขึ้นและมีความเป็นไปได้ที่จะพุ่งกลับสู่ระดับพีคอีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดของ Robert Koch Institute กล่าวว่า จำนวนยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของประเทศเยอรมนีกำลังเพิ่มขึ้น 20% ในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความเสี่ยงที่วัคซีนของบริษัท AstraZeneca จะมีประสิทธิภาพในระดับต่ำ

เมื่อวานนี้ RKI เผยจำนวนยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้น 100,000 ราย โดยเมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 83 ราย สูงกว่าวันอาทิตย์ที่อยู่ระดับ 79 ราย และสัปดาห์ก่อน 68 ราย ดังนั้น “ช่วงกลางเดือนหน้า” จึงเสี่ยงที่อาจเห็นอัตรายอดติดเชื้อรายวันพุ่งทะลุ 200 ราย/วันได้ในสัปดาห์หน้า

ขณะที่เมื่อวานนี้ เยอรมนีมีการประกาศระงับใช้วัคซีนจากบริษัท AstraZeneca เช่นเดียวกับหลายๆประเทศในยุโรปหลังมีรายงานผู้ได้รับการฉีดวัคซีนมีผลข้างเคียงและปัญหาภาวะลิ่มเลือด


· รัฐบาลฝรั่งเศส ประกาศ การพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในแคว้นบริททานีย์ของฝรั่งเศส

เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์การพบสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งภาพรวมก็ยังไม่ได้แตกต่างจากสายพันธุ์ใหม่อื่นๆที่จะเห็นได้ถึงอัตราการระบาดที่เพิ่มจำนวน แต่การระบาดของสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว ดูจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดคลัสเตอร์สที่พบในโรงพยบาลใจกลางเมือง “ลันนิยง”

· “ซูงะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19 ก่อนประชุมกับไบเดน ณ กรุงวอชิงตัน เดือนหน้า


· นายกรัฐมนตรีไทย เข้ารับการฉีดวัคซีนจาก AstraZeneca รายแรก หลังจากที่เลื่อนฉีดจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย


· หน่วยงานกำกับดูแลยาของอิตาลี ระบุว่า การระงับการฉีดวัคซีน Covid-19 ของบริษัท AstraZeneca เป็นเพียง “การตัดสินใจทางการเมือง”


· WHO เรียกร้องให้ทั่วโลกอย่าหยุดที่จะฉีดวัคซีนของบริษัท AstraZeneca แม้ว่าจะเกิดความไม่ต้องการใช้งานในยุโรปเวลานี้


· ออสเตรเลียเดินหน้าใช้วัคซีน Covid-19 ของบริษัท AstraZeneca แม้ว่าทางยุโรปจะมีการระงับใช้


· รองประธานาธิบดีเวเนซูเอลา ยืนยัน เวเนซูเอลาจะไม่อนุญาตใช้วัคซีน Covid-19 จาก AstraZeneca เนื่องจากมีผลกระทบต่อผู้ป่วย


· Roche เปิดตัวเครื่องมือทดสอบหาเชื้อไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ เพื่อช่วยจับตาเรื่องการกลายพันธุ์ของไวรัส ภายใต้ชื่อ SARS-CoV-2


· “เยลเลน” เข้าพบผู้นำทางศาสนา, กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO Group) เพื่อผลักดันการบรรเทาระดับหนี้

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะมีการเข้าพบกับองค์กร Jubilee USA Network ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร พร้อมกับเข้าพบผู้นำทางศาสนาคริสต์ เนื่องจากสหรัฐฯมีผู้เป็นคริสเตียนและยิวเป็นจำนวนมากของประเทศ เพื่อหาทางสนับสนุนและบรรเทาระดับหนี้สินให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา

การประชุมออนไลน์วาระนี้จะมุ่งเน้นไปยังแนวทางการเพิ่มทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ถาวรและการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ


· สหรัฐฯแนะจีนฟื้นฟูสัมพันธ์กับออสเตรเลีย

นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ เจ้าหน้าที่รัฐบาลอาวุโสของสหรัฐฯ และเป็นประธานด้านการประสานงาน Indo-Pacific เปิดเผยว่า ทีมบริหารของนายไบเดน มีการแจ้งแก่จีนให้มีการปรับปรุงความสัมพันธ์กับออสเตรเลียให้กลับสู่ปกติ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่จะมีผลทางนัยต่อการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนด้วย

สำหรับประเด็น “การบีบบังคับทางเศรษฐกิจ” ของจีนที่เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย ถูกยกมาเป็นหนึ่งในวาระการประชุมทุกครั้งระหว่างเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯและจีน และประเด็นเหล่านี้น่าจะถูกตอกย้ำเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ “นายแอนโธนี บลินคลินส์” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯจะมีการพบกับ นายหยาง เจี้ยฉือ นักการทูตระดับสูงของจีน และนายหวัง ญี่ ที่ปรึกษาสภารดับสูงของจีน มีกำหนดการจะพบกันในวันที่ 18 มี.ค. ในรัฐอลาสก้า ซึ่งจะเป็นการพบกันระดับสูงที่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างสองประเทศภายใต้ทีมบริหารชุดใหม่ของนายไบเดน

อย่างไรก็ดี นายแคมป์เบลล์ ระบุว่า ทีมบริหารนายไบเดนมีการพูดคุยกับนายสก็อต มอริสสัน นายกรัฐมนตรีประเทศออสเตรเลียว่า “พร้อมจะยืนอยู่เคียงข้างกัน” ท่ามกลางการประชุมผู้นำกลุ่ม Quad ที่จะประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น และอินเดีย ในวันศุกร์นี้


· “คุโรดะ” ผู้ว่าการบีโอเจ ระบุว่า บีโอเจต้องเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับ “สกุลเงินดิจิทัล”

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ กล่าวถึง ความจำเป็นที่บีโอเจจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในเวลานี้ ที่อาจจำเป็นต้องมี “ค่าเงินดิจิทัล” เป็นของตนเอง

บีโอเจจะเริ่มกระบวนการทดลองค่าเงินดิจิทัลของบีโอเจเองภายใต้ชื่อ CBDC ในช่วงเดือนมี.ค. - พ.ค. พร้อมส่งสัญญาณการแก้ไขปัญหาควบคู่กันในการเพิ่มขั้นตอนสำหรับกระบวนการพัฒนาค่าเงินดิจิทัล

ทั้งนี้ บีโอเจ ณ ปัจจุบันยังไม่มีแผนประกาศใช้ค่าเงิน CBDC ซึ่งทางบีโอเจต้องไม่เพิกเฉยจนกว่าจะมีเกิดค่าเงินของตนเอง


· ญี่ปุ่นประกาศขึ้นภาษีเนื้อวัวสหรัฐฯ ท่ามกลางงบประมาณประจำปีที่มีการจำกัดเรื่องการนำเข้า

สำนักข่าว Kyodo News รายงานว่า การประกาศดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐฯเป็นการชั่วคราวเท่านั้น หลังข้อมูลการนำเข้าในปีงบประมาณที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนนี้ ถูกคาดว่าจะมีการใช้จ่ายเกินกว่าข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว


· รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของญี่ปุ่น-สหรัฐฯ หารือกันเรื่องกิจกรรมของจีนในภูมิภาคทางทะเลจีนตอนใต้และทางฝั่งตะวันออก


· หนังสือพิมพ์ Kishi รายงานว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ แบ่งปันมุมมองความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดที่ทะเลจีนใต้เป็นสำคัญ


· เยอรมนีคาดสหรัฐฯจะเดินหน้าต่ออย่างดีทีสุ่ดสำหรับ “ข้อตกลงที่แย่” เกี่ยวกับท่อส่งก๊าซ Nord Stream ของทางสหรัฐฯ โดยที่ทางเยอรมนีจะเดินหน้าดำเนินการอย่างเหมาะสมสำหรับโครงการท่องส่งก๊าซ Nord Stream 2 เพื่อขนส่งจากรัสเซียไปยังยุโรป และผลักดันให้ท่อส่งก๊าซมีความสมบูรณ์ที่สุดแม้ว่าจะถูกคัดค้านจากทางสหรัฐฯก็ตาม


· ครอบครัวกลุ่มคนเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยพม่าเตรียมรับศพเพื่อประกอบพิธี หลังปะทะกับกองกำลังความมั่นคงของพม่า “ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น” และเมื่อคืนนี้ประชาชนพม่ามีการร่วมจุดเทียนไว้อาลัยแก่กลุ่มผู้ต่อต้านรัฐประหาร โดยไม่สนใจคำสั่งเคอร์ฟิวส์ของรัฐบาลทหาร


· องค์กร U.N. พบสัญญาณ “ปัญหา” จากราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศพม่า นับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร 


ที่มา : Reference: CNBC, Reuters, Share Cast

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com