ราคาทองคำวันนี้ปรับขึ้นได้แม้จะทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรรอบกว่า 2 สัปดาห์จากโอกาสที่จะเห็นเงินเฟ้อปรับขึ้น แม้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ และนักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนทราบผลประชุมเฟด
ทองคำตลาดโลกเคลื่อนไหวแถว 1,736.42 เหรียญ หลังไปทำสูงสุดแถว 1,740.90 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 1 มี.ค.
สัญญาทองคำเคลื่อนไหวปรับขึ้น 0.3% บริเวณ 1,735.4 เหรียญ
นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA คาดทองคำกำลังปรับขึ้นแม้ว่าจะเห็ฯอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและดอลลาร์ขยับขึ้นก็ตาม และภาพรวมดูเหมือน "ทองคำจะถูกถือครองเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ" ในเวลานี้ จึงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนทองคำ
นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสในฝ่ายเทคนิค จาก Phillip Futures คาดว่า ตลาดรอคอยถ้อยแถลงของประชุมเฟด และภาพทางเทคนิคของทองคำ ยังเป็นขาลง ซึ่งแนวโน้มของตลาดทองคำจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้นได้ หากยืนเหนือ 1,760 เหรียญ
· ทองคำ - ซิลเวอร์ ขยับขึ้นก่อนเปิดตลาดยุโรป
ราคาทองคำและซิลเวอร์ขยับขึ้นได้ราว 0.2% ก่อนตลาดยุโรปเปิดทำการ
ราคาทองคำปรับขึ้นมาที่ 1,734.65 เหรียญ
ราคาซิลเวอร์ขยับมาที่ 26 เหรียญ
ปัจจัยสำคัญต่อตลาด
1) สหรัฐฯ-จีน
- สหรัฐฯระบุถึงเจ้าหน้าที่จีนและฮ่องกงจำนวน 24 รายที่เกี่ยวข้องกับการลดความเป็นเอกราชของฮ่องกง และเตือนถึงการจะใช้ "มาตรการคว่ำบาตร"
- ตลาดสนใจการประชุมระดับสูง ซึ่งจะเป็นการเผชิญหน้ากันของผู้แทนสหรัฐฯ-จีนในรัฐอลาสกา สัปดาห์นี้
- ท่าทีล่าสุดของนายแอนโธนี บลินคินส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ต่อจีนดูจะยังมีความ "เข้มงวด" มากขึ้น
2) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายขยายเวลาโครงการ PPP ด้วยมติ 415 - 3 เสียง ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือกลุ่มบริษัทขนาดเล็ก
3) ฮอนด้าระงับการผลิตทั้งหมดในโรงงานที่ตั้งอยู่ที่ประเทศสหรัฐฯและแคนานา จากปัญหาอุปทาน โดยเฉพาะการขาดแคลน Semiconductors ในเวลาน้ และไม่แน่ชัดว่าปัญหาดังกล่าวจะอยู่นานเท่าไร
4) สมาชิกธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ไม่คิดว่า การดำเนินนโยบายการเงินจะช่วยหรือสามารถควบคุมราคาสินทรัพย์ต่างๆได้ พร้อมคาดว่า การล้มเหลวของภาคธุรกิจที่มากขึ้นอาจทำให้มาตรการการสนับสนุนทางการเงินต้องยกเลิกออกไป
5) สมาชิกอีซีบี มองว่ากองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจภูมิภาค 7.5 แสนล้านยูโร "อาจไม่เพียงพอ" กู้วิกฤตเศรษฐกิจในเวลานี้
6) สมาชิกอีซีบีอีกราย เชื่อว่า การรับมือทางการเงินของอียูล้าหลังกว่า "สหรัฐฯ" ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่เป็นตัวสะท้อนถึงปัจจัยได้เป็นอย่างดี แต่การเคลื่อนไหวของพันธบัตรในยูโรโซนนั้นตรงกันข้าม
7) AEA เผยรายงานล่าสุด อิหร่านมีการเข้าใกล้การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้มากขึ้น และสิ่งนี้ดูจะไม่เป็นที่พอใจและทำให้ประชาคมระหว่างประเทศเลือกตอบโต้ด้วยมาตรการคว่ำบาตร
8) นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ระบุถึงการพิจารณาเรื่อง Lockdown ในกรุงปารีส ขณะที่อิตาลีและฝรั่งเศสกำลังพิจารณาการสิ้นสุดการระงับใช้วัคซีน AstraZeneca
9) ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญต่างๆในวันนี้ โดยเฉพาะ "ประชุมเฟด เวลาตี 1 (ตามเวลาไทย)", ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ, ข้อมูลเงินเฟ้อยูโรโซน เป็นต้น
· หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Murrenbeeld & Co ชี้ อัตราผลตอบแทนสหรัฐฯที่เข้าใกล้ 2% อาจบังคับให้เฟดต้องหานโยบายสกัด และนี่ "จะเป็นผลดีต่อทองคำ"
ตลาดทองคำยังคงอ่อนตัวลงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่เข้าใกล้สูงสุดรอบ 1 ปี เหนือ 1.6% ขณะที่ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Murrenbeeld & Co มองว่า แรงเทขายในตลาดพันธบัตรในเวลานี้อาจไม่สามารถกดดันทองคำได้นานกว่านี้
ขณะเดียวกัน แม้จะยังไม่เห็น "ทองคำ" ทำสูงสุดประวัติการณ์ได้อีกครั้งในปี 2021 แต่ปลายปีทองคำก็ยังมีโอกาสที่จะขึ้นได้ต่อ แม้ว่าจะปราศจากปัจจัยสนับสนุนราคาก็ตาม
ทั้งนี้ แม้จะเห็นการปรับลงของราคาทองคำไม่ว่าจะ 50 หรือ 100 เหรียญ ก็เป็นผลหลักๆมาจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯทั้งสิ้น ดังนั้น ผลดังกล่าวจะเป็นผลเพียง "ระยะสั้นๆ" และทองจะยิ่งได้รับแรงกดดันหากอัตราผลตอบแทนไปแตะ 2%
ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไปถึงระดับนั้น กลุ่มผู้บริโภคก็จะยิ่งก้าวเข้าสู่ "ปัญหา" และทำให้เฟดต้องตัดสินใจพยายามระงับแรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรตามมา
· VanEck คาดทองคำจะดิ่งลงแตะ 1,600 เหรียญได้ก่อนฟื้นตัวแตะ 3,000 เหรียญ
หนึ่งในนักบริหารพอร์ตจาก VanEck มองว่า ราคาทองคำยังคงเผชิญความท้าทายและความผันผวนจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ดังนั้น จึงปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในระยะสั้นลงจากที่เข้าสู่ภาวะสะสมพลัง เป็นการเข้าสู่ "การปรับฐาน" ที่อาจเห็นทองคำที่ปรับลงไปกลับมายืนเหนือ 1,600 เหรียญ
และถึงแม้ทองคำจะชะลอตัวอยู่ในระดับนี้ต่อไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ก็คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังทองคำจะสามารถกลับขึ้นมาได้
ดังนั้น "ระยะยาวจึงมองทองคำเป็นขาขึ้น" โดยจะมีปัจจัยหลักจากการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ, คาดการณ์เงินเฟ้อปรับขึ้นได้ในสภาวะที่ฟื้นฟูกลับสู่ช่วงก่อนการระบาด แม้ว่าจำนวนความคืบหน้าของยอดติดเชื้อจะส่อแววควบคุมได้ก็ตาม
ราคาซิลเวอร์อ่อนตัวลง 0.2% ที่ 25.90 เหรียญ
ราคาพลาเดียมปรับลง 0.3% ที่ 2,490.16 เหรียญ หลังไปทำสูงสุดรอบ 1 ปีบริเวณ 2,520.31 เหรียญวานนี้