• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2564

    18 มีนาคม 2564 | Gold News



·         ประชุมเฟดตามคาด - คงดอกเบี้ย, QE แม้จะเล็งเห็นเศรษฐกิจแกร่ง และเงินเฟ้อขึ้น

 

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ยังคาดหวังว่าจะเห็นเงินเฟ้อปรับขึ้นได้ในปีนี้ ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วบรรเทาลง

 

อย่างไรก็ดี เขาระบุว่า ยังไม่มีปัจจัยเพียงพอให้เขาเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายทางการเงินใดๆ ขณะที่เงินเฟ้อมีโอกาสเหนือ 2% ในบางช่วง และเฟดจะยังหนุนให้เป้าหมายการจ้างงานกลับมาโตได้เต็มที่

 

·         สรุปประชุมเฟด

-      คงดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำในกรอบ 0.25% - 0.50%

-      คงการเข้าซื้อพันธบัตร (QE) ที่ 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน

-      เฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปี 2023

-      เฟดคงคาดการณ์ระดับดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปี 2023 ที่ 0.1% และระยะยาวในปี 2025 ที่ 2.25%


ทองขึ้นกว่า 1% หลังเฟดยัน “คงแนวทางผ่อนคลายทางการเงิน”

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้กว่า 1% จากการที่เฟดยืนกรานที่จะยังเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.8% ที่ 1,743.93 เหรียญ หลังปรับขึ้นได้กว่า 1.2%


·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย.  ปิด +0.2% ที่ 1,727.10 เหรียญ

 

·         นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญของทองคำ คือ ถึงแม้เฟดจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มเติบโตขึ้น แต่ก็จำเป็นต้องเห็นผลลัพธ์ของ เงินเฟ้อและการจ้างงานตามเป้าที่วางไว้ ก่อนที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้น หากทิศทางดังกล่าวไม่เป็นไปตามคาด เฟดก็จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย และประเด็นดังกล่าว “หนุนราคาทองคำในระยะสั้นๆ”

 

·         ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.5% ที่ 91.41 จุด

 

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาที่ 1.41% หลังทำสูงสุดตั้งแต่ 24 ม.ค. ปีที่แล้ว บริเวณ 1.689% ก่อนทราบผลประชุมเฟด

 

·         นักวิเคราะห์จาก BMO มองว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนทองคำ คือการที่ตลาดพันธบัตรยังอยู่ห่างไกลจากโอกาสที่เฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการ ประกอบกับคาดการณ์เฟดที่จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนถึงปี 2023 จึงทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัว กดดันดอลลาร์และหนุนทองคำ

 

·         ทองคำยังถูกเข้าถือครองเพิ่ม จากสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อ

 

·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า ตลดในเวลานี้ดูจะหันไปสนใจกับกระแสคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อแทน



 

·         กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายทองคำออก 2.04 ตัน โดยปัจจุบันถือครองที่ระดับ 1,048.28 ตัน ทำต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนเม..

 

ภาพรวมขายต่อเนื่องมาแล้ว 10 วัน อยู่ที่  38.84 ตัน ส่งผลให้ภาพรวมปัจจุบันเดือนมี.ค. ขายทองคำรวมสุทธิ 45.25 ตัน




 

ตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน ปี 2021 กองทุน SPDR ขายทองคำออกแล้วทั้งสิ้น สุทธิ 122.46 ตัน

 

อย่างไรก็ดี เดือนมี.ค. ปี 2021 กองทุน SPDR ยังมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ โดยมีการขายออกตั้งแต่ต.ค. - ปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 220.61 ตัน

 

·         ซิลเวอร์ปิด +1.3% ที่ 26.30 เหรียญ

·         แพลทินัมปทรงตัวที่ 1,211.81 เหรียญ

·         พลาเดียมปิดปรับขึ้น 2.8% ที่ 2,568.61 เหรียญ หลังไปทำสูงสุดรอบกว่า ปีที่บริเวณ 2,578.31 เหรียญในช่วงต้นตลาด 


·         CORONAVIRUS UPDATES:

ล่าสุดพบรายงานยอดติดเชื้อภายในประเทศรายวันยังเพิ่มขึ้น 70 ประเทศทั่วโลก



สถานการณ์การระบาดทั่วโลกล่าสุดพบยอดติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่ม 526,765 ราย รวมสะสม 121.80 ล้านราย ขณะที่เสียชีวิตรวมสะสมทั่วโลกใกล้ 2.7 ล้านราย ล่าสุดแตะ 2.69 ล้านราย

ยอดติดเชื้อใหม่รายวันในสหรัฐฯเพิ่ม 61,052 ราย รวมสะสมล่าสุด 30.29 ล้านราย และเสียชีวิตสะสมในประเทศทะลุ 550,000 ราย



สถานการณ์การระบาดในไทย:

ศบค.เผยไทยติดเชื้อพุ่ง 248 ราย ดับเพิ่ม 1 ราย ศรีสะเกษ’ ไข่แตก พบติดเชื้อโยงคลัสเตอร์ตลาดบางแค

 


 

ภาพรวมพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สะสม 88 ส่วนการระบาดรอบใหม่ผู้ติดเชื้อสะสม 27,402 ราย

ทั้งนี้พบผู้ติดเชื้อใน กทม. รวม 167 ราย


ศรีสะเกษ” คือ จังหวัดที่เพิ่มมาใหม่ โดยจังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อมี 13 จังหวัด

จังหวัดที่ยังพบผู้ติดเชื้อใน 3-6 วันที่ผ่านมามี 3 จังหวัด

และจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อใน 1-2 วันที่ผ่านมามี 13 จังหวัด




ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า ไทยเร่งศึกษา'วัคซีนพาสปอร์ต'นำร่อง 10 ประเทศอาเซียน ขณะที่กลุ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด19”แล้ว 58 %

ผู้ได้รับ วัคซีนโควิด19”ของประเทศไทยสะสมตั้งแต่ 28 ก.พ.-16 มี.ค.2564 จำนวน 53,842 ราย คิดเป็น 58%ของกลุ่มเป้าหมายเข็มแรกในล็อตแรก และภาพรวมยังไม่พบอาการข้างเคียงที่รุนแรง พร้อมคาด อัตราฉีดวัคซีนโควิด19”ไทยพุ่งสูงตั้งแต่มิ.ย.  

ซีอีโอ TMB ชี้เศรษฐกิจไทยสิ้นสุดทางเลื่อน เร่งฉีดวัคซีนปิดจุดอ่อน 6 ด้าน และต้องเพิ่ม รายได้ต่อหัว” มากกว่าปั๊มจีดีพี


·         ทั่วโลกเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนได้แล้ว 126 ประเทศ โดยล่าสุดมีปริมาณการฉีดรวม 390.22 ล้านโดส



·         รัฐมนตรีญี่ปุ่น เผย ญี่ปุ่นจะทำการยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินกรุงโตเกียวตามแผนเดิมในวันอาทิตย์นี้ 


·         WHO แนะนำให้ฉีดวัคซีน AstraZeneca ต่อ ชี้ ให้ประโยชน์มากกว่าสร้างความเสี่ยง

คณะกรรมาธิการที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยของวัคซีนประจำ WHO ได้มีการพิจารณาปรับทบทวนข้อมูลวัคซีนบริษัทดังกล่าวแล้ว และได้มีการแถลงการณ์ว่า วัคซีนต้าน Covid-19 จะไม่สามารถช่วยลดอาการป่วยหรือเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆได้


·         ไต้หวันเดินหน้าใช้วัคซีน AstaZeneca โดยจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนสัปดาห์หน้า


·         อิตาลีและฝรั่งเศส พร้อมเริ่มโครงการฉีดวัคซีน AstraZeneca หากกลุ่มผู้กำหนดนโยบายให้ผ่านใบอนุมัติ Green Light


·         นิวซีแลนด์ใกล้บรรลุข้อตกลงการจัดการด้านการเดินทางกับทางออสเตรเลียเร็วๆนี้


·         ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ยังคงความหวังเห็นเศรษฐกิจฟื้นตามคาด แม้จะมีความคืบหน้าด้านวัคซีน


·         สถาบัน Standard & Poor (S&P) ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ที่ระดับ "AA+/A-1+"

โดยระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และการดำเนินนโยบายการเงินที่มีความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐสามารถรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ได้


·         Morgan Stanley กลายเป็นธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐฯที่เสนอให้ลูกค้ากลุ่ม “Wealth” เข้าถึงกองทุน Bitcoin


·         CNBC เผยรายงานใหม่ล่าสุด “จีนเสริมความสามารถด้านการค้าอาวุธ” เพื่อไว้คานกลุ่มปัญหาทางการเมืองจากประเทศอื่นๆ 


·         นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 30.70-30.90 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ บาทแกว่งตัวแคบๆ เคลื่อนไหวตามภูมิภาค โดยตลาดรอดูผลประชุม FOMC คืนนี้ว่าประธานเฟดจะมีนโยบายดูแลเรื่องบ อนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างไรบ้าง

นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังจับตาท่าทีของธนาคารกลางจีนอย่างใกล้ชิดว่าจะใช้นโยบายควบคุมสภาพล่องในปีนี้หรือไม่ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางจีนได้เรียกร้องให้มีการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนักในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

 

 ·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งประเทศไทย เผยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ราว 2.6%

ใกล้เคียงกับที่กระทรวงการคลังประเมินไว้ที่ 2.8% และกรอบคาดการณ์ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ที่ 2.5-3.5%

KKP Research ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยขึ้นจาก 2.0% เป็น 2.7%

ตามผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่ที่น้อยกว่าที่ประเมินไว้และการฟื้นตัวของการส่งออก โดยการระบาดระลอกใหม่ที่เริ่มต้นเมื่อเดือนธันวาคม จบลงเร็วกว่าคาด ส่งผลให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 1 ต่ำกว่าที่ประเมิน

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชี้สภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้าและความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-9

ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลุ่มลูกค้าที่มีความเปราะบาง เช่น กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) แต่โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงจากการชะลอตัวอย่างรุนแรงของภาวะเศรษฐกิจนั้นได้ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว  กิจกรรมในภาคธุรกิจน่าจะมีการเติบโตดีขึ้นในปี 2564 จากระดับฐานที่ค่อนข้างต่ำในปี 2563

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตือนประชาชนระมัดระวังและไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกรรม THT หรือ stablecoin

เนื่องจากไม่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย รวมทั้งอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ หรือถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการฟอกเงิน

รัฐสภาไทยถกทางออกปมโหวตแก้ รธน.วาระ 3 กว่า 4 ชม.ยังไร้ข้อสรุป

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 แนวทางการปรับปรุง และมาตรการในการแก้ไขกรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุนมีจำนวนน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลของงบประมาณประจำปี ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 4/2564 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ9) ซึ่งถือเป็นการปรับย้ายกลางปีแทนตำแหน่งที่ว่างลง เพื่อมาทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานด้านยุทธศาสตร์ตำรวจ การปฏิรูปตำรวจให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ

- TRUE คาดดันยอดผู้ใช้ 5G สิ้นปีนี้เป็น 1 ล้านราย,วางงบ 4-6 หมื่นลบ.ในช่วง 3 ปี

กลุ่ม REDEM ปักหมุดนัดชุมนุมสนามหลวง 20 มี.ค.ไม่เคลื่อนขบวน-ไร้แกนนำ


·         อ้างอิงจาก The Bangkok Inside

ธปท. – ก.ล.ต.” เตือนประชาชนห้ามเอี่ยวธุรกรรม Stablecoin “THT” เข้าข่ายผิดกฎหมาย ลดความเชื่อมั่นค่าเงินบาท

นายพฤทธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกฎหมาย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ภาคเอกชนมีความพยายามในการพัฒนาคริปโทเคอร์เรนซีด้วยการอิงมูลค่ากับสินทรัพย์หรือเงินตรา เพื่อให้มูลค่าผันผวนน้อยลง ซึ่งคริปโทเคอร์เรนซีประเภทนี้ รู้จักในชื่อว่า “Stablecoin”

แม้ในปัจจุบัน THT จะยังไม่ได้ถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แต่ถ้า THT หรือ stablecoin ที่มีลักษณะทำนองเดียวกันถูกนำมาใช้ทดแทนเงินบาทในวงกว้าง จะทำให้เกิดการแบ่งแยกระบบเงินตราของประเทศไทยออกไปมากกว่าหนึ่งระบบ และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและความมั่นคงของระบบเงินตราของประเทศ อันเป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ


 ·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์

- ธปท. เตือนตลาดเงินโลกผันผวน มองบาทยังแข็งค่า แนะใช้ TFEX ลดเสี่ยง

ธปท. มองตลาดการเงินโลกยังเสี่ยงผันผวน แนะผู้ประกอบการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ฟาก KTB มองเงินบาทครึ่งปีหลังยังแข็งค่า  ด้าน TFEX หนุนใช้ USD Futures ช่วยบริหารความเสี่ยง เหตุต้นทุนต่ำ ใช้เงินน้อย    

นายสุโชติ เปี่ยมชล ผู้อำนวยการ ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันความผันผวนในตลาดการเงินมีแนวโน้มสูงขึ้น และนานขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงมากขึ้น โดยข้อดีของการบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ คือ ช่วยทำให้รายได้มีเสถียรภาพ     สำหรับที่ผ่านมา พบว่า ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ป้องกันความเสี่ยงค่อนข้างต่ำและไม่สม่ำเสมอ และมีอุปสรรคสำคัญ คือ ไม่มีความรู้ ไม่คุ้น ไม่ทราบวิธีป้องกันความเสี่ยง ไม่เข้าใจประโยชน์ มองเรื่องเงินบาทเป็นเรื่องไกลตัว   นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเข้าถึงเครื่องมือ โดยไม่มีวงเงินสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ค่าธรรมเนียมแพง ธนาคารพาณิชย์ไม่รับทำธุรกรรมขนาดเล็ก  และมีบางส่วนกลัวว่า Hedge แล้วจะขาดทุนทันทีจากการบันทึกบัญชี และเข้าใจว่าทางการกำหนดค่าเงินได้    

นายสุโชติ กล่าวว่า ปัจจุบันมี 6 วิธีบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ประกอบด้วย

1.สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward)

2.สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศผ่านตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Futures)

3.การประกันค่าเงิน (FX )

4. การเปิดบัญชีเงินฝาก เงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit : FCD)

5.หักกลบรายได้รายจ่าย สกุลเงินตราต่างประเทศ (Netting & Matching)

6.การใช้เงินสกุลท้องถิ่น (Local Currency)

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com