MTS Help Center

CNBC สรุปภาพประกอบเห็นชัดถึงสัญญาณ Third Wave หรือ การระบาดของไวรัสโคโรนาระลอก 3 เริ่มแล้ว

 

สัญญาณเตือนเกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนของยอดผู้ติดเชื้อในเยอรมนีที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น การ Lockdown เป็นเวลานานของฝรั่งเศส ที่เป็นตัวตอกย้ำสถานการณ์ที่ยังย่ำแย่ของยุโรปจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

 

“สายพันธุ์ใหม่” ที่พบในประเทศอังกฤษ เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเห็นยอดติดเชื้อใหม่เพิ่มจำนวนสูงขึ้น และมีรายงานพบว่ากำลังมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้นกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม

 

ประเทศฝรั่งเศส

- เมืองหลวงและทางภาคเหนือของประเทศจะทำการ Lockdown รอบใหม่เริ่มศุกร์นี้ (สถานศึกษาและร้านค้าจำเป็นจะยังเปิดให้บริการ)

- ค่าเฉลี่ยการติดเชื้อใหม่ช่วง 7 วันทำการ พุ่งสูงเหนือ 25,000 ราย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ พ.ย. ปีที่แล้ว

 

 

ประเทศเยอรมนี

- นางอังเกลา แมร์เคล ประกาศผ่อนคลาย Lockdown ตั้งแต่มี.ค. หลังยอดตืดเชื้อรายวันเฉลี่ยจาก 100,000 ราย อยู่ที่ 65 รายในช่วง 7 วัน

- ล่าสุด จำนวนค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นมาที่ 96 ราย

- เกิดความกังวลว่าเทศกาลอีสเทอร์ที่ใกล้จะถึงอาจรุนแรงเหมือนช่วงเทศกาลคริสต์มาสได้

 

 

ประเทศอิตาลี

- นายมาริโอ ดรากี้ นายกรัฐมนตรีอิตาลีคนใหม่ มีแผนขยาย Lockdown รอบใหม่ ถึงช่วงเทศกาลอีสเทอร์

- อิตาลีมียอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุดเป็นลำดับที่ 6 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 103,855 ราย

 

ประเทศโปแลนด์

- ยอดติดเชื้อใหม่ในประเทศเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 52% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก “สายพันธุ์ใหม่ที่พบในประเทศอังกฤษ”

- ยอดติดเชื้อในประเทศสะสมทะลุ 2 ล้านราย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

- วันศุกร์ที่ผ่านมาพบยอดติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มมากถึง 25,998 รายภายใน 24 ชั่วโมง

 

การระบาดในยุโรปเกิดขึ้นท่ามกลาง “ความพยายามผลักดันโครงการฉีดวัคซีน” ในหลายๆประเทศ แต่ก็ยังอยู่ห่างไกลเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯและประเทศอังกฤษ

ท่ามกลางความขาดแคลนอุปทานด้านวัคซีนและปัญหาการฉีดวัคซีนของบริษัท AstraZeneca ในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดการระงับใช้วัคซีนชั่วคราวในหลายๆประเทศของทางยุโรป ก่อนที่ผลการตรวจสอบจากองค์การกำกับดูแลยาแห่งยุโรป (EMA) จะเผยว่าไม่มีความข้องเกี่ยวกับกรณีลิ่มเลือดจากการฉีดวัคซีนของบริษัทดังกล่าว

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เยอรมนีออกโรงเตือนว่า “วัคซีนในยุโรปยังไม่เพียงพอ” ที่จะสกัดการระบาดระลอกสามได้

 

ที่มา CNBC