MTS Help Center

 

Dow Jones ปิดร่วงกว่า 200 จุด จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร ปิดลบหลังปิดบวกต่อเนื่อง 2 สัปดาห์

ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์ หลังจากที่ เฟดตัดสินใจไม่ขยายโครงการช่วยเหลือภาคธนาคารช่วง Covid-19 ประกอบกับตลาดถูกกดดันจากแรงเทขายทำกำไรในตลาดพันธบัตรจึงหนุนให้อัตราผลตอบแทนระยะยาวปรับขึ้นและกดดันหุ้นกลุ่มการเงิน

ดัชนีดาวโจนส์ปิด -234.33 จุด หรือ -0.7% ที่ 32,627.97 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้น Visa และ JPMorgan

ดัชนี S&P500 ปิด -0.1% ที่ 3,913.10 จุด โดยระหว่างวันทำต่ำสุดดิ่งลง 0.7%

ดัชนี Nasdaq ปิด +0.8% ที่ 13,215.24 จุด จากนักลงทุนที่ช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในจังหวะราคาถูก หนุนให้หุ้นบริษัท Facebook +4% ขณะที่ Amazon และ Netflix ปิด +1.5% โดยประมาณ

อย่างไรก็ดี การตัดสินใจของเฟดดังกล่าว ดูจะส่งผลให้นักลงทุนค่อนข้างกังวลกับผลกระทบที่จะตามมา โดยเทรดเดอร์ส่วนใหญ่กล่าวเตือนให้ระมัดระวังถึงแรงเทขายที่อาจเกิดขึ้นจากภาคธนาคารต่างๆได้ และจะยิ่งเป็นปัจจัยให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้นต่อเนื่อง

หัวหน้าฝ่ายการลงทุนประจำ Rockefeller กล่าวว่า นักลงทุนค่อนข้างผิดหวังกับ “การตัดสินใจของเฟด” ที่ไม่ทำการขยายเวลาโครงการช่วยเหลือต่อ โดยช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้าค่อนข้างมีหลายๆกระแสคาดการณ์เข้ามาในตลาดว่าจะเห็นเฟดขยายโครงการช่วยเหลือ SLR สำหรับภาคธนาคารรายใหญ่ให้มีแรงพอจะเข้าซื้ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรต่อไป

สถานการณ์จากเฟดล่าสุดส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารต่างๆเผชิญแรงเทขายหลังทราบการตัดสินใจดังกล่าว นำโดย หุ้นธนาคาร JPMorgan และ Goldman Sachs ที่ต่างปรับตัวลดลงไปไม่น้อยกว่า --1% หุ้นธนาคาร Wells Fargo ปิด -2.9% ขณะที่หุ้นธนาคาร Bank of America -1%.

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นก่อนจะอ่อนตัวลงมาทรงตัวแถว 1.73% ซึ่งก็ยังใกล้กับระดับสูงสุดรอบ 14 เดือน และจะเห็นได้ว่าตั้งแต่เริ่มปี 2021 อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี อยู่ต่ำกว่าระดับ 0%

ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนี Dow Jones ปิด -0.5%
ดัชนี S&P500 ปิด -0.8%
ดัชนี Nasdasq ปิด -0.8% และเป็นการปิดแดนลบต่อเนื่อง 4 ใน 5 สัปดาห์

ขณะที่ Dow Jones และ S&P500 ปิดสัปดาห์แดนลบครั้งแรกหลังปิดบวกต่อเนื่อง 2 สัปดาห์

ที่มา: CNBC