ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงกว่า 1% ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลของตลาด เกี่ยวกับ
1) การระบาดรอบใหม่ของไวัรสโคโรนา
2) ความล่าช้าโครงการฉีดวัคซีน
3) หวั่นอุปสงค์ยุโรปได้รับผลกระทบทำให้ฟื้นตัวได้อย่างล่าช้า
4) บรรดาผู้ผลิตหั่นราคาน้ำมัน หลังสัญญาณอุปทานในตลาดยังเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับลง 80 เซนต์ หรือ -1.3% ที่ 60.76 เหรียญ/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับลง 93 เซนต์ หรือ -1.4% ที่ระดับ 63.69 เหรียญ/บาร์เรล
ภาพรวมการขยาย Lockdwon สู้ Third Wave ในยุโรป และการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ดูจะเป็น "ปัจจัยหลักในการกดดันตลาดน้ำมัน"
"เยอรมนี" ถือเป็นประเทศที่มีการบริโภคน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ประกาศขยายเวลา Lockdown จนถึง 18 เม.ย. พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเพื่อยุติการระบาดของ Covid-19
สัปดาห์ที่แล้ว IEA มีการประกาศปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันใน 2021 ลงราว 2.5 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะเดียวกัน IEA คาดอุปทานทั่วโลกอาจเป็นตัวช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันในช่วงครึ่งหลังของปีได้
ความต้องการน้ำมันในตลาดต่างๆ สะท้อนว่า อุปสงค์น้ำมันยังอ่อนแอ และสร้างแรงกดดันมากขึ้นให้แก่ตลาดซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ด้วย
เมื่อวานนี้ "ไนจีเรีย" หนึ่งในประเทศผลิตน้ำมันรายใหญ่ของแอฟริกา มีการปรับลดราคาขายน้ำมันในเดือนเม.ย. โดยบ่งชี้ว่า ซัพพลายเออร์ต่างๆ พยายามที่จะกระตุ้นยอดขาย
"อังโกลา" ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของแอฟริกา และมีการขายน้ำมันให้แก่ลูกค้าสำคัญอย่างประเทศจีนยังพบว่าไม่สามารถเพิ่มยอดขายในเดือนเม.ย. ได้ และมีสัญญาณปราศจากความสนใจจากโรงกลั่นน้ำมันในประเทศจีนอยู่เวลานี้
ผลสำรวจจากรอยเตอร์ส แสดงให้เห็นว่า กลุ่มนักวิเคราะห์ ประเมินว่า สต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯจะลดลงราว 900,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางการใช้น้ำมันในโรงกลั่นที่เพิ่มขึ้นเพียง 3.2%
สำหรับข้อมูลอื่นๆจาก EIA ถูกคาดว่าจะเปิดเผยอีกครั้งในวันพุธนี้
ที่มา: Reuters