• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2564

    23 มีนาคม 2564 | Economic News

   


· ดอลลาร์แข็ง - นักลงทุนรอ "โพเวลล์ & เยลเลน" แถลงต่อสภาคองเกรส

ค่าเงินดอลลาร์วันนี้ปรับแข็งค่ขึ้นได้ต่อแต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ทำไว้ก่อนหน้า ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอย "ถ้อยแถลงของประธานเฟด" ว่าจะมีการส่งสัญญาณยอมให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นต่อหรือไม่


ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.12% ที่ 91.847 จุด

ค่าเงินเยนอ่อนค่า 0.09% ไปที่ 108.73 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.44% ท่ี่ 0.7710 ดอลลาร์/ออสเตรเลีย

ค่าเงินนิวซีแลนด์อ่อนค่า 0.98% ที่ 0.7092 ดอลลาร์/กีวี

รัฐบาลนิวซีแลดน์มีการแนะนำก้าวต่อไปสำหรับการควบคุม "การเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์" จึงลดกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย

ค่าเงินหยวนแข็งค่าอีก 0.04% มาที่ 6.5098 หยวน/ดอลลาร์

ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.13% ไปที่ 1.3845 ดอลลาร์/ปอนด์


สำหรับไตรมาสแรกของปีนี้ ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ราว 2% โดยมีปัจจัยหนุนหลักๆมาจาก

- โครงการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วของสหรัฐฯ

- การลงนามแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

- ความหวังเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

- การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหนุนนักลงทุนถือดอลลาร์มากขึ้นด้วย

- เฟดไม่มีแนวทางจำกัดการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ในวันนี้อ่อนตัวลงมาที่ 1.684% หลังจากสัปดาห์ก่อนทะยานไปแตะ 1.754%

หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายค่าเงินจาก MUFG Bank กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอาจปรับขึ้นได้อีก และตลาดอาจต้องหาวิธีรับมือกับความเจ็บปวดที่ได้รับจากสิ่งที่เฟดตัดสินใจ


กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสของ "นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด" และ "นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ* ในคืนนี้ เวลาประมาณ 21.00น.

นักกลยุทธ์อาวุโสจาก Daiwa Securities ระบุว่า ตลาดกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับ "วิธีรับมือกับการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร" ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดที่ยังส่งสัญญาณจะคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2023 และอาจเห็นการแสดงเสียงค้านในเรื่องนี้เพิ่มเติม


นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสนใจไปยัง "การประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ" อายุ 5 ปี และ 7 ปี ช่วงปลายสัปดาห์นี้

สำหรับค่าเงินลีราของตุรกีมีระดับการซื้อขายที่ 7.7980 ดอลลาร์/ตุรกี โดยที่มีระดับเสถียรภาพมากขึ้นหลังเมื่อวานนี้ดิ่งลึกกวา่ 7.5%

ตลาดเกิดใหม่ค่อนข้างถูกสั่นคลอนความเชื่อมั่นในตลาดค่าเงิน หลังประธานาธิบดีตุรกีมีคำสั่งปลดฟ้าผ่านผู้วา่การธนาคารกลางของประเทศ แต่ภาพรวม ยังไม่มีการพิจารณาถึงความเสี่ยงที่จะขยายวงกว้าง


Bitcoin ทรงตัวที่ 54,549 เหรียญ หลังร่วงลงเกือบ -5% และเมื่อวานนี้มีการทำจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่ 53,221 เหรียญ


· "เยลเลน" รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เล็งเห็นโอกาสเศรษฐกิจโตหลังจบ Covid-19 และการจ้างงานได้อย่างเต็มที่ในปีหน้า

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ดูจะมี "มุมมองเชิงบวก" ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ี่จะก้าวพ้นช่วงแห่งการระบาดของไวรัสโคโณนาได้อย่างรวดเร็ว ต่อหน้าการกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการกำกับดูแลบริการภาคธนาคารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯในคืนนี้



นอกจากนี้ เธอน่าจะเล็งเห็นโอกาสความเป็นไปได้ในสองประเด็นสำคัญคือ

1) การเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ

2) การจ้างงานได้อย่างเต็มที่ในปี 2022

ซึ่งทั้งหมดได้รับแรงสนับสนุนมาจาก "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายไบเดน"

ทั้งนี้ นางเยลเลน มีการเขียนรายงานเตรียมกล่าวถ้อยแถลงในคืนนี้ โดยมีการย้ำถึง "การผ่านร่างกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ หรือ American Rescue Plan Act ได้ "สร้างความเชื่อมั่น" ให้แก่เธอเป็นอย่างมากว่าจะเห็นเศรษฐกิจสามารถเติบโตขึ้น และเกิดการจ้างงานได้โดยสมบูรณ์ในปีหน้านี้


· บรรดาผู้เชี่ยวชาญ ชี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี อาจไม่สามารถไปถึง 2% ได้

ผู้เชี่ยวชาญจาก Fidelity Investments กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีอาจปรับขึ้นได้ แต่ไม่น่าไปถึงจุดที่สร้างความเสี่ยงให้แก่ตลาดการเงิน และถึงแม้จะขึ้นมาได้ถึง 1.75% แต่การขึ้นไปแนว 2% น่าจะเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างจำกัดมากกว่า


· การประมูลตราสารหนี้สหรัฐฯ ถือเป็น "บททดสอบ" อุปสงค์ตลาด หลังเผชิญการซื้อขายที่ "ผันผวน โดยเฉพาะสัปดาหนี้ที่จะมีการประมูลกันมากถึง 1.83 แสนล้านเหรียญ หนึ่งในนั้นคือยอดประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 7 ปีที่มีแนวโน้มจะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด หลังอุปสงค์ในตลาดค่อนข้างน้อยในเดือนที่แล้ว


· แหล่งข่าวเผย แผนโครงสร้างพื้นฐานและค่าใช้จ่ายภาคแรงงานอาจมีมูลค่าสูงถึง 4 ล้านล้านเหรียญ

รายงานจาก Reuters เผยข้อมูลแห่งข่าววงใน ที่ระบุว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทำการสรุปสาระสำคัญร่วมกับทีมที่ปรึกษาในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับข้อเสนอในประเด็น

- โครงสร้างพื้นฐาน

- สภาพภูมิอากาศ

- ภาคแรงงาน

และทั้งหมดอาจมีมูลค่าสูงมากถึง 4 ล้านล้านเหรียญได้


· หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์อีซีบี ชี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฉายแววหนุนเศรษฐกิจยุโรปด้วย

นายฟิลลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของอีซีบี ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 แพ็คเกจของนายไบเดน มูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญ ของสหรัฐฯ ถือเป็น "สัญญาณขับเคลื่อนทีด่ีต่อเศรษฐกิจโลก" และน่าจะส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจยูโรโซน


ทั้งนี้ ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการลงนามร่างกฎหมายแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีการส่งเงินโดยตรงถึงประชาชนชาวสหรัฐฯมูลค่า 1,400 เหรียญ ขณะที่โปรแกรมดังกล่าวถูกคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ "หนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก"


· นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนแสดงความเชื่อมั่นว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับกว่า 6% เนื่องจากรัฐบาลพยายามหาทางผลักดันให้เศรษฐกิจและการจ้างงานขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ


· ชาติตะวันตกร่วมคว่ำบาตรจีนกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียง - จีนโต้กลับคว่ำบาตรอียูคืน

สหรัฐฯ, ยุโรป, อังกฤษ และแคนานา ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จากจีน ในข้อหา "การละเมิดสิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียง" ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ชาติตะวันตกร่วมมือกันดำเนินการต่อจีนภายใต้การนำของ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่


· ขณะที่จีนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของชาติตะวันตก


· รัสเซีย-จีน ผลักดันประชุมสุดยอดผู้นำ U.N. ท่ามกลางความตึงเครียดกับชาติตะวันตก

โดยในวันนี้ รัสเซียและจีน แสดงความต้องการที่จะเข้าร่วมประชุมสุดยอดสมาชิกแห่งสภาความมั่นคงสหประชาชาติ (U.N) ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองที่มากขึ้น ขณะที่รัสเซีย-จีน เชื่อว่าสหรัฐฯกำลังจ้องใช้วิธีทำลายล้างประเทศของพวกเขา


· รัฐโอริศาของอินเดีย เตือนการขาดแคลนวัคซีนส่งผลให้เกิดการระงับการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนที่กำลังเริ่มต้นมาได้เพียง 4 วัน ช่วงสิ้นเดือนมี.ค.นี้


· อังกฤษเตรียมประกาศเก็บค่าปรับ 5,000 ปอนด์ (6,900 เหรียญ) สำหรับผู้พยายามเดินทางออกไปยังต่างประเทศโดยปราศจากเหตุผลที่ดีพอภายใต้กฎหมย Covid-19 ฉบับใหม่ที่จะมีผลถึงสิ้นเดือนมิ.ย.)


· "แมร์เคล" นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศขยายเวลา Lockdown ถึง 18 เม.ย. ส่งผลให้ภาคธนาคารเยอรมนีเผชิญภาวะ Circuit-Breaker ช่วง Easter เพื่อต่อสู้กับการระบาดรอบใหม่

นอกจากนี้ ยังมีการเรียกร้องให้ประชาชนอาศัยอยู่แต่ในที่พักเป็ฯเวลา 5 วันตลอดช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เพื่อพยายามระงับการระบาดระลอก 3 (Third Wave)


· หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐฯตั้งคำถามของความหนักแน่นของผลทดสอบวัคซีน Covid-19 บริษัท AstraZeneca ล่าสุด หลังใช้เวลาทดสอบเพียงไม่นานแต่ผลที่ออกมาดีเกินคาดกว่า 79%


· รัฐบาลญี่ปุ่น เผยมาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มเงินทุนให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจร้านอาหารและที่พักเป็นหลัก หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการ Lockdown เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา


· หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของอีซีบี ชี้ ยุโรปเผชิญความยากลำบากไตรมาสที่ 2/2021 จากการระบาดของ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้น และการประกาศ Lockdown ของรัฐบาลต่างๆ แต่ "อีซีบีจะเดินหน้าให้การสนับสนุนด้วยการคงดอกเบี้ยระดับต่ำพิเศษต่อไป"


· "บอริส" นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ชี้ การจะคลายมาตรการเข้มงวดต่างๆ จะได้รับการผ่อนคลายทั้งหมด "ในครั้งเดียว" เท่านั้น


· อัตราว่างงานอังกฤษปรับลงเกินคาดแตะ 5.0%


· โฆษกรัฐบาลทหารพม่า แสดงความ "ขอโทษ" ต่อเหตุผู้ชุมนุมเสียชีวิตหลายร้อยรายจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง 9 รายที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะครั้งนี้ด้วยเช่นกัน


· ฟิลิปปินส์ประท้วง "การคุกคาม" จากเรือเดินสมุทรจีนในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิาทเวลานี้ พร้อมระบุว่า เป็นการรวมกลุ่มที่สร้างภัยคุกคามต่อฟิลลิปปินส์


· กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ (MTI) และธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาที่อยู่อาศัยและค่าขนส่งของภาคเอกชนประจำเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้น สู่ระดับ 0.2% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ -0.2% ในเดือนม.ค. ซึ่งอยู่แดนบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนค่าบริการและราคาอาหารที่สูงขึ้น


· UOB คาด ธปท. คงดอกเบี้ยตามเดิม

Lee Sue Ann นักเศรษฐศาสตร์ประจำ UOB Group เชื่อว่า ธนาคารกลางแห่งประเทศไทย (BoT) จะยังคงดอกเบี้ยตามเดิมในการประชุมวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) ที่ระดับ 0.5% และเชื่อว่าจะคงดอกเบี้ยระดับดังกล่าวตลอดทั้งปี 2021

นอกจากนี้ แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยน่าจะถูกเปิดเผยในการประชุมด้วย ท่า กลางความเสี่ยงจากสถานการณ์ Covid-19 ที่ลดความเลวร้ายลง

ภาพรวม ปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจในระดับหมภาคยังคง "เหนือความคาดหมาย" จนถึงช่วงครึ่งหลังของปี และหากเป็นเช่นนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังอาจเห็นที่ประชุมกนง. ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25%


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com