• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2564

    25 มีนาคม 2564 | Gold News


ทองปิดปรับขึ้นต่อ หลังทราบถ้อยแถลงประธานเฟด

ทองคำปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.4ที่ 1,733.39 เหรียญ และสัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด +0.5% ที่ 1,733.20 เหรียญ

ราคาทองคำได้รับอานิสงส์จาก
- การปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ที่ร่วงลงมาแถว 1.068
%
- นักลงทุนตอบรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมากกว่าค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับแข็งค่าขึ้นมาที่ 92.59 จุด
- ถ้อยแถลงประธานเฟดยังยืนกรานคงดอกเบี้ยต่ำใกล้ศูนย์
- ประธานเฟดหนุนเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และคาดว่าการขึ้นดังกล่าว “ไม่ใช่ปัญหา”
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลดลงจากแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

·         กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ทำการขายออกทองคำ 2.33 ตัน โดยขายต่อเนื่องมาแล้ว 2 วัน ทำให้ยอดรวมขายทองคำออกไป 8.75 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,043.03  ตัน ทำต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนเม.ย.

ภาพรวมปัจจุบันเดือนมี.ค. ขายทองคำรวมสุทธิ 50.50 ตัน



ตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน ปี 2021 กองทุน SPDR ขายทองคำออกแล้วทั้งสิ้น สุทธิ 127.71 ตัน



อย่างไรก็ดี เดือนมี.ค. ปี 2021 กองทุน SPDR ยังมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ โดยมีการขายออกตั้งแต่ต.ค. - ปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 225.86 ตัน

·         หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า ถ้อยแถลงประธานเฟดยังเป็นปัจจัยช่วยหนุนราคาทองคำจากมุมมองการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ พร้อมคงดอกเบี้ยต่อไป ภาพรวมทองมีโกอาสไปที่ 1,9000 เหรียญได้อีกครั้ง  แม้ดอลลาร์จะแข็งค่าแต่ก็เป็นระยะสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากดอลลาร์ได้รับปัจจัยบวกจากการ Lockdown ในยุโรป และความเป็นไปได้ที่จะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯแกร่งกว่ายุโรป ดังนั้น ภาพรวมทองคำจึงมีโอกาสจะผันผวนต่อ

·         หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า ทองคำไม่มีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวออกจากกรอบ 1,700 – 1,750 เหรียญ จนกว่าจะถึงช่วงสิ้นปีนี้ รอดูการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ท่ามกลางนักลงทุนที่ยังดูจะให้ความสนใจและต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อ เมื่อเห็นความชัดเจนของเรื่องดังกล่าว

·         ราคาพลาเดียมปิด +1.2% ที่ 2,635.19 เหรียญ

·         ราคาซฺลเวอร์ปิด +0.2% ที่ 25.12 เหรียญ

·         ราคาแพลทินัมปิด +0.4% ที่ 1,172.82 เหรียญ

 

·         Tesla กระเทือนตลาด - อีลอน มัสก์” ประกาศผ่านทวิตเตอร์ ประชาชนซื้อ Tesla ด้วย Bitcoin ได้แล้ว” -หนุน Bitcoin ปรับขึ้นกว่า 1,000 เหรีญญ รับข่าวดังกล่าวทะยานเหนือ 56,000 เหรียญ ก่อนที่จะปิดตลาด +2ที่ 55,377 เหรียญ

  

·         เยลเลน” หนุนการซื้อหุ้นกู้ของภาคธนาคาร ขณะที่เผชิญข้อเรียกร้องจากส.ว. ให้กำหนดว่า BlackRock เป็นธนาคารที่ล้มเหลวมาก

·         “นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ชี้ การเปลี่ยนแปลงของตลาเป็นการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใส

 

ขณะเดียวกัน นายโพเวลล์ ไม่แสดงความกังวลเรื่องการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว เนื่องจากมองว่าเป็นการตอบรับกับการปรับตัวสูงขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดังนั้น การปรับตัวของตลาดการเงิน “อย่างเป็นลำดับขั้น” อาจสะท้อนถึงมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯเคลื่อนไหวอย่างสดใส


·         “โพเวลล์” ชี้ ค่าเงินดิจิทัลดอลลาร์ทั่วทุกมุมโลกมีความแข็งแกร่งมากกว่าค่าเงินดิจิทัลหยวน


·         Central banking รายงานว่า การแทรกแซงระบบการเงินของเฟดตั้งแต่เดือนมี.ค. ปี 2020 ช่วยบรรเทาความเสียหายจากวิกฤตทางการเงินทั่วโลก ขณะเดียวกันก็หนุนให้อีซีบีและญี่ปุ่นทำการยกเครื่องหนุนนโยบายทางการเงินเช่นกัน

นางคริสตาลิลา จอร์เจียฟวา ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ ระบุว่า มาตรการ Lockdowns และมาตรการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนา ถือเป็นเรื่องที่ “เลวร้ายอย่างมากที่สุด” ต่อระบบเศรษฐกิจ ที่กลายมาเป็นเรื่องยากในการจัดการเพื่อช่วยเหลือประชาชนและความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ แต่สถานการณ์ต่างๆอาจเลวร้ายกว่านั้นโดยเฉพาะวิกฤตในตลาดการเงินตั้งแต่เดือนมี.ค.

อย่างไรก็ดี ตลาดการเงินไม่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มรูปแบบ หลังเฟดภายใต้การนำของนายเจอโรม โพเวลล์ ได้เข้าดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะความเสียหายอย่างรุนแรงที่ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อประเทศสหรัฐฯ แต่ยังช่วยพยุงตลาดอื่นๆทั่วโลก

 

·         ข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เม.ย. ปีที่แล้ว บ่งชีถึงการชะลอตัวของภาคการผลิตในสหรัฐฯ โดยข้อมูลเดือนก.พ. ออกมาที่ -1.1แต่ข้อมูลในเดือนม.ค. ปรับทบทวนมาที่ 3.5%





ด้านยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมด้านเครื่องบินและฮาร์ดแวร์ทางทหาร พบว่าปรับลงมาเช่นกันที่ -0.9%

 

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด พบรายงาน 82 ประเทศยังมียอดติดเชื้อไวรัสเพิ่มสูงขึ้น



ยอดติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดทะลุ 125 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพบยอดติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 570,788 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 125.40 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มมา 10,128 ราย รวมสะสมที่ 2.75 ล้านราย

สหรัฐฯพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 65,755 ราย รวมสะสม 30.70 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมในประเทศเพิ่มขึ้นทะลุ 558,333 ราย




3 อันดับที่มียอดติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดของโลก:

1. บราซิล พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 75,212 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 12.22 ล้านราย

2. สหรัฐฯ พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 57,572 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 30.70 ล้านราย

3. อินเดีย พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 42,189 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 11.78 ล้านราย

 

3 อันดับที่มียอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดของโลก:

1. บราซิล พบยอดผู้เสียชีวิตรายวัน 2,364 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสะสมรวม 301,087 ราย

2. สหรัฐฯ พบยอดผู้เสียชีวิตรายวัน 1,050 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสะสมรวม 558,333 ราย

3. เม็กซิโก พบยอดผู้เสียชีวิตรายวัน 561 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสะสมรวม 199,048 ราย

 

สถานการณ์การระบาดในไทย

ศบค. รายงานพบติดโควิด เพิ่มขึ้น 69 ราย จากกรุงเทพมหานคร 43 ราย ยอดป่วยยืนยันสะสม 28,346 ราย ยอดเสียชีวิตคงเดิมที่ 92 ราย และยังเปิดเผยถึงแผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 จำนวน 8 แสนโดส ในพื้นที่ 22 จังหวัด

 




·         สถานการณ์การฉีดวัคซีน Covid-19 ทั่วโลกพบว่า มี 139 ประเทศเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนแล้วรวมกว่า 475.15 ล้านโดส

 


 

·         Reuters เผย ยอดฉีดวัคซีนในสหรัฐฯทะลุ 30 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย




 

จำนวนยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกหลังจากที่ปรับลดลงไปต่อเนื่อง 9 สัปดาห์ โดยพบว่าจาก 19 รัฐ ที่มีรายงานยอดติดเชื้อเพิ่ม ณ ปัจจุบันเพิ่มมาเป็น 30 รัฐ จาก 50 รัฐ สำหรับค่าเฉลี่ยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

 

ขณะที่อัตรายอดเสียชีวิตจาก Covid-19 ลดลงไปราว 15% ที่ระดับ 7,793 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หรือประมาณ 1,100 ราย/วัน

 

ประชากรทั่วสหรัฐฯได้รับการฉีดวัคซีนต่อวันประมาณ 2.5 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว คิดเป็น 25% ของประชากรทั้งหมดที่ได้รับวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่าคนละ 1 โดส เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่มีค่าเฉลี่ยที่ 21%

 

สำหรับผู้ได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดสในสหรัฐฯ พบจำนวนมากขึ้นเป็น 13% จากสัปดาห์ก่อน 11%


 

·         รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขบราซิล เผย ยอดเสียชีวิตจาก Covid-19 ในประเทศทะลุ 300,000 รายแล้ว


 

·         แคนาดาส่อวิกฤตขาดแคลนวัคซีน ท่ามกลางการระบาดของไวรัสสายพันธ์ใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น


 

·         แมร์เคล” นายกฯเยอรมนี ยอมรับการดำเนินการที่ผิดพลาดตามที่ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพวิจารณ์ จึงทำให้กลับมาใช้มาตรการ Lockdown ช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ส่งผลให้ร้านค้าทุกร้าน รวมถึงโบถส์ต่างๆต้องปิดทำการระหว่าง 1-5 เม.ย. นี้


 

·         อียูประกาศแผนความเข้มงวดการควบคุมการส่งออกวัคซีนแล้ว

 

·         นายแอนโธนี บลินเคน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เตือน จีน” ข่มขู่หน่วยงานด้านความมั่นคง NATO จึงเรียกร้องชาติพันธมิตร NATO ร่วมมือกับสหรัฐฯในการต้านจีนอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ดี สหรัฐฯไม่ต้องการบังคับเพื่อนสมาชิกยุโรปให้เลือกสหรัฐฯหรือจีน เพียงแต่สหรัฐฯค่อนข้างมีมุมมองที่ชัดเจนว่า จีนเป็นภัยด้าน เศรษฐกิจ” และ ความมั่นคง” โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี

 

·         ญี่ปุ่น ชี้ การทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการคุกคาม “สันติภาพ”

 

·         นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 30.90-31.10 บาท/ดอลลาร์

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

-ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยให้มีผลทันที และรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายที่มีจำกัดเพื่อใช้ในจังหวะที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิผลสูงสุด เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่เผชิญกับความเสี่ยงด้านต่ำและความไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า จึงยังต้องการแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง

-นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงมาตรการคนละครึ่งเฟส 3 ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่อาจจะไม่เร่งในการพิจารณาออกมาใช้ หรือจะยังชะลอไปก่อน หลังจากที่พบว่ามีผู้อาศัยช่องโหว่ไปเอาเปรียบประชาชน จึงต้องหาทางปิดช่องโหว่ดังกล่าวก่อน รวมถึงยังขอดูตัวเลขเศรษฐกิจและดัชนีชี้วัดต่างๆมาประกอบการตัดสินใจในการต่อมาตรการคนละครึ่ง” เฟส 3 แม้ว่าจะเป็นมาตรการที่ประชาชนตอบรับดี สามารถช่วยเหลือคนที่มีรายได้น้อยได้ และสร้างวินัยในการใช้จ่ายให้กับคนไทย

-นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ การพัฒนาตลาดทุนดิจิทัล” ในงานสัมมนา พลิกโฉมตลาดทุนไทย ไปสู่ตลาดทุนดิจิทัลว่า กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไปตามเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้การดำเนินงานตลาดทุน ในด้านนโยบายและการกำหนดกลยุทธ์จะต้องนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับให้เป็นตลาดทุนดิจิทัลเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล สำหรับตลาดทุนในช่วงปี 60-64 โดยหากการพัฒนาตลาดทุนไทยเป็นตลาดทุนดิจิทัลเต็มรูปแบบสำเร็จ จะทำให้ตลาดทุนไทยเป็นตลาดทุนแห่งที่ 3 ของโลกที่ใช้ดิจิทัลเชื่อมโยงตลาดทุนแบบครบวงจร ต่อจากสวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com