MTS Help Center

ทองร่วงดอลลาร์แข็ง-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น

ราคาทองคำปรับตัวลดลจาก 2 ปัจจัยหลักกดดันตลาด ได้แก่
1) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นมาที่ 1.642% ก่อนปิดแถว 1.63%
2) ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมาทำสูงสุดแถว 92.94 จุดใกล้ทดสอบ 93 จุด

·         ทองคำตลาดโลกปิด -0.4% ที่ระดับ 1,727.01 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด -0.5% ที่ระดับ 1,725.10 เหรียญ

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย.ของตลาด Comex จะหมดอายุลงในวันที่ 30 มี.ค. นี้

 

ขณะที่สัญญาทองคำ Gold Online Futures ของตลาด TFEX จะหมดอายุลในวันที่ 30 มี.ค. เช่นกัน

·         กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,043.03 ตัน

·         นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า คุณอาจเห็นความแตกต่างครั้งใหญ่ระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฝั่งสหรัฐฯและประเทศอื่นๆในยุโรป ที่กำลัง “กลายเป็นสาเหตุ” ของการเพิ่มเม็ดเงินเข้าถือครองดอลลาร์ และกดดัน “ทองคำ”

 

ภาพรวมทองคำยังเป็นขาลงอยู่ แต่อาจเห็นการรีบาวน์ของราคาได้เล็กน้อย ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ว่าอาจเห็นทองคำมีเสถียรภาพในทิศทางขาขึ้นเพียงเล็กน้อย

 

·         ซิลเวอร์ปิด -0.3% ที่ 25.01 เหรียญ หลังร่วงลงไปทำต่ำสุดรอบ 2 เดือนที่ 24.39 เหรียญ

 

·         กรรมการผู้จัดการจาก CPM Group กล่าว่า ซิลเวอร์กลับลงทดสอบแนวรับ 24-25 เหรียญ และมีโอกาสเห็นการปรับขึ้นได้ปานกลางช่วงเดือนเม.ย.นี้ โดยคาดตลาดน่าจะได้รับแรงสนับสนุนหลักจากแนวโน้มอุปสงค์ในภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง หนุนราคาทองคำและซิลเวอร์ขึ้น

·         พลาเดียมปิด -0.8% ที่ 2,612.48 เหรียญ และราคาแพลทินัมปิด -1.4% ที่ 1,151 เหรียญ

·         นักวิเคราะห์จาก Commberz Bank ระบุว่า อุปทานด้านแพลทินัมอาจเพิ่มขึ้นจากแอฟริการใต้ในปีนี้ และการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์รถยนต์ จึงอาจกระตุ้นให้เกิดความต้องการเพื่อทดแทนปัญหาการคขาดอุปทานโลหะมีค่าในตลาดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ส่วนพลาเดียมมีแนวโน้มจะได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการใช้อุปทานปีนี้ และอาจเห็นราคาไปได้ไกลถึง 3,000 เหรียญด้วย

 

·         ผลสำรวจ Reuters Poll ชี้ แรงเทขายพันธบัตรในตลาดโลก “ยังไม่จบ” จึงมีแนวโน้มอาจเห็นแรงเทขายเกิดขึ้นครั้งใหม่ในช่วงกลางปีนี้ - ส่วนใหญ่คาดอาจเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับขึ้นไปแตะ 1.9% ได้ในช่วงดังกล่าว

 

·         วุฒิสภาสหรัฐฯขยายเวลาช่วยเหลือภาคธุรกิจรายย่อยออกไป 2 เดือน ภายใต้โครงการ PPP ของสหรัฐฯที่จะหมดอายุลงในวันที่31 มี.ค. นี้

 

ทั้งนี้ มติของทางสมาชิกวุฒิสภาพบ 92 ต่อ 7 เสียง อนุมัติผ่านร่างขยายการช่วยเหลือออกไปเป็นระยะเวลา 2 เดือน รวมถึงการขยายเส้นตายกระบวนการขอกู้ยืมออกไปอีก 30 วัน เรียกได้ว่า จะเป็นอีกหนึ่งร่างกฎหมายที่ถูกส่งต่อให้ “นายไบเดน” ลงนามเพื่อเป็นกฎหมายบังคับใช้ ในการมุ่งเน้นช่วยเหลือภาคธุรกิจขนาดเล็กเป็นสำคัญ

 

 

·         “โพเวลล์” ชื่นชมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเล็งเห็นเฟดจะถอนมาตรการสนับสนุนได้หาก “ความคืบหน้า” เป็นไปอย่างยั่งยืน

 

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวถ้อยแถลงวานนี้ โดยระบุว่า ความแข็งแกร่งด้านการสนับสนุนเศรษฐกิจจากสภาคองเกรส ควบคู่กับโครงการฉีดวัคซีนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ดี เฟดอาจกลับมาใช้นโยบายตามปกติได้จากประเด็นดังกล่าว “แต่ไม่ใช่ในเวลานี้”

 

·         “นางแมรี ดาร์ลี” ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ย้ำ ตลาดยังแรงงงานยังไม่แข็งแกร่งพอ และประชาชนยังมีคนว่างงานกว่า 10 ล้านคน

 

·         “นายโธมัส บาร์กิน” ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ เชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงในปีหน้าหลังเพิ่มสูงขึ้นได้ในปีนี้

 

·         “นายชาร์ล อีวานส์” ประธานเฟดสาขาชิคาโก ชี้ถึงความจำเป็นที่จะต้อง “อดทนรอ” เพื่อให้เงินเฟ้อปรับขึ้นมาได้ เนื่องจากเขายังมีความกังวลกับเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำมากเวลานี้

 

·         จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ ดิ่งลงทำต่ำสุดรอบกว่า 1 ปี  นับเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลดังกล่าวลดลงเกินคาดและต่ำกว่า 700,000 ราย และเป็นต่ำสุดตั้งแต่ที่เริ่มเกิดการระบาดของ Covid-19 ตั้งแต่ 14 มี.ค. ปีที่แล้ว ท่ามกลางสัญญาณจ้างงานที่ปรับขึ้นหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

ข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานล่าสุดลดลงมาที่ 684,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หรือลดลงกว่า 97,000 รายเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่ถูกปรับทบทวนแย่ลงมาที่  781,000 ราย

 

·         จีดีพีสหรัฐฯไตรมาส 4/2020 โตเกินคาด และทั้งหมดบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัวรวดเร็ว

ข้อมูลจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสที่ 4/2020 ที่ประกาศครั้งสุดท้ายวันนี้พบว่า Final GDP ที่ระดับ 4.3% ปรับขึ้นจากประมาณการณ์ครั้งที่ 2 ที่ 4.1%

 

·         เฟด ระบุว่า ภาคธนาคารต่างๆจะต้องรอจนกว่าจะถึง 30 มิ.ย. จึงจะซื้อคืนหุ้นกู้และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นในปีนี้ รวมถึงการเตรียมตัว ณ ปัจจุบันให้ผ่านพ้นการทดสอบ Stress Tests ด้วย

  

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด พบรายงาน 88 ประเทศยังมียอดติดเชื้อไวรัสเพิ่มสูงขึ้น

ยอดติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดทะลุ 126 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพบยอดติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 607,270 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 126.03 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มมา 9,993 ราย รวมสะสมที่ 2.76 ล้านราย

สหรัฐฯพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 62,690 ราย รวมสะสม 30.76 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมในประเทศเพิ่มขึ้นทะลุ 559,605 ราย

 

3 อันดับที่มียอดติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดของโลก:

1. บราซิล พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 75,168 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 12.32 ล้านราย

2. สหรัฐฯ พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 58,104 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 30.76 ล้านราย

3. อินเดีย พบยอดติดเชื้อใหม่รายวัน 44,704 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 11.84 ล้านราย

 

3 อันดับที่มียอดผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดของโลก:

1. บราซิล พบยอดผู้เสียชีวิตรายวัน 2,273 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสะสมรวม 303,726 ราย

2. สหรัฐฯ พบยอดผู้เสียชีวิตรายวัน 1,076 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสะสมรวม 559,605 ราย

3. เม็กซิโก พบยอดผู้เสียชีวิตรายวัน 531 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรายวันสะสมรวม 199,627 ราย

 

สถานการณ์การระบาดในไทย

ศบค. รายงานพบติดโควิดรายใหม่ เพิ่มขึ้น 97 ราย จากกรุงเทพฯ มากสุด 65 ราย รวมป่วยยืนยันสะสม 28,443 ราย ยอดผู้เสียชีวิตคงเดิม 92 ราย

- ไทยรัฐเผย พบ ผู้เสียชีวิตรายแรกจากการเข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19 จากการมีโรคประจำตัวร่วม

ขณะที่อย.อนุมัติเพิ่ม ยี่ห้อ  “จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน” เป็นรายที่ 3 ให้ใช้ในไทยได้ แต่ให้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น กรมควบคุมโรคอัปเดตฉีดวัคซีนแล้วกว่า 2.2 แสนโดส พบผู้มีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงแค่ 2 ราย

 

 

·         บราซิลสาหัส ยอดติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งทะลุ 100,000 ราย/วัน สร้างแรงกดดันเพิ่มแก่ประธานาธิบดีบราซิล

 

·         สถานการณ์การฉีดวัคซีน Covid-19 ทั่วโลกพบว่า มี 138 ประเทศเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนแล้วรวมกว่า 488.57 ล้านโดส

 

 

·         ไบเดนกับเป้าหมายใหม่กับโครงการฉีดวัคซีนให้ได้ 200 ล้านคนในการทำงาน 100 วันแรก

 

·         รัฐแคลิฟอร์เนีย, ฟลอริดา และนอร์ธ แคโรไลนา ประกาศขยายสิทธิการเข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19

 

·         ทีมนักวิจัย เผย การรับมือ Covid-19 ของสหรัฐฯ อาจช่วยเลี่ยงการสูญเสียจากยอดติดเชื้อได้มากกว่าแสนราย

 

·         แหล่งข่าว เผย Novavax ชะลอข้อตกลงการจัดหาวัคซีนในยุโรป ท่ามกลางปัญหาด้านการผลิต

 

·         บรรดาผู้นำประเทศในยุโรป เห็นพ้องต่อการเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีน Covid-19 ในยุโรป

 

·         บรรดาผู้นำอียู แสดงความไม่พอใจต่อบริษัท AstraZeneca จากปัญหาการส่งมอบวัคซีน ท่ามกลางยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นในสภาวะ Third Wave ทั่วยุโรป

 

 

·         อียูเผยจะไม่มีการส่งออกวัคซีน AstraZeneca อีกต่อไป หากบริษัทดังกล่าวไม่ยอมทำตามข้อตกลง

 

 

·         นางเออซูลาร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกร้องให้อังกฤษและนานาประเทศเปิดกว้างต่อการส่งออกวัคซีน

 

พร้อมกล่าวตำหนิโดยเฉพาะอย่างยิ่งอังกฤษที่เป็น “ชาตินิยมวัคซีน” เนื่องจากกลไกการตรวสอบการส่งออกรูปแบบใหม่ เพื่ออธิบายว่าทำไมยุโรปจึงไม่ได้รับวัคซีนตามสัญญาจากบริษัทยาดังกล่าว

 

·         นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ระมัดระวังข้อพิพาทวัคซีนระหว่างอียู-อังกฤษ แต่เชื่อว่าจะจบลงได้ด้วยดี

·         บรรดาผู้นำอียูทำข้อตกลงการค้ากับทางตุรกีได้ แต่ก็ยังส่งสัญญาณเตือนที่อาจกลับมาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรได้จากข้อพิพาทเรื่องไฮโดรคาร์บอนบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออก

 

·         คลองสุเอซ ของอียิปต์ถูกขวางเส้นทาง ทำให้มูลค่าการค้าสำหรับสินค้าต่างๆรวมกว่า 400 ล้านเหรียญ/ชั่วโมงต้องเลื่อนออกไป

ทั้งนี้ คลองสุเอซ ที่เป็นจุดแยกระหว่างแอฟริกากับเอเชีย ถือเป็นหนึ่งในแหล่การค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งในโลก โดยมีปริมาณการค้าจากทั่วโลกไม่น้อยกว่า 12% ของการค้าทั้งหมด ขณะที่การส่งออกด้านพลังงาน รวมถึงก๊าซธรรมชาติ, น้ำมันดิบ และน้ำมันกลั่นคิดเป็น 5-10% ของการขนส่งทั่วโลก ขณะที่ข้อมูลการค้าอื่นๆที่เหลือ คือ แหล่งผลิตน้ำมันรายใหญ่ตั้งแต่ไม้ขีดไฟ ไปจนถึง เสื้อผ้า, เฟอร์นิเจอร์, ภาคการผลิต, อะไหล่ และอุปกรณ์ออกกำลังกาย

·         จีนประกาศคว่ำบาตรบริษัทอังกฤษ และบุคคลสัญญาณอังกฤษที่โกหกเรื่อง “มณฑลซินเจียง”

 

·         ไบเดน ระบุว่า จีนจะไม่สามารถ “แซงหน้า” สหรัฐฯ ในฐานะผู้นำโลกได้ หากเขายังจับตาอยู่ ท่ามกลางการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ

 

 

·         ญี่ปุ่นตำหนิกองกำลังสหรัฐฯที่ใช้ทะเลตะวันออก ท่ามกลางการยิงทดสอบขีปนาวุธจากทางเกาหลีเหนือ

 

·         สำนักข่าว KCNA ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบ “ขีปนาวุธนำวิธี” ตัวใหม่เมื่อวานนี้  ซึ่งเป็นการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ท่ามกลางสหรัฐฯ ที่ออกประณามการทดสอบขีปนาวุธ และกล่าวเตือนถึงภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ

 

 

·         ไบเดน “เตือน” จะตอบโต้ หากสถานการณ์กับเกาหลีเหนือยังตึงเครียดหนัก แต่ภาพรวมเขายังเปิดกว้างต่อ “การเจรจาทางการทูต”

 

·         กลุ่มผู้ประท้วงพม่าเสียชีวิตเพิ่มอีก 9 ราย ส่งผลให้อังกฤษและสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรธุรกิจของกองกำลังทหารพม่า

 

·         นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวัน 31.05-31.25 บาท/ดอลลาร์

ภาพรวมตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมทำจุดสูงสุดใหม่ต่อจากแรงหนุนหุ้นขนาดเล็กคาดได้ประโยชน์เปิดทำการธุรกิจ หลังนักลงทุนกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป

ส่วนในฝั่งเงินบาท ระยะสั้นนักลงทุนกลับมามีมุมมองเป็นลบเนื่องจากตัวเลขการส่งออกล่าสุดหดตัว 2.6% สวนทางกับการนำเข้าที่ปรับตัวสูงขึ้น 22.0% ทำให้เกิดความกังวลว่าไทยอาจขาดดุลการค้าในปีนี้ เรามองว่ามีความเป็นไปได้เพราะราคาสินค้าต้นทุนปรับตัวขึ้นแทบทั้งหมด ขณะที่กับปริมาณการส่งออกขยายตัวช้ากว่า ขณะเดียวกันในช่วงนี้ตลาดการเงินก็มีความไม่แน่นอนสูง ทำให้นักลงทุนเลือกลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย ทำให้มีโอกาสน้อยที่เงินบาทจะแข็งค่ากลับได้ในช่วงนี้

 

·         อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจและอินโฟเควสท์

-นายกฯ ถก ศบศ.หากเปิดประเทศได้เร็วขึ้นในบางพื้นที่ในจังหวัดท่องเที่ยวก่อนกำหนดการเดิมวันที่ 1 ต.ค.2564 จะช่วยให้รายได้ประชาชนและธุรกิจท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจรวม โดยนำร่องที่ภูเก็ตเป็นต้นแบบจังหวัดแรก ช่วยหนุนจีดีพีโตได้ 4% เล็งออกมาตรการกระตุ้นบริโภค ดึงเงินออมประชาชน 1.5-1.6 แสนล้าน

-นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมการเดินทางเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบวิถีปกติใหม่ (New Normal) คือ เลือกวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวที่เน้นเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ระยะทางไม่ไกลมาก ไปกับคนคุ้นเคย และมีการท่องเที่ยวตามความสนใจ โดยรัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศหลากหลายมาตรการ เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวจึงดำเนินโครงการ WAT หรือ "ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว" และจัดทำเส้นทางแห่งศรัทธาเพื่อเสริมสิริมงคล ความรุ่งเรืองแห่งชีวิต เชื่อมโยงชุมชนที่มีศักยภาพและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่พร้อมเสนอขาย จำนวน 15 เส้นทางทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดพิจิตร แพร่ น่าน เชียงราย ชัยนาท สระบุรี เพชรบุรี บุรีรัมย์ ชัยภูมิ นครพนม ระยอง ปราจีนบุรี พังงา สุราษฎร์ธานี และสงขลา

-นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจการท่องเที่ยว 8 องค์กร ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TCT) , สมาคมโรงแรมไทย (THA) , สมาคมสปาไทย , สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) , สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สาขาประเทศไทย (PATA) และ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว