· ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว โดยตลาดหุ้นเอเชียรีบาวน์จากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากเหล่านักลงทุนมุ่งเน้นไปที่มุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากกว่าความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างตะวันตกและจีน
ดัชนี Euro Stoxx futures +0.8%
ดัชนี FTSE futures +0.61%
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น +1.43% หลังจากปรับตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
ดัชนี Shanghai Composite +1.53%
โดยเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นจีนร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะที่สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และอังกฤษ ประกาศใช้มาตรการลงโทษชุดใหม่ต่อเจ้าหน้าที่จีนและเมียนมาหลายคน จากกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียง และการปราบปรามประชาชนในเมียนมา
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวสูงขึ้น นำโดยหุ้นของกลุ่ม SoftBank Group ที่เพิ่มขึ้น 1.8% ตามด้วยผู้ผลิตอุปกรณ์ทดสอบชิป Advantest ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.65%
ดัชนี Nikkei ปิด +1.56% ที่ระดับ 29,176.70 จุด
ดัชนี Topix ปิด +1.46% ที่ระดับ 1,984.16 จุด
ภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนี Nikkei ร่วงลง 2% ด้านดัชนี Topix ลดลง 1.4%
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดตัวสูงขึ้นในชั่วข้ามคืน ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯให้คำมั่นที่จะเพิ่มแผนการเปิดตัวการฉีดวัคซีน โดยจะฉีดวัคซีนให้ได้ 200 ล้านคนในการทำงาน 100 วันแรก
หุ้นค้าปลีกของ Uniqlo +0.88% ช่วยหนุนดัชนี Nikkei
หุ้น Toyota Motor และ Sony เพิ่มขึ้น 2.48% และ 1.96% ตามลำดับ
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้
ดัชนี Shanghai Composite ปิด +1.63% ที่ระดับ 3,418.33 จุด
ดัชนี Shenzhen ปิด +2.6% ที่ระดับ 13,769.68 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความเชื่อมั่นทั่วโลกที่สูงขึ้นเนื่องจากนักลงทุนให้ความสำคัญกับแนวโน้มการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อ ท่ามกลางความก้าวหน้าในการเปิดตัววัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา
โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.9% โดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรพุ่งขึ้น 2.3% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ปิดเช้าบวก 5.34 จุดตามตลาด ตปท.แต่ขึ้นจำกัดจากกลุ่มน้ำมันถ่วงบ่ายลุ้นรีบาวด์
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,576.38 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด (+0.34%) มูลค่าการซื้อขายราว 39,140 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามดตลาดต่างประเทศแต่ยังจำกัด กลุ่มพลังงานที่นำตลาดไม่เคลื่อนไหวหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วง และพบผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิดเสียชีวิตรายแรกของไทย อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา นอกจากนี้ยังกังวลเม็ดเงินต่างชาติไหลออกหลังเงินดอลลาร์แข็งค่ามาก แต่ายวันนี้มีลุ้นรีบาวด์รอติดตามประชุม ศบศ.เคาะแนวทางเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้แนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,577 จุด
- ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบศ.) วันนี้ จะพิจารณากำหนดแนวทางความเป็นไปได้ในการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจะมีการพิจารณาให้จังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง จากการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
- ธปท.ประเมินมาตรการซอฟต์โลนใหม่-พักทรัพย์ พักหนี้ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องต่ออายุธุรกิจได้หลายหมื่นบริษัทและช่วยพยุงการจ้างงานไว้ได้อีกหลายแสนคน ระบุผู้ประกอบการที่ได้ซอฟต์โลนตามวงเงินเดิม ขอสินเชื่อตามมาตรการรอบใหม่นี้ได้เพิ่มเติมด้วย ขณะที่ทุกกิจการสามารถใช้มาตรการพักทรัพย์-พักหนี้ ไม่ใช่เข้าได้แต่ธุรกิจโรงแรมเท่านั้น เตรียมตั้ง CallCenter เป็นกรณีพิเศษ ต้อนรับลูกหนี้
- "ส.อ.ท." หนุนนโยบายบอร์ดยานยนต์ไฟฟ้า หลังเคาะเดินหน้าเพิ่มการใช้ระยะสั้นปี 2568 รวมไว้ที่ 1.05 ล้านคัน ชี้หัวใจสำคัญราคารถต้องต่ำกว่า 1 ล้านบาท สถานีชาร์จต้องเพียงพอ แนะออกมาตรการส่งเสริมการใช้ เน้นผลิตในประเทศ
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันจำกัด แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถนำเข้ามาขายในประเทศไทยได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ในราคาโดสละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นไปตามราคาควบคุมขององค์การอนามัยโลก (WHO)