MTS Help Center

หุ้นขึ้นแข็งแกร่ง กดดันทองปรับลง

ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง เพราะได้รับผลกระทบจาก
- ความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง หลังข้อมูลจ้างงานและบริการออกมาดีขึ้น
- การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ

อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของดอลลาร์ได้ช่วยจำกัดการปรับลงของราคาทองคำได้บ้าง

·         เมื่อวานนี้ดอลลาร์อ่อนค่าทำต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ โดยดัชนีดอลลาร์ปิด -0.4% ที่ระดับ 92.59 จุด ปรับลงจากระดับสูงสุดตั้งแต่ 5 พ.ย. ที่ทำไว้ในวันพุธที่แล้วบริเวณ 93.44 จุด

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.1% ที่ระดับ 1,727.64 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยบริเวณ 1,728.80 เหรียญ

·         นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าว่า มุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งของตลาหุ้นสหรัฐฯ ทำให้ภาพทางเทคนิคของทองคำยากที่จะไปต่อได้

·         ดัชนี S&P500 และ Dow Jones ยังคงปิดทำสูงสุดประวัติการณ์ต่อเนื่อง หลังจากที่ข้อมูลภาคบริการสหรัฐฯทำสูงสุดประวัติการณ์ และข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯในสัปดาห์ที่แล้วออกมาดีขึ้นในรอบ 7 เดือน

·         นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็นตัวก่อให้เกิด “เงินเฟ้อ” และถือเป็น “เรื่องดีสำหรับทองคำ” ในภาวะขาขึ้นระยะยาว รวมไปถึงซิลเวอร์ด้วย

 

แต่ระยะสั้นๆ บรรดาเทรดเดอร์ดูจะให้ความสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจเชิงบวกอันเป็นผลของการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า

·         นักลงทุนส่วนใหญ่รอคอยและจับตารายงานประชุมเฟดเดือนมี.ค. ที่จะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้

·         นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า เฟดค่อนข้างมีแนวโน้มจะคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปจนถึงสิ้นปี 2023 แต่เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ก็อาจเห็นเฟดบรรลุผลที่ตั้งเป้าในระยะยาวเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด หากเป็นเช่นนนั้นจริง การขึ้นดอกเบี้ยก็อาจเกิดขึ้นได้ และจะเป็น “ผลลบต่อราคาทองคำ”

·         กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่ม เนื่องจากวันหยุด โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,032.83 ตัน

·         ซิลเวอร์ปิด -1% ที่ 24.73 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด -0.3% ที่ระดับ 2,658.25 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด -0.3% ที่1,206.28 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 18 มี.ค. โดยช่วงต้นตลาดทำสูงสุดที่ 1,218 เหรียญ

·         ตลาด Cryptocurrency มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดประวัติการณ์ 2 ล้านล้านเหรียญ นำโดย Bitcoin ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดมูลค่า 1.1 ล้านล้านเหรียญ

 

·         ISM เผยภาคบริการสหรัฐฯเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. แตะ 63.7 จุด ท่ามกลางแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มสูงขึ้น บ่งชี้ถึงการเห็นสภาวะเศรษฐกิจแข็งแกร่ง จากการฉีดวัคซีนและการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งข้อมูลล่าสุดแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยเก็บผลสำรวจมาในอดีต

 

·         นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่า สหรัฐฯจะกลับมาบนเวทีโลกอีกครั้ง

โดยจบยุค 4 ปีที่ผ่านมาแล้ว และอเมริกาไม่ต้องการเปนประเทศเดี่ยว และประเทศอื่นๆก็ต้องไม่โดดเดี่ยว ด้วยการร่วมมือกันสร้างความยั่งยืนด้วยคามแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเพื่อประชาชนของพวกเราได้

เยลเลนให้คำมั่นว่าจะให้ความร่วมมือกับนานาชาติ และเรียกร้องให้ทั่วโลกใช้ระดับภาษีขั้นต่ำ เพื่อป้องกันการย้ายฐานการผลิตเพื่อหาแหล่งการจ่ายภาษีที่ถูกกว่า พร้อมระบุถึงการที่สหรัฐฯจะฟื้นความสัมพันธ์กับนานาประเทศอย่างแข็งแกร่งเพื่อเศรษฐกิจโลกและผลประโยชน์ขั้นสูงสุดของสหรัฐฯ

 

·         ไบเดน ระบุว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าการขึ้นภาษีนิติบุคคลที่สูงขึ้นจะเป็นมีผลต่อบริษัทต่างประเทศ แต่วัตถุประสงค์ของเขามีขึ้นเพื่อให้เกิดการสนับสนุนแผนค่าใช้จ่ายโรงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น เขาจึงไม่เป็นกังวลว่าการขึ้นภาษีดังกล่าวจะส่งผลเสียทางเศรษฐกิจ และไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าจะส่งผลกระทบกับธุรกิจกับต่างประเทศด้วย

 

·         นายรอย เบิล์น สมาชิกวุฒิสภารีพับลิกันเรียกร้อง “ไบเดน” หั่นแผนโครงสร้างพื้นฐานลงสู่ 6.15 แสนล้านเหรียญ

 

·         สมาชิกรัฐสภาของวุฒิสภาสหรัฐฯ ระบุว่า เดโมแครตสามารถใช้แนวทาง“Reconciliation” เพื่อเป็นเครื่องมือในการผลักดันร่างกฎหมายต่างๆของพรรคในปีนี้ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของรีพับลิกันได้

 

·         เฟดอาจอยู่ภายใต้ช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายต่อไป ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นภายในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า

CNBC เผยรายงานคาดการณ์ไตรมาสที่ 2/2021 ที่ถูกคาดว่าจะเห็นเศรษฐกิจกลับมารุ่งเรือง และเฟดมีแนวโน้มต้องพิจารณาการใช้ดอกเบี้ยระดับต่ำใกล้ศูนย์ รวมทั้งการเข้าซื้อพันธบัตรที่แตกต่างจาก 3 เดือนก่อนหน้า

ขณะที่นักลงทุนในตลาดพันธบัตรเล็งเห็นว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกได้จริงๆในช่วงธ.ค. ปี 2022 ซึ่งจะเร็วกว่าที่เฟดมองไว้ว่าจะไม่ทำการขึ้นดอกเบี้ยใดๆจนกว่าจะสิ้นสุดปี 2023

 

·         นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ กล่าวว่า แม้ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯจะออกมาแกร่ง แต่ก็ยังไม่ใช่เวลาที่เฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยระดับต่ำเวลานี้

 

·         ประธาน World Bank คาดว่า G20 จะมีการตัดสินใจขยายเวลาชำระหนี้สินออกไปจนถึงสิ้นปี 2021 ในการประชุมสัปดาห์นี้

 

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุดยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ใน 69 ประเทศทั่วโลก
ซึ่งลดจากวันก่อนหน้าที่ 70 ประเทศทั่วโลก

ล่าสุดยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะลุ 132 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย ด้านยอดเสียชีวิตสะสมแตะ 2.87 ล้านราย

สหรัฐฯยังเป็นอันดับหนึ่งที่มียอดสะสมรวมสูงกว่า 31.48 ล้านราย และยอดเสียชีวิตสะสมที่ 569,197 ราย

 

ทางฝั่งยุโรป พบยอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่า 40.54 ล้านราย ด้านยอดเสียชีวิตสะสมที่ 928,842 ราย

 

ทางฝั่งเอเชีย พบผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดเฉียด 30 ล้านราย โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 435,845 ราย

สถานการณ์การระบาดในไทย

ศบค. รายงาน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 194 ราย ยอดป่วยยืนยันสะสม 29,321 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงเดิม 95 ราย

·         สถานการณ์การฉีดวัคซีน Covid-19 ทั่วโลก พบ 153 ประเทศเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีน โดยรวมแล้วฉีดวัคซีนไม่น้อยกว่า 664.51 ล้านโดส

เมืองยิบรอลตาร์ของอังกฤษ เป็นพื้นที่แรกที่เข้าโครงการฉีดวัคซีนที่มีประชากรได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 90% ในปริมาณ 2 โดส

·         ยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯพุ่งขึ้นต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ติด นำโดยข้อมูลการรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย

 

·         “ดร.ฟาวซี” หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ประจำทำเนียบขาว ระบุว่า การใช้วัคซีนครบ 2 โดสของ Pfizer หรือ Moderna ให้ผลดีกว่าฉีดเข็มเดียวในการต้านสายพันธุ์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 80%

ทั้งนี้ เขาก็ยังมีความเป็นกังวลจากการฉีดเพียงเข็มเดียว ท่ามกลางการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ในระดับสูงเวลานี้

นอกจากนี้ ดร.ฟาวซี ยังกล่าวเตือนถึงการผ่อนปรนมาตรการด้านสุขภาพช่วงฤดูร้อนดูจะเป็นไปอย่างเหมาะสมมากกว่า ท่ามกลางสภาพอากาศที่อบอุ่นมากขึ้นในช่วงที่สายพันธุ์ใหม่ระบาดสูง

 

·         ยอดติดเชื้ออินเดียรายวันทะลุ 100,000 ราย ท่ามกลางสายพันธุ์ใหม่ และพฤติกรรมชะล่าใจของประชาชน โดยเมื่อวานนี้อินเดียพบยอดติดเชื้อใหม่ทะลุ 103,558 รายภายในหนึ่งวัน ทำให้ยอดรวมสะสมในประเทศสูงถึง 12.6 ล้านราย  ด้านยอดเสียชีวิตเพิ่ม 478 ราย โดยยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้เสียชีวิตในอัตราที่อยู่ระดับต่ำของโลก ทำให้ยอดรวมสะสมในประเทศอยู่ที่ 165,101 ราย

 

·         Novavax เริ่มอนุญาตให้อาสาสมัครเข้ารับการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นในการทดลองที่แอฟริการใต้และอังกฤษ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ได้รับวัคซีนจะเห็นผลการต้านไวรัสได้มากขึ้น

 

·         รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่น แสดงความกังวลเกี่ยวกับเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจก่อให้เกิด “Fourth Wave” ภายในเวลา 109 วันที่เหลือก่อนเริ่มงานกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงโตเกียวได้

 

·         “ยุโรปเผชิญปัญหาใหญ่” หากลดการใช้ Lockdown ในเทศกาลอีสเทอร์ ท่ามกลางยอดติดเชื้อ Covid-19 ใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นจาก Third Wave

 

·         “บอริส จอห์นสัน” นายกฯอังกฤษหวังว่าต่างชาติจะสามารถกลับมาเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้งประมาณ 17 พ.ค. นี้

 

·         นิวซีแลนด์สามารถเปิดพรมแดนให้กับนักเดินทางชาวออสเตรเลียได้ทันทีในช่วงสุดสัปดาห์นี้

 

·         การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นเดือนมี.ค. ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดเพื่อสกัด Covid-19

 

·         ค่าแรงแท้จริงของญี่ปุ่นปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังได้รับผลกระทบด้านราคาจาก Covid-19

 

·         นักบริหารเงิน คาดช่วงนี้เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า มองการเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.45 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อวานนี้หลายตลาดหยุดเนื่องในวันอีสเตอร์ วันเชงเม้ง แต่ยังพอมี flow เข้ามา แม้จะไม่มาก ก็สามารถทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวรวดเร็วได้ สำหรับปัจจัยเรื่องทองคำก็ไม่ได้แรงมาก หลักๆ มาจากดอลลาร์ที่แข็งค่าระหว่างวัน

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนมี.ค.64 ลดลงเล็กน้อยที่ -0.08% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ CPI เฉลี่ยไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง -0.53% โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะเริ่มกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นไป เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งสิ้นสุดมาตรการลดค่าครองชีพค่าน้ำ-ค่าไฟ ส่วนทั้งปี คาดเงินเฟ้ออยู่ในกรอบ 0.7-1.7%

- รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเกิดการระบาดของโคโรนาในสถานบันเทิงว่า กรมควบคุมโรค รายงานข้อมูลการติดเชื้อจากสถานบันเทิงมีตัวเลขค่อนข้างสูง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชน จะต้องเสนอมาตรการที่มีความเข้มข้นต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โคโรนา (ศบค.) อาจถึงขั้นเสนอให้ปิดสถานบันเทิงในพื้นที่เสี่ยง หรือมีมาตรการที่มากกว่านั้น เพราะหากติดเชื้อในพื้นที่หนึ่งแต่บางพื้นที่ยังเปิดอยู่ ก็อาจจะเกิดการเคลื่อนย้ายของคน ซึ่งจะควบคุมได้ยาก

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ

- WTO ชี้ ‘วัคซีน-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก ’ หนุนคาดการณ์การค้าโลกปี 64 ฟื้นตัว 8% ส่วนภาคบริการยังน่าห่วง เสี่ยงหดตัว 63% จับตา ‘หนี้สาธารณะ-ขาดดุลงบ’ ปัจจัยเสี่ยงระยะกลาง พร้อมคาดการณ์ส่งออกไทยฟื้น ได้แรงหนุนจากพาณิชย์ลุยเปิด mini-FTA

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าว Thestandard

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 64 เพิ่มเป็น 5.5% จากคาดการณ์เดิมเติบโต 5.2% พร้อมประเมินว่าปีหน้าจะขยายตัวในระดับ 4.2% ส่วนของไทย ทาง IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปี 64 เหลือ 2.7% จากเดิม 4% แต่ประเมินว่าในปี 65 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในระดับ 4.6%