MTS Help Center

ทองคำปรับขึ้นทำสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ จากดอลลาร์-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัว

·         ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ประมาณ 1% ทำสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร

 

·         ดอลลาร์อ่อนค่าลงมาบริเวณ 92.341 จุด เป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา

 

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงมาที่ 1.654%

 

 

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.8% ที่ 1,743.04 เหรียญ  ระหว่างวันทำสูงสุดที่ 1,745.15 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 25 มี.ค.

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด +0.8% ที่ 1,743 เหรียญ

 

·         หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า ทองคำปรับขึ้นเป็นการชั่วคราว โดยที่ดอลลาร์ยังคงทรงตัวในทิศทางอ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวลดลง  แต่การที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อย่างยั่งยืนต้องยืนให้ได้เหนือ 1,750 เหรียญที่เป็นระดับแนวต้านสำคัญเวลานี้

 

 

·         หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า นักลงทุนเชื่อว่าน่าจะไม่เห็นการปรับขึ้นอย่างร้อนแรงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯต่อ ประกอบกับ Technical Rebound ที่เกิดขึ้นจึงเป็นตัวหนุนราคาทองคำในเวลานี้

 

·         นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank กล่าวว่า ทองคำกลับมาปรับขึ้นได้อีกครั้ง และเราจำเป็นต้องเห็นแรงกังวลทางการเมืองเพิ่มขึ้น หรือแม้แต่การปรับตัวสูงขึ้นของเงินเฟ้อ จึงจะเป็นปัจจัยที่ช่วยดันราคาได้มากขึ้นกว่านี้

 

·         กองทุนทองคำ SPDR หลังจากไม่ได้ทำอะไรมา 2 วันทำการ เมื่อวานนี้ทำการขายทองคำออก 3.79 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,029.04 ตัน เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนเม.ย.ปีที่แล้วหรือในรอบเกือบ 1 ปี

 

ภาพรวมปัจจุบันเดือนเม.ย. ขายทองคำรวมสุทธิ 8.46 ตัน

ตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน ปี 2021 กองทุน SPDR ขายทองคำออกแล้วทั้งสิ้น สุทธิ 141.70 ตัน

 

อย่างไรก็ดี เดือนเม.ย. ปี 2021 กองทุน SPDR ยังมีแรงเทขายอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 โดยมีการขายออกตั้งแต่ต.ค. - ปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 239.85 ตัน

·         นักลงทุนกำลังรอคอยรายงานประชุมเฟดเดือนมี.ค. ในคืนนี้เวลาประมาณตี 1 (ตามเวลาไทย) เพื่อหาสัญญาณหรือการส่งนัยยะบางอย่างจากการประชุมเดือนที่แล้ว

 

·         นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า
- แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังสดใส
- เฟดยังคงแนวทางการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปเพื่อสนับสนุนการเติบโต

 

 

·         ราคาซิลเวอร์ปิด +1% ที่ 25.14 เหรียญ

 

·         ราคาพลาเดียมปิด +0.5% ที่ 2,676.74 เหรียญ

 

·         ราคาแพลทินัมปิด +2% ที่ 1,232.52 เหรียญ

 

·         ประธานนักเศรษฐศาสตร์ประจำสภาที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของทำเนียบขาว เผย สหรัฐฯจะต้องลงทุนอย่างหนักเพื่อครองความเป็น “หนึ่ง” ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, แรงงาน, การศึกษาวิจัย และการพัฒนา เพื่อรักษาสถานภาพทางการแข่งขันและยังคงเป็นประเทศเศรษฐกิจลำดับที่ 1 ของโลก

 

·         ข้อมูลการเปิดรับสมัครตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐฯปรับตัวขึ้นทำสูงสุดในรอบ 2 ปี ยิ่งหนุนความแข็งแกร่งในตลาดแรงงาน

โดยข้อมูลล่าสุดพบว่าในเดือนก.พ. มีการเปิดรับสมัครตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้น 268,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.4 ล้านตำแหน่ง ซึ่งได้รับอานิสงส์จาก
- การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในประเทศ
- ความต้องการแรงงานที่มากขึ้น
- โครงการฉีดวัคซีน Covid-19 ที่ก้าวหน้าอย่างมาก
- การเพิ่มเงินช่วยเหลือของรัฐบาลเพื่อให้บริษัทยังมีกำลังจ้างงานเพิ่มขึ้นได้

 

·         “เยลเลน” ระบว่า จำเป็นต้องมีแรงงานเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นจุดอ่อนช่วง Covid-19

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผยว่า การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วทางเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเป็นตัวช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกได้เร็วขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อขจัดจุดอ่อนที่เกิดขึ้นจากวิกฤต Covid-19 ทั่วโลก รวมทั้งเรื่องของระบบการเงินที่อยู่นอกธนาคาร, ห่วงโซ่อุปทาน และเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม

·         อียูหนุนสหรัฐฯ “เรียกร้องใช้ภาษีขั้นต่ำทั่วโลก” แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเป็นจำนวนเท่าไร

 

·         เยอรมนี - ฝรั่งเศส เล็งเห็นข้อตกลงภาษีทั่วโลกอาจเกิดขึ้นได้จริงในการทำงานร่วมกับเยลเลน แต่ไอร์แลนด์ยังไม่ชัดเจน

 

·         ฝรั่งเศสเชื่อว่าข้อตกลงภาษีทั่วโลกจะบรรลุผลสำเร็จหลังสหรัฐฯให้คำมั่นในการร่วมมือ

 

 

·         เยอรมนีคาดหวังข้อตกลงใหม่ของการสำรองอเอ็มเอฟ จะสามารถช่วยเหลือประเทศยกาจนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดได้

 

·         หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ ยินดีกับแนวทางภาษีบริษัทขั้นต่ำทั่วโลก พร้อมระบุว่า การหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีอาจเป็นปัญหาต่อไปสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก

 

·         ไอเอ็มเอฟปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลก หลังมองเห็น “การสิ้นสุดวิกฤต” ฉายแววชัดเจนขึ้น พร้อมมองเป้าจีดีพีโลกปีนี้แตะ 6% จากเดิมคาด 5.5%

 

ขณะที่ปีหน้าคาดจีดีพีโลกขยายตัวได้ 4.4% จากคาดการณ์เดิมที่ 4.2%

 

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟมองระดับหนี้สหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ต้องกังวล” พร้อมคาดจีดีพีสหรัฐฯปีนี้จะโตได้ 6.4% จากเดิมคาด 5.1%

·         สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาล่าสุดยังพบ 66 ประเทศทั่วโลกมีรายงานยอดติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น และยอดรวมเสียชีวิตสะสมใกล้ทะลุ 3 ล้านรายจากยอดติดเชื้อใหม่ที่กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกล่าสุดแตะ 133 ล้านราย โดยวานนี้ยังพบภาพรวมทั่วโลกมียอดติดเชื้อสูงถึง 574,753 รายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมของโลกล่าสุดอยู่ที่ 2.88 ล้านราย

สหรัฐฯมีรายงานยอดติดเชื้อสะสมที่ 31.56 ล้านราย และเสียชีวิตสะสมในประเทศ 570,259 ราย

อินเดียยังอ่วมพบการระบาดทะลุหลักแสน ล่าสุดวานนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่ 115,269 ราย รวมติดเชื้อสะสม 12.79 ล้านราย

 

·         สถานการณ์ระบาดในไทย ล่าสุดวานนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 250 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 29,571 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 95 คน

ขณะที่อัตราผู้ได้รับวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างน้อย 1 เข็มของไทย อยู่ที่: 0.31% โดยฉีดแล้ว 257,484 โดส

สำหรับการจองคิวฉีดวัคซีนของไทย จะช่วยทำให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยปัจจุบันการกระจายวัคซีนในไทยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และกลางเดือน เม.ย.จะมีจัดสรรวัคซีนซิโนแวคที่เหลือ ขณะที่ พ.ค.วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 5 ล้านโดส จะถูกส่งมาถึงไทย โดยทางกระทรวงสาธารณสุขไทยจะเปิดให้ประชาชนได้จองคิวเพื่อฉีดวัคซีน นับเป็นปัจจัยที่ทำให้ไทยถึงเป้าหมายเร็วขึ้น

 

·         แถบยุโรปพบยอดติดเชื้อรวมสะสม 40.67 ล้านราย โดยมียอดเสียชีวิตสะสมที่ 931,976 ราย

 

·         ฝั่งเอเชียพบยอดติดเชื้อรวมสะสม 29.79 ล้านราย และมียอดเสียชีวิตสะสมที่ 437,950 ราย

 

·         โครงการฉีดวัคซีน Covid-19 พบ 153 ประเทศทั่วโลกเริ่มโครงการดังกล่าวแล้ว และมีการฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่า 677 ล้านโดส

 

·         สหรัฐฯมีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างน้อยคนละ 1 โดส คิดเป็นค่าเฉลี่ย 32.6% ขณะที่ฉีดครบ 2 โดสคิดเป็น 19% รวมฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในประเทศแล้ว 168.5 ล้านโดส

 

·         รายงานจากรอยเตอร์สล่าสุดพบยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 5% สูงกว่า 450,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และนับเป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่พบยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

จำนวนการรักษาในโรงพยาบาลสูงขึ้น 4% กว่า 37,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ภาพรวมจำนวนรัฐที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ในสัปดาห์ที่แล้วลดลงจากสัปดาห์ก่อนต่ำกว่า 30 รัฐอีกครั้ง ล่าสุดอยู่ที่ 27 จาก 50 รัฐ

·         รัฐแคลิฟอร์เนีย เผยแผนเตรียมเปิดทำการทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบใน 15 มิ.ย.นี้

·         กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียประกาศเคอร์ฟิวส์จนถึง 30 เม.ย. ท่ามกลาง Second Wave ที่ส่งผลให้ยอดติดเชื้อระบาดหนักกว่าระลอกแรก

·         บราซิลพบยอดเสียชีวิตจาก Covid-19 เพิ่มมากขึ้น และดูสถานการณ์จะเลวร้ายกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐฯ โดยล่าสุดบราซิลพบยอดเสียชีวิตเฉลี่ยสะสมสูงกว่า 3,000 ราย/วัน ทำให้ยอดรวมสะสมเกือบทะลุ 333,000 ราย และมีแนวโน้มจะมากกว่าค่าเฉลี่ยการเสียชีวิตในสหรัฐฯกว่า 555,000 รายได้

·         หัวหน้าพรรค CDU ของเยอรมนีประกาศขยาย Lockdown ออกไป 2-3 สัปดาห์

·         ผลการศึกษาชี้ หนึ่งในสามของผู้รอดชีวิตจาก Covid-19 พบความผิดปกติทางระบบประสาทหรือทางจิตใจมากขึ้น

·         Oxford ยุติการศึกษาการใช้วัคซีน Covid-19 ในเด็ก โดยต้องการรอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาลิ่มเลือด

·         สถานการณ์ของสถานพยาบาลในฝรั่งเศสย่ำแย่ ใกล้ทำสูงสุดรอบ 5 เดือนจาก Covid-19

·         รัฐบาลเช็ค เตรียมเปิดทำการโรงเรียนบางส่วน และจะเริ่มถอนมาตรการเคอร์ฟิวส์ในสัปดาห์หน้า

·         หน่วยงานเฝ้าระวังในยุโรป กล่าวว่า หนังสือเดินทางหรือ Vaccine Passports จำเป็นต้องถูกต้องตามกฎหมาย

·         รายงานจาก Bloomberg ชี้ ผู้เชี่ยวชาญอียู คาด ประชาชนในอียูส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนภายในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.

·         กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณาร่วมบอยคอตการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนจะจัดขึ้นในปีหน้า (ระหว่างวันที่ 4-20 ก.พ. 2022)

อย่างไรก็ดี สหรัฐฯยังไม่ได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการในเรื่องดังกล่าว

ล่าสุดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าจะให้การสนับสนุนแนวคิดการร่วมกับชาติพันธมิตรในการบอยคอตกีฬาโอลิปิกที่จัดขึ้นที่จีนดังกล่าว

 

·         จีนเข้าร่วมพัฒนาค่าเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่กระบวนการต่างไปจากของสหรัฐฯ

- จีนมีความคืบหน้าอย่างมากในการพัฒนาดิจิทัลหยวน

- ค่าเงินดิจิทัลของจีนดูจะถูกให้ความสนใจทั่วโลก ท่ามกลางความเจริญมากขึ้นใน Cryptocurrency

- เฟดมีแนวทางการดำเนินการที่รอบคอบเพื่อให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ซึ่งค่อนข้างแตกต่างกับแนวทางของจีนในการเคลื่อนไหวการพัฒนาค่าเงินดิจิทัลของตนเอง

 

·         Coinbase คาดไตรมาสแรกผลกำไรอาจเพิ่มขึ้นสูงกว่า 9 เท่าตัว ประมาณ 1.8 พันล้านเหรียญ ก่อนเดบิวต์ตลาดสู่สาธารณชน

 

·         Coinbase ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความล่าช้าในการดำเนินธุรกรรมต่างๆ เป็นปัญหาจากแพลทฟอร์มทางการเงิน

·         Coinshares รายงาน ปริมาณเงินทุนไหลเข้าตลาด Cryptocurrency ยังคงทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 4.5 พันล้านเหรียญในช่วงไตรมาสที่ 1/2021

 

·         บริษัท Intel มุ่งมั่นแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และต้องการเป็นศูนย์กลางข้อมูลชิป

 

·         Morgan Stanley ชิงขายหุ้นบริษัท Archegos มูลค่า 5 พันล้านเหรียญเมื่อคืนนี้ ก่อนเกิดแรงขายครั้งใหญ่จากคู่แข่งต่างๆ

 

·         รัสเซียเผยการคว่ำบาตรพม่า จะนำไปสู่สงครามการเมือง แต่อียูดูเหมือนจะมีแผนคว่ำบาตรมากขึ้น

 

·         ประธานาธิบดีฟิลลิปปินส์เรียกร้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีกับการเดินเรือของจีนบริเวณข้อพิพาททะเลจีนใต้

 

 

·         นักบริหารเงิน คาดว่า กรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.25 - 31.40 บาท/ดอลลาร์

 

แนวโน้มค่าเงินบาทมองว่า โอกาสที่เงินบาทจะอ่อนค่าลงยังมีอยู่ แม้ว่า เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงบ้าง แต่เรามองว่าในระยะสั้น 1-2 เดือนข้างหน้า เงินดอลลาร์ยังมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ หรือ กลับมาแข็งค่าขึ้นได้ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังฟื้นตัวได้แข็งแกร่งต่อเนื่อง

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

-นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ตุรกี รอบที่ 7 ผ่านระบบทางไกล โดยได้เป็นประธานร่วมกับนางบาฮาร์ กึซลือ รองอธิบดีกรมความตกลงระหว่างประเทศและกิจการสหภาพยุโรปของตุรกี ซึ่งการเจรจารอบนี้ มีการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าระหว่างหัวหน้าคณะเจรจาของสองประเทศ และการประชุมระดับเทคนิคของคณะทำงาน 6 คณะ ได้แก่ คณะทำงานด้านการค้าสินค้า การเยียวยาทางการค้า กฎระเบียบทางเทคนิค มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช กฎหมาย และทรัพย์สินทางปัญญา โดยการเจรจามีความคืบหน้าด้วยดีตามที่ตั้งเป้าไว้ มั่นใจปิดดีลได้ปี 65

-น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังเตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย ปี 2564 ใหม่ในช่วงปลายเดือนเม.ย.นี้ โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ชะลอตัวไปจากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2.8% และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 3%