· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่เฟดยืนยันที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อเนื่องจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯช่วยหนุน
ดัชนี S&P 500 futures +0.3%
ดัชนี Nasdaq futures +0.4%
ดัชนี EUROSTOXX 50 futures +0.2%
ดัชนี FTSE futures +0.3%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและการกลับมาใช้ข้อจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด -0.07% ที่ระดับ 29,708.98 จุด ด้านดัชนี Topix ปิด -0.79% ที่ระดับ 1,951.86 จุด
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นด้านการดูแลสุขภาพเป็นผู้นำผลกำไร ขณะที่ประเทศเพิ่มความพยายามในการฉีดวัคซีน ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.08% ที่ระดับ 3,482.55 จุด
ดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +0.17% โดยดัชนีด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น 1.74% และกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.97%
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นด้านการดูแลสุขภาพเป็นผู้นำผลกำไร ขณะที่ประเทศเพิ่มความพยายามในการฉีดวัคซีน ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.08% ที่ระดับ 3,482.55 จุด
ดัชนี blue-chip CSI300 ปิด +0.17% โดยดัชนีด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น 1.74% และกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.97%
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียและดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.5% ด้านหุ้นทรัพยากรพุ่งขึ้น 1.2% ท่ามกลางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 1.91 จุด แกว่งซึมรอติดตามสถานการณ์โควิดในปท.-มาตรการภาค
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,558.47 จุด เพิ่มขึ้น 1.91 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขายราว 43,520 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,562.02 จุด และระดับต่ำสุด 1,552.18 จุด
- เอกชน โอดโควิดระบาดรอบใหม่ หวั่นควบคุมยาก-กระจายรวดเร็ว ห่วงเศรษฐกิจซึมอีกยาว รอประเมินสถานการณ์อีกครั้งก่อนประชุม กกร. 21 เม.ย.นี้ ด้าน "กนง." มองสารพัดปัจจัยเสี่ยงกดดันการฟื้นตัว จี้เร่งเติมสภาพคล่องอุ้มภาคครัวเรือน-ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างตรงจุด
- สทท.กังวลโควิดระบาดอีกรอบ ขอให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้า หรือสถานที่ท่องเที่ยวการ์ดอย่าตก สงกรานต์ยังเที่ยวได้แต่ต้องระวังมากกว่าเดิม กกร.เลื่อนแผนหารือเป็นวันที่ 21 เม.ย. เตรียมประเมินตัวเลขเศรษฐกิจใหม่
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งล่าสุดได้สร้างความกังวลให้กับภาคเอกชนมากกว่าระลอกที่แล้ว เนื่องจากเป็นการติดเชื้อในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง กลุ่มที่ต้องพบปะผู้คนมากมาย ส่งผลให้เชื้อกระจายได้อย่างรวดเร็วและควบคุมได้ยาก ไม่เหมือนกรณีที่แพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งสามารถจำกัดบริเวณและเดินหน้าเชิงรุกหาเชื้อพร้อมทั้งระงับการกระจายได้ง่ายกว่าและยอมรับว่ามีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่คาดการณ์ว่าจะฟื้นได้ในไตรมาส 3 นี้ แต่มาถึงตอนนี้ต้องใช้เวลาประเมินสถานการณ์ใหม่อีก 2 สัปดาห์
- นายกฯ ยันไม่มีมาตรการปิดทั่วประเทศเหตุยังรับมือได้ มอบอำนาจจังหวัดพิจารณาปิดสถานที่ตามจำเป็นพร้อมสั่งตั้ง "รพ.สนาม" ใน กทม.รองรับระบาดยอมรับกังวลคลัสเตอร์ใหม่ แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด พร้อมยืนยันเป้าหมายจีดีพีโตไม่ต่ำกว่า 4% "ศักดิ์สยาม" ขึ้นแท่นรมต.รายแรกติดโควิด ศบค.ชุดเล็ก ล้มแผนยกระดับจัดโซนสีแดง ให้ สธ.-มท.ดำเนินการแทน
- อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 242,641 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.60% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2563 แบ่งเป็นการส่งออก 141,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น19.64% และการนำเข้า 101,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.18% โดยไทยยังคงได้ดุลการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง 39,543ล้านบาท