• สรุปสถานการณ์ Third Wave ในไทย vs มุมมองเศรษฐกิจไทย (9 เม.ย. 64)

    9 เมษายน 2564 | Economic News
 


          

ล่าสุดวานนี้พบยอดผู้ติดเชื้อสะสม แตะ 3 หมื่นเป็นครั้งแรก ผู้ติดเชื้อ 405 รายใหม่ ยอดป่วยยืนยันสะสม 30,310 ราย  ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยังคงเดิมอยู่ที่ 95 ราย

ขณะที่รายงานที่น่าเป็นกังวลล่าสุด คือการพบผู้ติดเชื้อไวรัสตัวกลายพันธุ์อังกฤษที่ระบาดหนัก กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ ถูกพบแล้วในประเทศไทย  

ภาพรวม ไทยติดเชื้อโควิด ค่อนประเทศ 37 จังหวัด



โรงพยาบาลราชวิถี พบบุคลากรทางการแพทย์ติดโควิดเพิ่มอีก 10 คน

พิษโควิดลามหนัก! จุฬาฯ ประกาศปิดชั่วคราวตั้งแต่ 11-25 เม.ย.นี้

หมอจุฬาฯ แนะทำงานที่ต้องเจอคน ควรใส่แมสก์ 2 ชั้น เผยสถานที่ต้องระวัง มีหมดทั้ง งานบวช-ห้าง

บรรดารัฐมนตรีไทยติดเชื้อเพิ่ม ล่าสุดส.ส.ภูมิใจไทย ติดอีกราย เผยไปกินข้าวกับเพื่อน ที่เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ทองหล่อ

 

ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 3.2 แสนโดส ครบสองเข็มแล้ว 49,635 คน ผลข้างเคียงไม่มาก

ขณะนี้ประเทศไทยได้ฉีดวัตซีนโควิด-19 แล้ว จำนวน 323,989 โดส โดยเป็นวัคซีนของซิโนแวค 281,212 โดส และวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า 42,777 โดส โดยมีคนที่ฉีดครบสองเข็มแล้ว 49,635 คน ผู้ได้รับวัคซีนในระยะแรกนี้ส่วนใหญ่ (42%) เป็นบุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข/อสม. โดยพบผลข้างเคียงใน 10.25% ของผู้ได้รับวัคซีน แต่อาการไม่รุนแรง


·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค.อยู่ที่ 48.5 ลดลงจากเดือน ก.พ.64 ซึ่งอยู่ที่ 49.4 โดยมีสาเหตุสำคัญจากความกังวลต่อสถานการณ์โควิดรอบใหม่ รวมทั้งปัญหาการเมืองที่ยังไม่นิ่ง ทั้งในและนอกรัฐสภา

- ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดใหญ่ สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินสถานการณ์ในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมาอีกระลอกในหลากหลายคลัสเตอร์ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ทางภาครัฐจะประกาศการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นเรื่องดีในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าเราจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นรอบที่ 3

 

·         อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยัน 'โควิดไม่กระทบ บจ.ไทย

เชื่อธุรกิจมีความพร้อมรับมือ แนะวิเคราะห์ผลกระทบรายอุตสาหกรรมก่อนลงทุน หวังการฉีดวัคซีนช่วยชุบเศรษฐกิจไทย พร้อมเผยแนวโน้มฟันด์โฟลว์ต่างชาติขายสุทธิลดลง เดือน มี.ค.เหลือ 87 ล้านบาท สะท้อนตลาดหุ้นไทยไม่ไร้เสน่ห์

- โบรกฯ คาดหุ้นไทยแกว่ง 1,550-1,570 จุด โควิดกดดัน
บล.กรุงศรี” ประเมินหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว 1,550-1,570 จุด ได้แรงหนุนจาก เฟด” ตรึงดอกเบี้ยต่ำ-บอนด์ยิลด์สหรัฐอ่อนตัว แต่โควิด-19 ในประเทศจะกดดันดัชนี

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (9 เม.ย.) คาดดัชนีหุ้นไทย (SET Index) จะแกว่งตัว 1,550-1,570 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป หลังตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงเกินคาด รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) สหรัฐที่อ่อนตัวลงอย่างไรก็ตามความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ของไทยยังคงเป็นแรงกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าว TNN THAILAND

เศรษฐกิจไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยง กรณีเลวร้ายจีดีพีติดลบ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยรายงานนโยบายการเงินเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินภาพเศรษฐกิจไทยโดยรวมว่า มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงส่งผลให้จีดีพีต่ำกว่าประมาณการการขยายตัวที่ 3% ในปีนี้เป็นผลมาจาก การทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยอาจล่าช้าออกไป เนื่องจากข้อจำกัดในการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด แรงกระตุ้นจากภาครัฐอาจน้อยกว่าคาด หากการอนุมัติโครงการภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงินฯ ที่เหลือล่าช้า .

ภาคเอกชน หวั่นโควิด-19 รอบใหม่ระบาดจะกระทบเศรษฐกิจซึมตัวต่อเนื่อง เตรียมประเมินสถานการณ์อีกครั้งก่อนประชุม กกร. 21 เม.ย.นี้

 

·         อ้างอิงจากการเงินการธนาคาร

- เศรษฐกิจไทยจะฟื้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับวัคซีน หวังมาตรการคลังช่วย อาจเห็นดอกเบี้ยนโยบายคงที่ 3 ปี

ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า การแพร่ระบาดรอบใหม่ของ Covid 19 ไม่ได้น่าตกใจเพราะอยู่ในการประเมินไว้แล้ว แต่การระบาดในระลอกใหม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุนในตลาดทุนตลาดเงินจากที่เห็นได้จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ดัชนีปรับตัวลดลงรับข่าว และการอ่อนค่าของค่าเงินบาทที่เคยอยู่ในระดับ 29.8 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในต้นปี อ่อนค่ามาเป็น 31.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันแนวโน้มจะอ่อนค่าไปถึงกลางปี

ทั้งนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคงประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2564 และปี 2565 ที่ร้อยละ 2.4 และ 3.0 ตามลำดับ หวังเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องและหนุนให้เศรษฐกิจเติบโต ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศคือผลจากมาตรการทางการคลังและการเงิน การกระจายการฉีดวัคซีนและการเปิดภาคการท่องเที่ยวของประเทศ

ขณะที่ โอกาสลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจมีอยู่ไม่มาก มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายคงที่ไปอีก 3 ปี อย่างไรก็ดีประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2564 ของเรารวมคาดการณ์เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ อันเนื่องมาจากความต้องการบริโภคลดลง และดุลบัญชีเดินสะพัดที่อยู่ในระดับเกินดุลไม่มาก อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยว การนำเข้าที่ค่อยๆ สูงขึ้นและราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นเป็นความเสี่ยงที่มีผลต่อการคาดการณ์ดุลบัญชีเดินสะพัดของเรา นอกจากนี้คาดว่าการเบิกจ่ายทางการคลังยังคงดำเนินไปอย่างช้าๆ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com