ทองปิดร่วงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้น - ตลาดรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ และข้อมูลค้าปลีก เพื่อชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ
· ราคาทองคำตลาโดลกปิด -0.6% ที่ 1,732.14 เหรียญ
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด -0.7% ที่ 1,732.70 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก StoneX ระบุว่า ทองคำมีแนวโน้มจะได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ ที่อาจปรับขึ้นสูงกว่า “ระดับเป้าหมาย” แต่ในช่วงแรกหาก “ทิศทางเงินเฟ้อ” เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ก็จะส่งผลให้ประชาชนเริ่มพิจารณาและคำนึงถึงเรื่อง “การขึ้นดอกเบี้ย” อีกครั้ง และทองคำอาจปรับตัวลดลงได้
· ราคาซิลเวอร์ปิด -1.7% ที่ 24.82 เหรียญ
· ราคาพลาเดียมปิด +1.3% ที่ 2,674.68 เหรียญ
· ราคาแพลทินัมปิด -2.3% ที่ 1,170.90 เหรียญ หลังช่วงต้นตลาดทำต่ำสุดใกล้รอบ 2 สัปดาห์ ที่ 1,164.50 เหรียญ
· ดอลลาร์อ่อนค่าลง นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่เคลื่อนไหวใกล้ต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักลงทุนส่วนใหญ่รอคอยข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้ และยอดค้าปลีกที่จะประกาศช่วงปลายสัปดาห์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ทรงตัวบริเวณ 1.664% หลังร่วงลงทำต่ำสุดในสัปดาห์ที่แล้วบริเวณ 1.617%
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% ที่ 92.03 จุด
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.1% ที่ 1.1915 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินเยนแข็งค่าลงมา 0.3% ที่ 109.33 เยน/ดอลลาร์
Bitcoin มีระดับการซื้อขายเหนือ 60,000 เหรียญ
· Standard Chartered มอง ดอลลาร์มีแนวโน้ม “ผันผวน” จนกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเปิดทำการได้อย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่ตลาดต่างๆอาจสามารถรับมือกับการทยอยปรับขึ้นในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
· ยอดงบประมาณขาดดุลสหรัฐฯเพิ่มขึ้นทำสูงสุดประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. ท่ามกลางการใช้งบประมาณช่วยเหลือจำนวนมหาศาล
กรทะรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เผชิญ ระดับงบประมาณขาดดุลในเดือนมี.ค.แตะ 6.6 แสนล้านเหรียญ ซึ่งเป็นระดับรายเดือนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเป็นผลมาจากการจ่ายเงินช่วยเหลือโดยตรงให้แก่ชาวสหรัฐฯ ภายใต้แพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจของนายไบเดน
รายงานยอดขาดดุลช่วง 6 เดือนแรกของปี 2021 มีแนวโน้มจะขยายตัวแตะ 1.706 ล้านล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับระดับ 7.43 แสนล้านเหรียญในช่วงเดียวกันของปีก่อน
· ประธานเฟดย้ำ “ยังไม่มีแนวโน้ม” ที่เฟดจะทำการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แม้จะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ยังคงกล่าวย้ำถึงการที่เฟดจะยังคงแนวทางการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือในการฟื้นคืนจากความเสียหายที่ได้รับจากวิกฤตไวรัสโคโรนา
เฟดมีการปรับทบทวนข้อมูล “ความกังวล” เรื่องการขาดทุนของธนาคาร Archegos
· “นายอีริค โรเซนกร็น” ประธานเฟดสาขาบอสตัน ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯมีสัญญาณรีบาวน์ได้ต่อในปีนี้ จากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ควบคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ตลาดแรงงานยังคงอยู่ห่างไกลจากการฟื้นตัว และเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด
สำหรับโครงการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาดูจะประสบความสำเร็จและสามารถต้านการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้บางส่วน และถึงจะมีการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ แต่แนวโน้มทางเศรษฐกิจก็ดูจะยังอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง
· “ไบเดน” หาวิธีดำเนินงานร่วมกับทั้ง 2 พรรคในการประชุม “โครงสร้างพื้นฐาน” ร่วมกับพรรครีพับลิกัน
· CORONAVIRUS UPDATES:
สถานการณ์ติดเชื้อล่าสุดยังพบ 56 ประเทศทั่วโลกยังมีรายงานผู้ติดเชื้อในระดับสูง
รายงานยอดติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดทะลุ 137.24 ล้านราย โดยมียอดติดเชื้อใหม่เพิ่ม 582,056 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมสะสมทั่วโลกแตะ 2.95 ล้านราย
ยอดติดเชื้อใหม่ 3 อันดับล่าสุดของโลก
1. อินเดีย +160,694 รวมสะสม 13.68 ล้านราย
2. ตุรกี +54,562 รวมสะสม 3.9 ล้านราย
3. สหรัฐฯ +54,040 รวมสะสม 31.98 ล้านราย
ยอดเสียชีวิตใหม่ 3 อันดับล่าสุดของโลก
1. บราซิล +1,738 รวมสะสม 355,031 ราย
2. อินเดีย +880 รวมสะสม 171,089 ราย
3. สหรัฐฯ +453 รวมสะสม 576,291 ราย
สถานการณ์ระบาดในไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 985 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 33,610 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 97 ราย
ไทยป่วยโควิดพุ่งวันละเฉียดพันราย หมอห่วงพันธุ์ ‘บราซิล-แอฟริกา’ แพร่
· รายงานจาก The Standard ระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าอันดับ 2 ของเอเชีย ลุ้นหลังสงกรานต์ทะลุ 32.00 บาท/ดอลลาร์ โดยนักบริหารเงินมองว่าค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าส่วนหนึ่งเพราะคนลดความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคท่องเที่ยวลง ขณะเดียวกันไทยยังขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
· รายงานยอดติดเชื้อใหม่ในภูมิภาคที่พบมากสุด มาจากแถบเอเชียและตะวันออกกลาง โดยที่รายงานล่าสุดพบ 48 ประเทศในภูมิภาคยังมีรายงานติดเชื้อเพิ่ม
· อินเดียมียอดติดเชื้อใหม่เฉลี่ยรายวันสูงที่สุดของโลกในเวลานี้
· โครงการฉีดวัคซีน Covid-19
พบ 161 ประเทศเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีน โดยมีการใช้วัคซีนรวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 787 ล้านโดส
· สหรัฐฯฉีดวัคซีนครบทุกโดสให้แก่ประชาชนแล้ว 22%
· อังกฤษฉีดวัคซีนครบทุกโดสให้แก่ประชาชน 11%
· ประเทศอื่นๆบางส่วนยังไม่สามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ครบทุกโดส อาทิ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ที่ประชาชนได้รับวัคซีนครบทุกโดสอยู่ประมาณ 6%
· WHO ระบุว่า การระบาดอาจขยายตัวเกินต้าน ที่อาจเห็นยอดติดเชื้อใหม่รายสัปดาห์ทั่วโลกสูงกว่า 4.4 ล้านราย/สัปดาห์ ได้
· ยอดติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ยอดรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 สัปดาห์
รายงานล่าสุดพบยอดติดเชื้อใหม่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้น 8% ประมาณ 490,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ภาพรวมยอดติดเชื้อใหม่มีการปรับขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 4 สัปดาห์
· ผู้อำนวยการ CDC จีน ระบุว่าวัคซีน Covid-19 ของจีน ไม่มีอัตราป้องกันที่สูงมาก และการที่ประสิทธิภาพวัคซีนอยู่ระดับต่ำ จึงทำให้รัฐบาลกำลังพิจารณาใช้วัคซีนอื่นมาช่วยให้เกิดการหนุนและผสานการป้องกันเพิ่มขึ้น
· อินเดียอนุมัติใช้วัคซีน Covid-19 หรือ Sputnik V ของรัสเซีย
· อดีตผู้บริหาร Unilever กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาจะเลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปอีกสิบปี
· ยุโรปอาจเห็นทิศทางเศรษฐกิจปรับลง และการออกกฎหมายใหม่ใดๆอาจสะท้อนถึงเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น
· ผลสำรวจจาก Reuters ชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มจะกลับมาเติบโตได้เท่าช่วงก่อนเกิดวิกฤต Covid-19 ได้ประมาณกลางปี 2022
· โฆษกแห่งราชอาณาจักร ระบุว่า อังกฤษ, อียู ยังเจรจาความแตกต่างเรื่องไอร์แลนด์เหนือ
· นักลงทุนตะวันออกกลางหาโอกาสลงทุนสหรัฐฯ ท่ามกลาง “ไบเดน” ผลักดันแผนโครงสร้างพื้นฐาน
บริษัท Investcorp (บริษัทลงทุนของประเทศบาห์เรน) กำลังมองหาโอกาสลงทุนท่าเรือและถนนในสหรัฐฯ ท่ามกลางนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยแผนค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านเหรียญ
ขณะที่นายไบเดนกำหนดจะประชุมร่วมกับสมาชิกในวุฒิสภาเพื่อเสนอต่อแผนโครงสร้างพื้นฐาน ที่อาจมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่โครงการ
- ก่อสร้างสะพานต่างๆ
- ท่าอากาศยาน
- โครงข่ายต่างๆ
- รถยนต์ไฟฟ้า
- ที่อยู่อาศัย
- การฝึกอบรมแรงงาน
- การขึ้นภาษีบริษัท
· ข้อมูลเงินกู้ภาคธนาคารครั้งใหม่ของจีนเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นเกินคาดจากเดือนที่แล้ว แต่สินเชื่อของจีนขยายตัวอย่างอ่อนกำลังลง
ท่ามกลางความต้องการที่แข็งแกร่งของภาคบริษัท และภาคครัวเรือน แต่สินเชื่ออ่อนตัว ในขณะที่ธนาคารกลางจีนที่ระมัดระวังระหว่างการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการจำกัดความเสี่ยงเรื่องระดับหนี้
ธนาคารกลางจีนขยายเงินกู้หยวนรอบใหม่แตะ 2.73 ล้านล้านหยวน (4.1662 แสนล้านเหรียญ) ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 1.36 ล้านล้านหยวนในเดือนก.พ. ส่งผลให้การกู้ยืมของภาคธนาคารไตรมาสแรกทำสูงสุดประวัติการณ์ 7.67 ล้านล้านหยวน
· Huawei ตำหนิการขาดแคลนชิปทั่วโลก เป็นผลมาจาก “การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ”
· น้ำมันดิบปิดปรับขึ้นเล็กน้อย จากคืบหน้าโครงการฉีดวัคซีน - ตึงเครียดตะวันออกกลาง หลังจากที่กลุ่มกบฎฮูติมีการยิงมิสไซน์ใส่พื้นที่โรงน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย
น้ำมันดิบ WTI ปิด +0.5% ปิดที่ 59.70 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ Brent ปิด +0.4% ที่ 63 เหรียญ/บาร์เรล
· S&P 500 ปิดใกล้สูงสุดประวัติการณ์ ตลาดจับตา “ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯค่อนข้างทรงตัวใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันก่อน โดยภาพรวมนักลงทุนรอรายงานข้อมูลเงินเฟ้อและการประกาศรายงานผลประกอบการของภาคบริษัท
ดัชนี S&P 500 ปิด -1 จุด ที่ระดับ 4,127.99 จุด
ดัชนี Dow Jones ปิด -55.20 จุด หรือ -0.2% ที่ 33,745.40 จุด
ดัชนี Nasdaq Composite ปิด -0.4% ที่ 13,850.00 จุด
· หุ้นเอเชียเปิดสูงขึ้นรอคอยข้อมูลการค้าจีนเดือนมี.ค.
ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.23%
ดัชนี Topix เปิด +0.13%
ดัชนี Kospi เปิด +0.18%