ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1% ท่ามกลางข้อมูลนำเข้าจีนที่ออกมาแข็งแกร่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวที่สูงที่สุดในรอบกว่า 4 ปี
ขณะที่ยอดนำเข้าน้ำมันไปยังจีนปรับเพิ่มขึ้น 21% ในเดือนมี.ค. หลังจากที่ลดลงในช่วงต้นปี
แต่การปรับขึ้นของราคาน้ำมันยังเป็นไปอย่างจำกัดจาก
- ความกังวลเรื่องวัคซีน Johnson & Johnson
- ความกังวลเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าจากปัญหาวัคซีน
- อุปสงค์น้ำมันเติบโตจำกัด
น้ำมันดิบ Brent ปิด +64 เซนต์ หรือ +1% ที่ระดับ 63.91 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI ปิด +48 เซนต์ หรือ 60.18 เหรียญ/บาร์เรล
นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Price Futures Group กล่าวว่า ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบรอความชัดเจนของ “อุปสงค์น้ำมัน” และ “ทิศทางสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ”
ทั้งนี้ รายงานของกลุ่ม OPEC+ มีการปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2021 ที่คาดว่าจะปรับขึ้นได้อีกประมาณ 70,000 บาร์เรล/วัน จากคาดการณ์เดิม
นอกจากนี้ ตลาดยังมีแรงหนุนจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯประจำสัปดาห์ที่อาจปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ได้ ขณะที่สต็อกน้ำมันดีเซลและแก๊สโซลีนมีแนวโน้มขยายตัวต่อ ทางด้านน้ำมันเชลถูกคาดว่าจะปรับขึ้นต่อเนื่อง 3 เดือนติด
อย่างไรก็ดี ปัญหาการชะลอการฉีดวัคซีนในยุโรป และเรื่องโอกาสเห็นอิหร่านเพิ่มอุปทานการผลิตน้ำมันก็ยังคงเป็น “ปัจจัยลบ” ที่กดดันราคาในเวลานี้
องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) แนะนำให้หยุดการใช้วัคซีน Covid-19 ของบริษัท Johnson & Johnson หลังพบรายงานลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับการฉีดวัคซีนประมาณ 6 ราย
ดังนั้น สหรัฐฯจึงควรหยุดใช้งานวัคซีนดังกล่าวจนกว่าศูนย์กลาง
ที่มา : CNBC