MTS Help Center

รายงาน Beige Book – เศรษฐกิจสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น ท่ามกลางกลุ่มผู้บริโภคที่ลดกำลังซื้อช่วงฤดูหนาว

สรุปรายงานภาวะเศรษฐกิจของเฟด (Beige Book) ระบุถึง เศรษฐกิจสหรัฐฯมีการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หนุน “ความเชื่อมั่น” ผู้บริโภค สอดคล้องกับถ้อยแถลงของประธานเฟดในวันก่อนที่ย้ำถึงความมั่นใจต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการจ้างงานที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

กิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างเดือนก.พ. – ต้นเดือนเม.ย. ได้รับแรงสนับสนุน ดังนี้
1) โครงการฉีดวัคซีน Covid-19
2) มาตรการกระตุ้นทางการเงินที่แข็งแกร่ง
3) ประชาชนกลับมามีงานทำ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นอย่างมาก ได้แก่ ภาคการผลิต, ก่อสร้าง, ภาคการท่องเที่ยว และโรงพยาบาล

“โพเวลล์” ย้ำไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนปี 2022 พร้อม แนะเฟดจะเดินตามรอยการปรับนโยบายปี 2013 – 2014 ในการเริ่มถอนมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่า การชะลอ QE อาจเกิดขึ้นได้ก่อน การพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยจะยังไม่มีขายโดยตรงในตลาดพันธบัตร

ณ ขณะนี้ สมาชิกเฟดยังไม่มีการลงมติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่จะมีสัญญาณชี้นำถึงแนวนทางที่เฟดจะดำเนินไปในอนาคต

ถ้อยแถลงดังกล่าวของเฟด ส่งผลให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์ คาดว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงแผนการของเฟดที่จะก้าวออกจากแนวทางการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

บรรดานักเศรษฐศาสตร์ กำลังคาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในปีนี้ และอาจเห็นจีดีพีในไตรมาสนี้ปรับขึ้นไปกว่า 10%

ขณะที่เฟดดูจะเตรียมถอนแนวทางการดำเนินนโยบายผ่อนคลายเหมือนที่เคยทำในปี 2013 – 2014 ที่เฟดยกเลิกการเข้าซื้อ QE ในเดือนธ.ค. ปี 2013 และยังไม่ทำการขึ้นดอกเบี้ยเป็นเวลา 2 ปี

นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ระบุว่า เฟดมีเครื่องมีอในการจัดการกับเงินเฟ้อ หากเงินเฟ้อปรับขึ้นสูงเกินไป

อย่างไรก็ดี เงินเฟ้ออาจมีการผันผวนปรับขึ้นในระยะสั้นๆ ตอบรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เผชิญวิกฤตการระบาดของไวรัสได้ และถึงจะเห็นเงินเฟ้อสูงขึ้นแต่ก็จะยังอ่อนตัวต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด

นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ย้ำ เฟดจะยังคงดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นเวลานาน และอาจเลื่อนการหารือเรื่องขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน ขณะเดียวกันก็มีการหารือเกี่ยวกับกรอบเวลาดำเนินนโยบายใหม่

โดยเฟดจะพิจารณาจากข้อมูลจริง ไม่ใช่คาดการณ์ และจะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย หากอัตราว่างงานยังไม่ได้ลดน้อยลง

ทั้งนี้ เฟดจะยังดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป จนกว่าจะเข้าใกล้เป้าหมายเงินที่เฟดกำหนด

นอกจากนี้ เขาจะจับตาใกล้ชิดต่อดัชนี CIE ที่สะท้อนมุมมองรายไตรมาสล่าสุดของสมาชิกเฟดว่าเข้าใกล้เป้าหมายหรือไม่ อย่างไร

นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส ระบุว่า อาจรอเพียงชั่วอึดใจจึงจะเห็นจ้างงานสหรัฐฯบรรลุผลเต็มรูปแบบ

และเฟดอาจเริ่มต้นถอนมาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจได้เร็วมากขึ้นจากข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ เฟดควรลด “การใช้มาตรการผ่อนคลายพิเศษ” ซึ่งหากเล็งเห็นโอกาสแรกปรับขึ้นแตะเป้าหมาย และกำลังแตะเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น
- สถานการณ์การระบาดของ Covid-19
- ความคืบหน้าเรื่องการจ้างงานอย่างเต็มรูปแบบ
- เป้าหมายเงินเฟ้อ 2%

ที่มา: CNBC, Reuters, Market Watch, Forexlive