MTS Help Center

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทำการจัดประชุมร่วมกับ นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในวันพรุ่งนี้

กลุ่มนักวิเคราะห์ด้านการเมือง กล่าวว่า อิทธิพลทางการเมืองของจีนมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บรรดาผู้นำ 2 ประเทศ จะเข้าร่วมประชุมกันที่กรุงวอชิงตัน โดยคาดอาจเห็น 2 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

การต้านโครงการ “Belt and Road” ของจีน

นายไบเดน - ซูงะ ถูกคาดว่าจะหารือเกี่ยวกับ “การร่วมมือด้านความมั่นคง” ระหว่าง “สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น” และความเป็นไปได้กับประเทศอื่นๆในการร่วมมือกันระหว่างการประชุมรอบนี้ โดยทั้งหมดอาจมีการกล่าวถึงประเด็นต่างๆ เหล่านี้ด้วย
- การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ
- การระบาดของ Covid-19
- เสถียรภาพในหมู่เกาะไต้หวัน

หนึ่งในความเป็นไปได้ของผลลัพธ์การประชุม คือ “การมุ่งเน้นความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน” ในรุดับสูง อาทิ

- ความเร็วของอินเตอร์เน็ต 5F
- พลังงานสะอาด

การร่วมมือกันด้าน “โครงสร้างพื้นฐาน” ระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น อาจส่งผลกระทบต่อโครงการ Belt and Road ของจีนได้ โดยโครงการดังกล่าวของจีนเป็นการสนับสนุนด้าน “การก่อสร้าง” และ “โครงสร้างดิจิทัล” ที่เชื่อมต่อกับหลายร้อยประเทศทั่วโลก ตั้งแต่เอเชียจนถึงตะวันออกกลาง, แอฟริกา และยุโรป

ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้ หลายๆชาติทำการวิจารณ์การพิจารณาการลงนามของ “นายสี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน เกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศ ที่ดูจะมีจุดมุ่งหมายขยายอิทธิพลไปทั่วโลก

การปรับสมดุลของญี่ปุ่น

“ญี่ปุ่น” ถือเป็นชาติพันธมิตรที่สำคัญสำหรับประเทศสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆในแถบเอเชีย ที่ได้รับอิทธิพลจีนสืบเนื่องมาตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีที่แล้ว

ทีมบริหารไบเดนจึงมองว่า “ญี่ปุ่น” เป็นจุดเริ่มต้นแรกสำหรับแนวทางด้านการทูตในแถบเอเชียแปซิฟิก

นักวิเคราะห์จาก Wood of Control Risks ระบุว่า การปรับสมดุลของประเทศญี่ปุ่น ในขณะนี้จําเป็นต้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับเจตนารมณ์และขอบเขตของมาตรการของสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์จาก Eurasia Group มองว่า ญี่ปุ่นอาจยุติการสนับสนุนสหรัฐฯในระยะสั้นๆ เกี่ยวกับประเด็น “สิทธิมนุษยชน” และนโยบายต่างๆที่จะเป็นการ “แยกตัว” ออกจากเศรษฐกิจจีน

ที่มา: CNBC