MTS Help Center

·         ทองคำปรับขึ้นท่ามกลางดอลลาร์ที่ยังอ่อนค่าและเคลื่อนไหวใกล้ต่ำสุดเดิมรอบ 7 สัปดาห์ โดยปิดตลาด -0.02% บริเวณ 91.016 จุด

 

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวกรอบแคบมาทรงตัวบริเวณ 1.6%

 

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.5% ที่ 1,777.43 เหรียญ

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด +0.4% ที่ 1,778.40 เหรียญ

 

 

·         กองทุนทองคำ SPDR  เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่ม โดยปัจจุบันถือครองที่ระดับ 1,021.7  ตัน

 

·         นักวิเคราะห์จาก BMO มองว่า การปรับขึ้นของราคาทองคำมาจากการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และดอลลาร์อ่อนค่า

 

 

·         ภาพรวมทองคำมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,760 – 1,810 เหรียญ จนกว่าจะมีความชัดเจนของตลาด และอาจจำเป็นต้องรอการประชุมเฟดในเดือนนี้ว่าจะเห็นท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ รวมทั้งการประมูลพันธบัตรที่จะเกิดในวันนี้ แต่ภาพรวมเชื่อว่าจะมีอุปสงค์ในตลาดพันธบัตรอยู่

 

·         เฟดมีกำหนการประชุมเดือนเม.ย. ในวันที่ 27-28 นี้

 

 

·         นักวิเคราะห์จาก StoneX มองว่า ทองคำยังมีโอกาสไปได้ต่อ ท่ามกลางสภาพคล่องในตลาดที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่หากดอลลาร์ฟื้นตัวก็มีแนวโน้มจะกดดันทองคำต่อได้

 

·         นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters มองว่า หากทองคำไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 1,785 เหรียญไปได้ก็มีโอกาสอ่อนตัวกลับลงมาในกรอบ 1,744 – 1,758 เหรียญ

 

 

·         ซิลเวอร์ปิด -0.1% ที่ 25.78 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด -1.7% ที่ 2,763.19 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด -1.5% ที่ 1,188.01 เหรียญ

 

·         นักเศรษฐศาสตร์ RHB Bank แนะนักลงทุน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ

 

·         โพเวลล์ ย้ำ เฟดจะจำกัดแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับเป้าหมายเงินเฟ้อ

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มีการระบุในจดหมายถึงนายริค สก็อต สมาชิกวุฒสภาสหรัฐฯเมื่อวันที่ 8 เม.ย. โดยระบุว่า

เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น “เป็นการชั่วคราว” ในปีนี้ ท่ามกลางการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งทางด้านอุปทานที่หนุนให้ดัชนีราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่เฟดก็จะยังจำกัดแนวทางเกี่ยวกับเงินเฟ้อ  และไม่คิดว่าเงินเฟ้อจะปรับขึ้นแตะ 2% หรือเหนือ 2% นานเกินไป

 

·         แผนเยียวยาสำหรับกลุ่ม “ครอบครัว”ของ “ไบเดน” กำหนดค่าใช้จ่ายสูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญ รวมถึงการขยายเครดิตภาษีเด็ก

แหล่งข่าววงใน ยืนยันว่า แพ็คเกจฟื้นฟูเศรษฐกิจฉบับถัดไปของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านเหรียญ รวมทั้งขยายเวลาสำหรับเครดิตเงินคืนภาษีเด็กด้วย  

·         Dogecoin  ดิ่งหลังจากที่ Hashtag ในสื่อ Social ช่วยดันให้ราคาทำสูงสุดประวัติการณ์ หนุนมูลค่าซื้อขายสูงกว่า 5 หมื่นเหรียญ

โดยหลังจากที่ทำ All-Time High ในวันก่อนก็เกิดแรงเทขายกลับเข้ามา โดยราคาของ Dogecoin ร่วงกลับลงมา 15.4% ที่ระดับ 0.33 เหรียญ และมูลค่าการซื้อขายในตลาดก็ปรับตัวลดลงมาแตะ 4.5 หมื่นล้านเหรียญ

ทั้งนี้ ใน Twitter, Reddit และ TikTok  มีการใช้งานแฮชแท็ก #DogeDay and #DogeDay420 ตั้งแต่ช่วงวันหยุด 20 เม.ย. จึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนความนิยมในค่าเงินดังกล่าว

 

·         สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาล่าสุด

ยังมีรายงานพบยอดติดเชื้อรายวันมากสุดใน 59 ประเทศ

ยอดติดเชื้อทั่วโลกรวมสะสม 143.53 ล้านราย พบการติดเชื้อใหม่รายวันกลับมาสูงกว่า 820,000 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมทั่วโลกแตะ 3.05 ล้านราย

 

·         รายงานยอดติดเชื้อใหม่ในภูมิภาคพบว่า กว่า 59 ประเทศดังกล่าว มาจากแถบเอเชียและตะวันออกกลางเป็นส่วนใหญ่

 

·         Worldometers รายงาน สถานการณ์ระบาดในไทย ขยับอันดับยอดติดเชื้อสะสมมาที่ 107 ของโลก ขณะที่ยอดติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้นมากสุดขยับมาเป็นอันดับที่ 49 ของโลก

เมื่อวานนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1,443 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 45,185 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 108 ราย

 

BBC เผย ซีอีโอ 40 บริษัทใหญ่ห่วงไทยฉีดวัคซีนล่าช้า เผยเอกชนพร้อมจ่ายค่าวัคซีนให้พนักงานเองกว่า 1 ล้านคน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานระบุว่า บรรดาซีอีโอบริษัทใหญ่ มองไทยไทยฉีดวัคซีนโควิดล่าช้ามาก หวั่นกระทบแผนเปิดประเทศ

 

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผย พิษโควิดรอบสาม คาดทุบจีดีพีไทย'64 เหลือโต 1.8%

พิษโควิดรอบสาม สะเทือนเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือ 1.8% ฉุดเชื่อมั่นครัวเรือน เร่งรัฐกระจายวัคซีนด่วน ก่อนกระทบท่องเที่ยวฟื้นตัว

 

หอการค้าไทยตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2564 ต้องบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ 70% โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าของ กทม. ต้องได้รับการฉีดทั้งหมด 100% ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน

ส่วนการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วไปในกรุงเทพฯ ต้องให้ได้อย่างน้อย 50,000 โดสต่อวัน โดยภาคเอกชนจะเข้ามาเสริมการทำงานของภาครัฐเพื่อให้ได้เป้าหมายดังกล่าว พร้อมกันนั้น จะจัดทำรูปแบบมาตรฐาน หรือรูปแบบตัวอย่างของภาคเอกชนที่สนับสนุนการฉีดวัคซีน ให้กับจังหวัดอื่นๆ ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ และเชื่อมั่นว่า ภาคเอกชนสามารถใช้ความถนัด ความเชี่ยวชาญ และ ทรัพยากรของพวกเราเพื่อประเทศได้

 

·         รายงานการฉีดวัคซีนทั่วโลกพบ 171 ประเทศเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนแล้ว ไม่น้อยกว่า 917.476 ล้านโดส

เมืองยิบรอลตาร์ที่เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอังกฤษที่ได้รับการฉีดวัคซีน พบว่า ประชากรไม่น้อยกว่า 99% ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วคนละ 2 โดส

 

·         อาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 22 ล้านโดส

 

·         ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 19 เมษายน 2564

จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 1,161,849 โดส

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 618,583 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 535,925 โดส

-เข็มสอง 82,658 โดส

 

กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการฉีดวัคซีน เรียงตามสัดส่วนมากที่สุด ได้แก่

-บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข และ อสม. 41.8%

-ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 39.6%

-เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 9.5%

-ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 4,4%

-บุคคลที่มีโรคประจำตัว อย่างละ 4.7%

  

·         “ฮ่องกง” รายงานยืนยันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้ครั้งแรก

- มีแนวโน้มว่าการระบาดดังกล่าวจะเกิดขึ้นจากโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัว

- พิสูจน์พบการระบาดจากมาจากพนักงานที่จับ “ลูกบิดประตู” เพื่อส่งอาหารให้แขกที่กักกันตัว

- สาธารณสุขท้องถิ่นในฮ่องกง ยืนยัน พบ ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้จำนวน 8 ราย และ ใน 2 ราย เดินทางมาจาก จีนแผ่นดินใหญ่

 

·         สายพันธุ์ใหม่ที่พบในอินเดีย เป็นการกลายพันธุ์คู่ “Double Mutation” กำลังสร้างความกังวลทั่วโลก

สายพันธุ์ใหม่ที่พบในอินเดียนั้น ถูกเรียกว่า B.1.617 กำลังเร่งให้ยอดเสียชีวิตรายวันในประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดระลอกใหม่นี้  -Itmujหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของ WHO ระบุว่า การกลายพันธุ์คู่ ดูจะพบได้มากขึ้นในสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก และเป็นสิ่งที่ “น่าเป็นกังวล” อย่างยิ่ง โดยมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน คือ

- สามารถเพิ่มจำนวนการระบาดได้ ควบคู่กับ “ลดภูมิต้านทาน” ของร่างกาย

- มีความเป็นไปได้ที่จะลดความสามารถของวัคซีน

 

 ·         Reuters เผย ประชาชนกว่า 33 ล้านคนในอังกฤษได้รับการฉีดวัคซีนแล้วคนละ 1 โดส

 

·         เมืองหลวงอินเดียขาดแคนออกซิเจนทางการแพทย์ จากเหตุระบาดหนักต่อเนื่อง

 

·         ล่าสุดอินเดียมียอดติดเชื้อรายวันเพิ่มเข้าใกล้ 300,000 ราย รวมติดเชื้อสะสมแตะ 15.60 ล้านราย และมียอดเสียชีวิตสะสมรวม 182,570 ราย

 

·         อิสราเอล ระบุว่า สายพันธุ์ใหม่ที่พบในอินเดีย จะมีวัคซีนบางตัวที่มีประสิทธิภาพพอต้านมันได้ และเชื่อว่าวัคซีนจากบริษัท Pfizer จะเป็นหนึ่งในตัวที่มีประสิทธิภาพพอจะช่วยต้านไวรัสนี้

 

·         นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมนี ชี้ วัคซีนบริษัท J&J มีผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับลิ่มเลือดหลังใช้งาน

·         องค์กร EMA ของยุโรป เผยถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดจากการได้รับวัคซีนของบริษัท J&J แต่เล็งเห็นถึงประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง

ดังนั้น จึงควรระบุ “คำเตือน” บนข้อมูลของผลิตภัณฑ์ยา เกี่ยวกับความผิดปกติจากภาวะลิ่มเลือด หรือภาวะเกล็ดเลือดต่ำบนวัคซีน Covid-19 Janssen

 

·         วัคซีบริษัทยา Johnson&Johnson (J&J) สามารถกลับมาใช้งานได้ในยุโรป ควบคู่กับการติดฉลากคำเตือนด้านความปลอดภัย

 

·         รายงานเผยทั่วโลกใช้วัคซีนจากบริษัท Sinovac แล้วไม่น้อยกว่า 260 ล้านโดส

 

·         บีโอเจกล่าวเตือนถึงความเสี่ยงของภาคธนาคารในญี่ปุ่นจากปัญหาการผิดนัดชำระหนี้กองทุนของ Archegos

 

·         เจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์สหรัฐฯ-อิหร่าน คืบหน้ามากขึ้น แม้อิหร่านจะคุกคามด้วยการเสริมประสิทธิภาพนิวเคลียร์

ทั้งนี้ การประชุมของสองประเทศเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้นแม้จะเป็นการเจรจาทางอ้อมเพื่อหวังฟื้นคืนข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015 ที่จะช่วยยกเลิกการคว่ำบาตรเศรษฐกิจอิหร่าน แลกกับการระงับโครงการนิวเคลียร์

อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน เผยถึงการเจรจามีความคืบหน้าบางส่วน แต่ไม่ได้หมายรวมถึงการบรรลุผลในขั้นสุดท้าย

 

·         รองโฆษกประจำหน่วยงานด้านปฏิบัติการนอกประเทศของยุโรป ระบุว่า การดำเนินการด้านสิทธิแม้จะเห็นความคืบหน้ามากขึ้นของการเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน แต่ก็จำเป็นต้องเร่งดำเนินการให้มากยิ่งขึ้น

 

·         อียูเผยแผนแก้ไขปัญหาภูมิภาค “อินโด-แปซิฟิก” เพื่อรักษาผลประโยชน์ และความมั่นคง และเพื่อต้านการขยายอิทธิพลของจีน พร้อมกล่าวย้ำกว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการ “แอนตี้จีน”

 

·         สาธารณรัฐเช็กเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรทำการขับไล่เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของรัสเซียเพื่อแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

·         นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.15-31.40 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบเนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบประกอบกับไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญจากสหรัฐฯ

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าว Thestandard

- รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. รับทราบผลการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในปีงบประมาณ 2563 โดย รฟม. มีผลประกอบการกำไรสุทธิ 1,819.25 ล้านบาท มีรายได้ 14,876.97 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรวม 13,057.72 ล้านบาท สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 99.99% จากเป้าหมายที่ ครม. กำหนดไว้ที่ 95% นอกจากนี้ยังมีรายได้จากธุรกิจต่อเนื่องจากรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล 123.72 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.69 ล้านบาท และสายฉลองรัชธรรม 27.51 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 2.33 ล้านบาท ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 0.90%

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเคสท์

- คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นและเห็นชอบข้อเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 65 เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 64 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยสำนักงบประมาณจะดำเนินการจัดพิมพ์ร่าง พ.ร.บ.และเอกสารประกอบงบประมาณเพื่อนำเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค.64 และนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 27-28 พ.ค.64 ต่อไป

- คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายกลุ่มเป้าหมายและกรอบวงเงินของโครงการเราชนะตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เสนอ จากเดิมที่มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 31.1 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เพิ่มเป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวน 33.5 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 213,243 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,042 ล้านบาท อีกทั้งขยายเวลาใช้สิทธิวงเงินจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.64 ออกไปเป็นใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิ.ย.64

- กระทรวงคลังเตรียมออกแพ็คเกจมาตรการช่วยเหลืออีกรอบภายในเดือนพ.ค.นี้เพื่อที่จะเริ่มใช้ในเดือนมิ.ย. พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะเริ่มนำร่องที่ จ.ภูเก็ต ตามที่กำหนดไว้

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองเศรษฐกิจไทยปี 64 มีแนวโน้มเติบโตลดลงที่ 1.8% จากคาดการณ์เดิมที่ 2.6% เนื่องจากได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ที่มีความรุนแรงกว่าระลอกก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะไม่มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดแต่ความกังวลต่อสถานการณ์ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คน รวมถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงมีผลต่อการบริโภคครัวเรือนให้มีทิศทางต่ำกว่าที่ประเมิน