· ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากที่ดัชนีหลักส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี Dow Jones futures -28จุด
ดัชนี S&P 500 futures และดัชนี Nasdaq 100 future ปรับตัวลดลง
สำหรับนี้เป็นสัปดาห์ของการประกาศผลประกอบการภาพบริษัท ได้แก่ บริษัท AT&T, D.R. Horton, Southwest, American Airlines, Union Pacific และ Biogen ซึ่งจะประกาศก่อนเปิดตลาด ขณะที่บริษัท Intel, Snap, Mattel, Boston Beer และ Seagate Technology จะรายงานหลังจากที่ตลาดปิดทำการ
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ด้านดัชนี S&P/ASX 200 เพิ่มขึ้น 0.83% ปิดที่ระดับ 7,055.40 จุด
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 0.38%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับชิปและหุ้นวัฏจักร หลังจากที่ปรับลดลงไปในช่วงสองวันก่อน โดยความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา
ดัชนี Nikkei ปิด +2.38% ที่ระดับ 29,188.17 จุด
ดัชนี Topix +1.82% ที่ระดับ 1,922.50 จุด
ทั้งนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางการเตรียมมาตรการใหม่ ๆ เพื่อจัดการกับการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา ส่งผลให้ดัชนี Nikkei ลดลงประมาณ 4% และดัชนี Topix ลดลง 3.5% ในช่วงสองวันที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวผสมผสานกันในวันนี้ โดย
ดัชนี Shanghai composite ลดลง 0.23% ที่ระดับ 3,456.11
ดัชนี Shenzhen component เพิ่มขึ้น 0.412% ที่ระดับ 14,209.44 จุด
ดัชนี Hang Seng เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 0.5%
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ตามการรีบาวน์ของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 05% ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.5% ท่ามกลาตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
ขณะที่เดียวกัน Credit Suisse รายงานผลขาดทุนสุทธิ 252 ล้านฟรังก์สวิส (275 ล้านเหรียญ) เนื่องจากเป็นการสรุปผลกระทบของเรื่องอื้อฉาวของกองทุนป้องกันความเสี่ยง Archegos ด้านหุ้นของผู้ให้กู้ชาวสวิสลดลงมากกว่า 3.5% ในการซื้อขายช่วงแรก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 1.50 จุด แกว่งคล้ายภูมิภาคช่วงรอผลประชุม ECB-ตัวเลขศก.สหรัฐฯ
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,578.51 จุด ลดลง 1.50 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขายราว ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,587.95 จุด และระดับต่ำสุด 1,576.65 จุด
- DITTO เคาะขาย IPO 7.5 บาท จองซื้อ 23,26-27 เม.ย.คาดเข้าเทรด mai ต้น พ.ค.
บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) (DITTO) กำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น ที่ 7.50 บาท/หุ้น โดยจะเปิดจองซื้อในวันที่ 23, 26-27 เม.ย.นี้ และคาดเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้ โดยจะนำเงินที่ระดมทุนรวมทั้งสิ้น 600 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ขยายศูนย์การให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ , ลงทุนพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารเพื่อให้บริการบนระบบคลาวด์ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ
- "กลุ่มแบงก์" กำไรสุทธิไตรมาส 1/64 รวม 4.64 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาส 4/63 แต่ลดลงราว 0.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน "แบงก์กรุงเทพ-แอลเอช-ทหารไทย-ไทยพาณิชย์" กำไรพุ่งเกิน 100% เทียบกับไตรมาสก่อน หลังสำรองลดเหลือ4.9 หมื่นล้าน-รายได้ค่าฟีเพิ่ม โบรกชี้ผลงานดีเกินคาด หวั่นไตรมาส 2/64 งบดิ่งพิษโควิดระลอก 3
- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถึงผลการหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเรียบร้อย โดยเฉพาะเรื่องการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย นำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ผ่านการทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตามเป้าหมายเดิม เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564