นักลงทุนค่อนข้างมีท่าทีระมัดระวังก่อนการประชุมเฟด และตลาดรอคอยรายงานผลประกอบการที่อาจเป็นไปในเชิงบวกของทิศทางเศรษฐกิจโลกจากการระบาดของ Covid-19
ดัชนี HSI ของฮ่องกงปิด -0.15%
ดัชนี ShanghaiComposite ปิด -0.54%
ดัชนี Shenzhen ปิด -0.653%
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ปิด -0.32%
ดัชนี S&P/ASX200 ปิด -0.33%
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นปิด -0.01%
สถานการณ์ Covid-19 ในอินเดีย
ดัชนี Nifty 50 ของอินเดียดิ่งลง ในช่วงต้นก่อนจะปิด +0.44%
ดัชนี BSE Sensex ปิด +0.41% และกลุ่มนักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ระบาดในอินเดียอย่างใกล้ชิดเวลานี้
มุมมองนักลงทุน
กลุ่มนักลงทุนอาจมีการเทขายทำกำไรในตลาดหุ้นต่างๆ แต่ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นเอเชียโดยภาพรวมยังเป็นบวก จากอัตราการฉีดวัคซีน Covid-19 ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในหลายๆประเทศ
ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างมั่นคงในเดือนนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า "โครงการฉีดวัคซีน" จะช่วยให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นได้ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ
ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดในอินเดีย จากยอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเกินกำลังของระบบสาธารณสุขในประเทศ
นักลงทุนหลายๆคนยังรอ "การประชุมเฟด" ที่จะเสร็จสิ้นวาระการประชุมในคืนวันพรุ่งนี้ โดยตลาดคาดเฟดน่าจะยังคงแนวทางการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจต่อไปเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
· หุ้นญี่ปุ่นปิดดิ่ง รับรายงานผลประกอบบริษัทโตน้อยกว่าคาด
ดัชนีนิกเกอิปิด -0.46% ที่ 28,991.89 จุด
ดัชนี Topix ปิด -0.76% ที่ 1,903.55 จุด
ภาพรวมหุ้นญี่ปุ่นถูกกดดันจาก
- รายงานผลประกอบการบริษัทที่ออกมาน่าผิดหวัง ไม่เป็นไปตามนักลงทุนคาดการณ์
- การประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งที่ 3 ของประเทศเพื่อสกัดการระบาดของไวรัส
- นักลงทุนมองเงื่อนไขทางสาธารณสุขของประเทศญี่ปุ่นยังไม่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ตลาด "ไม่ได้ตอบรับ" กับการตัดสินใจของบีโอเจที่ค่อนข้างเป็นไปตามคาดในการ "คงนโยบายการเงิน"
· ดัชนีอนุพันธ์สหรัฐฯค่อนข้างทรงตัว หลัง S&P500 - Nasdaq ปิดทำสูงสุดประวัติการณ์
ดัชนี Dow Jones Futures ทรงตัว
ดัชนี S&P500 Futures ทรงตัว
ดัชนี Nasdaq 100 Futures ขยับขึ้นเพียง +0.1%
· ดัชนีอนุพันธ์ยุโรปเปิดอ่อนตัวในช่วงตลาดซื้อขายยุโรปเปิดทำการ
ดัชนี Euro Stoxx 50 Futures อ่อนตัวลง 0.05%
ดัชนี Dax Futures ปรับลง 0.08%
ดัชนี FTSE Futures ขยับลง 0.07%
· หุ้นยุโรปเปิดทรงตัว - นักลงทุนรอประชุมเฟด และรายงานผลประกอบการบริษัท
ดัชนี Stoxx 600 เปิดทรงตัว ท่ามกลางหุ้นกลุ่มน้ำมันและแก๊ส รวมทั้งกลุ่มการท่องเที่ยวปรับขึ้นได้ราว 0.8% และหุ้นกลุ่มบริการด้านการเงินปรับตัวลดลง 0.7%
สิ่งที่ตลาดหุ้นยุโรปให้ความสนใจ
1. การประชุมเฟด 27-28 เม.ย. นี้
2. นักลงทุนอาจตอบรับกับผลประกอบการจากธนาคาร HSBC ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เนื่องจากมองผลกำไรก่อนเก็บภาษีมีโอกาสสูงกว่าคาด แต่รายได้สุทธิมีโอกาสปรับตัวลดลง
3. นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการบริษัท ที่จะประกาศในวันนี้
- BP
- UBS
- ABB
- Schneider Electric
- Novartis
- Whitbread
· UBS เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2021 เพิ่มขึ้น 14% - CEO ธนาคารกลับผิดหวังหนักเพราะได้รับผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้ของ Archegos
รายได้สุทธิของ UBS ไตรมาสแรกของปีนี้ แตะ 1.8 พันล้านเหรียญ
ภาพรวมได้รับผลกระทบจากปัญหาของ Archegos ที่เป็น Hedge Funds รายใหญ่ สร้างความเสี่ยงอย่างหนักและส่งผลให้ผลกำไรของ UBS ลดลงแตะ 774 ล้านเหรียญ
· BP เผยผลประกอบการไตรมาสแรกดีเกินคาดจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับขึ้นแข็งแกร่ง - อุปสงค์น้ำมันที่กำลังฟื้นตัว
ข้อมูลล่าสุดสะท้อนถึงการเติบโตของผลกำไรสุทธิใน Q1/2021 ที่ปรับขึ้นแตะ 2.6 พันล้านเหรียญ จากผลกำไรสุทธิ 115 ล้านเหรียญใน Q4/2020 และ ไตรมาสแรกของปี 2020 ที่อยู่ที่ 791 ล้านเหรียญ
ขณะที่ภาพรวมหุ้นบริษัท BP ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันในปี 2021 ปรับขึ้นแล้วกว่า 16%
· เทรดเดอร์ตลาดพันธบัตรจับตาใกล้ชิดต่อการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 7 ปี มูลค่ากว่า 6.2 หมื่นล้านเหรียญ ในวันนี้
หลังจากที่อุปสงค์ตราสารหนี้อายุ 7 ปีดังกล่าวมีความต้องการประมูลน้อยลงอย่างมากตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ. จึงจุดประกายให้เกิดแรงเทขายทั่วโลก แม้ว่าจะเห็นการฟื้นตัวของอุปสงค์เริ่มกลับขึ้นมาในเดือนมี.ค.
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 5.71 จุด อัพไซต์จำกัดหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดตายเพิ่ม
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,565.24 จุด เพิ่มขึ้น 5.71 จุด (+0.37%) มูลค่าการซื้อขายราว 50,346 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,570.58 จุด และระดับต่ำสุด 1,558.75 จุด
- ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม มี.ค. อยู่ที่ 87.3 จาก 85.1 ในเดือนก.พ.
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมี.ค.64 อยู่ที่ระดับ 87.3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.1 ในเดือนก.พ.64 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกขนาดอุตสาหกรรมและทุกภูมิภาค โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อภาคการผลิตรวม
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนมีนาคม 2564 ส่งออกได้ 104,506 คัน เพิ่มขึ้น 16.38% จากเดือนมีนาคม 2563 และเพิ่มขึ้น 31.50% จากเดือนกุมภาพันธ์ 2564 สูงสุดในรอบ 24 เดือน จากเศรษฐกิจและยอดขายรถยนต์ของประเทศคู่ค้าในเดือนมีนาคมเติบโตจากมีนาคมปีที่แล้ว เช่น ออสเตรเลีย โต 22% นิวซีแลนด์ โต 86% เวียดนาม โต 58% อินโดนีเซีย โต 10% มาเลเซีย โต 200% ยุโรป โต 87% เพราะปีที่แล้วยอดขายรถยนต์ในยุโรปต่ำที่สุดในรอบ 30 กว่าปี ทำให้ประเทศไทยส่งออกรถยนต์ไปในตลาดออสเตรเลียและโอเชียเนียเพิ่มขึ้นจากมีนาคมปีที่แล้ว 48.16% ตลาดเอเชียเพิ่มขึ้น 46.40% และตลาดยุโรป เพิ่มขึ้น 53.93% นอกจากนี้ การส่งออกเครื่องยนต์สันดาปภายใน ชิ้นส่วนรถยนต์ก็เพิ่มขึ้นตามการเปิดสายการผลิตของประเทศคู่ค้า
- CHO ออกหุ้นกู้ 400 ลบ.อายุ 1 ปี 3 เดือน ดอกเบี้ย 7% ขายรายใหญ่-สถาบัน
บมจ.ช.ทวี (CHO) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/2564 มูลค่า 400 ล้านบาท อายุ 1 ปี 3 เดือน 15 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 22 ส.ค.65 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 7.0 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระยะเวลาจองซื้อ วันที่ 4-6 พ.ค.64 ผ่าน บล.คิงส์ฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
- ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัท เจแปน เครดิต เรทติง เอเยนซี จำกัด (เจซีอาร์) ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับเอลบ และยืนยันมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ โดยให้เหตุผลว่าแม้การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกและการท่องเที่ยว
- "คลัง" เตรียมคลอดมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจ ยันมีงบสำรองรับมือวิกฤตโควิด-19 กว่า 3 แสนล้านบาทเน้นลดภาระประชาชน กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ "สุพัฒนพงษ์" แย้มมาตรการรอบใหม่ประกาศ พ.ค. เริ่มใช้ มิ.ย.นี้ ยันไม่กู้เพิ่ม พร้อมออกมาตรการจูงใจคนมีเงินฝากใช้จ่าย ช่วยดันจีดีพี ส่วนการเปิดรับนักท่องเที่ยวเริ่ม ก.ค. เหมือนเดิม