MTS Help Center

 

ดัชนี DOW Futures ปรับขึ้น +98 จุด

ดัชนี S&P500 Futures ปรับขึ้น +0.25%

ดัชนี Nasdaq 100 Futurees ปรับขึ้น +0.23%

 

ดัชนี Euro Stoxx 50 futures +0.42%

ดัชนี DAX futures +0.32%

ดัชนี FTSE futures +0.37%

 

ตลาดหุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น ทำระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 1 ปี ได้แรงหนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นของเหมืองแร่

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลง 0.74%

 

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น +0.3%

ดัชนี MSCI ทั่วโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากกระแสคาดการณือัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ระดับต่ำ

 

ท่ามกลางตลาดที่ให้ความสนใจไปยังข้อมูลราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจเกี่ยวกับคาดการณ์เงินเฟ้อ

 

·         ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจึงช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่เหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการประกาศข้อมูลรายงานผลประกอบการภาคบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และบริษัทอื่นๆ ที่อาจจะสัญญาณความคืบหน้าของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

 

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด +0.55% ที่ระดับ 29,518.34 จุด

ดัชนี Topix +0.99% ที่ระดับ 1,952.27 จุด

 

·         ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสาน เนื่องจากเหล่านักลงทุนถูกกดดันจากแระแสคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน

 

·         สหรัฐฯ-จีนอาจบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้สำหรับกรณีความร่วมมือกันจัดการกับวิกฤตในพม่าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,589.21 จุด เพิ่มขึ้น 4.18 จุด (+0.26%) มูลค่าการซื้อขายราว 65,037 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,596.80 จุด และระดับต่ำสุด 1,576.79 จุด

 

- กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.95-31.30 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 31.20 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 31.07-31.28 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ตามคาด

 

- คลังยัน อัดฉีดเงินเพิ่ม 2 พันบาท เข้า "เราชนะ-ม 33 เรารักกัน" ช่วยประชาชนบรรเทาภาระค่าครองชีพหลังอ่วมโควิด-19 ได้เร็วกว่าการเยียวยาแบบเฉพาะเจาะจง แถมช่วยกระตุ้นใช้จ่าย อานิสงส์ดีถึงผู้ประกอบการรายย่อย-ร้านอาหาร แจง ก.ค.64 ยังมี "คนละครึ่ง" หมัดเด็ดฉีดเงินเข้าระบบครึ่งปีหลัง

 

- ผู้อำนวยการใหญ่ บวท.บริษัท วิทยุการบิน แห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) (ปฏิบัติการ) คาดการณ์ว่า ปริมาณเที่ยวบินปี 2564 ว่า หลังเกิดการระบาดของโควิดระลอก 3 ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินประจำปีงบประมาณ 2564(ระหว่าง ต.ค. 2563-ก.ย. 2564) ไว้ที่ 323,093 เที่ยวบิน จากเดิมที่ คาดการณ์ไว้ 518,790 เที่ยวบิน ลดลง 38% โดยการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณเที่ยวบิน โดยในช่วงครึ่งแรกของเดือนเมษายน 2564 มี ปริมาณเที่ยวบินคงที่ แต่ในช่วงครึ่งเดือนหลัง ตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์พบว่าปริมาณ เที่ยวบินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ