MTS Help Center

เมื่อวานนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่มีความผันผวนมากที่สุดของปีในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เริ่มต้นวันไม่ค่อยสดใสนักจากความกังวลเรื่อง “เงินเฟ้อ” ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ “มูลค่าที่สูงในตลาด” จึงทำให้เกิดแรงเทขายเข้ามาก่อนจะรีบาวน์ปิดทรงตัว โดยได้รับอานิสงส์จากหุ้นบริษัท Amazon และ Netflix ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ยังคงเคลื่อนไหวแดนลบ

ดัชนี Nasdaq ปิด -0.1% ที่ 13,389.43 จุด หลังระหว่างวันร่วงลงมากถึง -2.2%

ดัชนี Dow Jones ปิด -473.66 จุด หรือ -1.4% ที่ระดับ 34,269.16 จุด เป็นระดับปิดรายวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา
ท่ามกลางหุ้นบริษัท Travelers และ Home Depot ที่ดิ่งหนักกดดันดัชนี Dow Jones

ดัชนี S&P 500 ปิด -0.9% ที่ 4,152.10 จุด โดยหุ้น 10 กลุ่ม จาก 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 เคลื่อนไหวแดนลบ

ปัจจัยลบกดดันตลาด: ช่วงต้นตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวนจากราคาหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่อยู่ในระดับสูงปรับตัวลงแรงนำตลาด จากนั้นเกิดแรงเทขายต่อมาแทบจะทุกกลุ่ม ตั้งแต่กุล่มภาคธนาคาร, พลังงาน และอุตสาหกรรม

หลังจากนั้น หุ้นบริษัทเทคโนโลยีก็มีการฟื้นตัวกลับมาในแดนบวกและปิดขึ้นได้อีกครั้ง นำโดย
- Amazon ปิด +1%
- Netflix ปิด +1%
- Facebook ปิด +0.2%

ดัชนีมาตรวัดความกลัวของตลาด (Cboe Volatility Index) หรือ VIX ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 23.73 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานในรอบ 2 เดือน

ทั้งนี้ ดัชนี VIX ในปีที่แล้วค่อนข้างยืนเหนือระดับ 20 จุด ก่อนจะปรับตัวลดลงมาทำต่ำสุดรอบ 16 เดือนในเอนเม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งการปรับขึ้นของ VIX บ่อยครั้งมักสะท้อนถึงภาวะการปรับตัวลดลงของตลาด

นอกจากนี้ เทรดเดอร์บางราย ยังระบุว่า ตลาดเผชิญกับแรง Short Covering ในตลาดและซื้อกลับในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรอบใหม่