ตลาดหุ้นเอเชียเผชิญแรงเทขายทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯหนุนให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่คาด และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและนักลงทุนบางรายที่ลดความเสี่ยงต่อหุ้นนั้น เป็นปัจจัยของการชะลอตัวลงเมื่อเร็ว ๆ นี้
หุ้นออสเตรลีย -0.9%
ดัชนี Nikkei -1.5%
ดัชนี Kospi เกาหลีใต้ -1.4%
ดัชนี blue-chip ของจีน เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว
ขณะที่หุ้นไต้หวันร่วงลง 6% จากระดับสูงสุดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เดือนก.พ. จากความกังวลที่ว่าไต้หวันอาจเพิ่มระดับการแจ้งเตือนไวรัสโคโรนา ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะนำไปสู่การปิดร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าที่ไม่จำเป็นเนื่องจากยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ดัชนี Eurostoxx 50 -0.2%
ดชันี Dax เอยรมันนี -0.2%
ดัชนี FTSE -0.2%
ดัชนี S&P 500 E-mini future -0.4%
ดัชนี Nasdaq -0.6%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
· บริษัท Toyota Motor คาดว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานจะเติบโต 14% เป็น 2.50 ล้านล้านเยน (2.3 หมื่นล้านเหรียญ) ในปีนี้เนื่องจากยอดขายลดลงจากไวรัสโคโรนาและปัญหาการขาดแคลนชิปที่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น
· หุ้นของ Nissan Motor Co ร่วงลงมากถึง 12.2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
· SoftBank Group Corp รายงานผลกำไรไตรมาส 4 ที่ระดับ 4.027 ล้านล้านเยน (3.699 หมื่นล้านเหรียญ) ของกองทุน Vision Fund หลังจากได้รับผลกำไรจากการลงทุน Coupang จึงตอกย้ำการฟื้นตัวหนึ่งปี หลังจากที่ขาดทุนเป็นประวัติการณ์
· หุ้น Xiaomi พุ่งขึ้นมากถึง 6.71% หลังจากมีรายงานการถูกถอดออกจากบัญชีดำของสหรัฐฯ
· ข้อมูลอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่า ยอดขายรถยนต์ของจีนประจำเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 8.6% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อเป็นเดือนที่ 13 เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์หลังจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
· หุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นอย่างระมัดระวัง - นักลงทุนจับตาไปยังผลประกอบการและเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากตลาดทั่วโลกตลาดทั่วโลกเตรียมพร้อมสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.3% ด้านหุ้นกลุ่มทรัพยากรเพิ่มขึ้น 0.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มยานยนต์ลดลง 0.8%
ทางยุโรปจะมีการประกาศรายงานผลประกอบการบริษัท เช่น EDF, Allianz, Bayer, Commerzbank, TUI Group และ RWE
ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอาจจะส่งผลให้เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่คาดและใช้มาตรการที่คุมเข้ม
นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อควรเป็นแบบชั่วคราว
· Commerzbank รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกดีกว่าคาดแตะ 133 ล้านยูโร (161.2 ล้านเหรียญ) แต่ก็ยังขาดทุนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบการยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับเอสเอ็มอีซึ่งมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการในรอบบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นภาษี 2เท่าของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าซื้อหรือค่าจ้างทำ หรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 1 แสนบาท ในรอบบัญชีตั้งแต่ 1 ม.ค.64-31 ธ.ค.65
- ครม.เดินหน้าโครงการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก 45,000 ล้านบาท แก้ปัญหาขัดแย้งการเมือง เปลี่ยนหลักเกณฑ์จากเดิมจังหวัดทำโครงการเสนอรัฐมนตรี เป็นเสนอต่อรองนายกฯ แทน โยกงบหมวดพื้นฟูฯ มาหมวดเยียวยา 85,000 ล้านบาทรองรับเพิ่มเงิน "เราชนะม.33 เรารักกัน" สั่งยุติเสนอโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเพิ่ม โดยล่าสุดอนุมัติโครงการใหม่กว่า 4,200 ล้านบาท-ตัดงบโครงการกำลังใจ
- ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการปรับลดกรอบวงเงิน 4 โครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงแรงงาน,กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เสนอโครงการขอใช้เงินภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะของประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เสนอ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ คิดเป็นวงเงินลดลงมากถึง 13,622 ล้านบาท
- สสว.ตั้งโต๊ะหารือเอสเอ็มอีกลุ่มส่งออก หลังโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ซ้ำเติม แบกต้นทุนสูงและขาดสภาพคล่อง ขอหารือกระทรวงการคลังเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ด่วน พร้อมกำหนดแนวทางให้ความรู้ผู้ประกอบการ-ติดตามเอกสารได้
ที่มาจาก CNBC, Reuters