ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลดลงจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมาเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในตลาด โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 681.50 จุด หรือ -2% ที่ระดับ 33,587.66 จุด ปิดวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่ ม.ค. ขณะที่ช่วงต้นตลาดดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 713 จุด
ดัชนี S&P500 ปิด -2.1% ที่ 4,063.04 จุด ปิดรายวันมากสุดตั้งแต่ก.พ.ที่ผ่านมา
ดัชนี Nasdaq ปิด -2.7% ที่ 13,031.68 จุด กดดันภาพรวมสัปดาห์นี้ปรับลงแล้วกว่า 5%
ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯขยายตัวมากสุดตั้งแต่ปี 2008 โดยดัชนี CPI เดือนเม.ย. ปรับขึ้นแตะ 4.2% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่รายเดือนขยายตัวได้ 0.8% สูงกว่าคาด และเดือนก่อนหน้า
นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ระบุว่า นักลงทุนอาจมองหาเหตุผลในการในการเพิ่มการถือครองในสถานะ Long มากขึ้น จากการที่ดัชนีปรับขึ้นไปแล้วกว่า 10% ในปีนี้ และหนึ่งปัจจัยที่ดีสำหรับเวลานี้ ก็คือ "การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ"
นักลงทุนมีความกังวลกับการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ที่อาจส่งผลให้เกิดแรงกดดันในส่วนของ Margins และผลประกอบการของบริษัทต่างๆ แต่หากเงินเฟ้อปรับขึ้นได้อย่าง "ร้อนแรง" เกินไป ก็มีโอกาส "บังคับ" ให้เฟดต้องใช้นโยบายคุมเข้มได้
ดัชนี VIX ที่เป็นมาตรวัดความกลัวตลาดพุ่งขึ้นเหนือ 28 จุด และยังอยู่ในระดับเหนือ 20 จุด