• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม2564

    13 พฤษภาคม 2564 | Gold News


กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,025.15 ตัน

 

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตร-ดอลลาร์ กดดันทอง” หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่ง

ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงราว 1% ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายในตลาด โดยภาพรวมได้รับแรงกดดันจาก

ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯออกมาดีเกินคาดหมาย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ทำสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ระดับ 1.686% (สูงสุดตั้งแต่ 13 เม.ย.)

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังทำต่ำสุดรอบ 2 เดือน ปิดตลาดที่ระดับ 90.77 จุด

 

·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,025.15 ตัน

 

 

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.8% ที่ระดับ 1,822.91 เหรียญ หลังระหว่างวันร่วงลงกว่า 1%

 

สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด -0.7% ที่ 1,822.8 เหรียญ

นักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดอาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า นักลงทุนที่เทรดในทองคำและซิลเวอร์ดูจะมีความกังวลเล็กน้อย กับเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นแรงไม่มากนัก เนื่องจากเฟดเคยระบุถึงการมีหลากหลายเครื่องมือที่จะทำให้ลดลง แต่สิ่งที่นักลงทุนกังวลคือ เฟดจะเลือกใช้เครื่องมือใด”  ดังนั้นสัปดาห์นี้ คุณจึงเห็นตลาดทองคำและซิลเวอร์มีท่าทีที่ ระมัดระวัง” มากขึ้นในการซื้อขาย

 

การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเป็น ปัจจัยลบ” ต่อราคาทองคำ และทำให้ราคาทองคำปีนี้ -4% แล้ว

 

นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า ยังไม่ใช่เวลา” ในการถอนการสนับสนุนนโยบายสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ว่าเฟดอาจไม่ลังเลใจในการใช้เครื่องมือใดๆ หากพบความเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตจากการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ

 

นักวิเคราะห์จาก OANDA มองว่า เฟดยังคงมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และดูเหมือนประเด็นนี้จะยังเป็นแรงสนับสนุนสำหรับราคาทองคำอยู่  และจะเห็นได้ว่าตลาดทองคำเริ่มมีการเปลี่ยนผ่านอย่างช้าๆ ในการเข้าถือครองทองคำในฐานะ สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ

 

 

·         อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯประจำเดือนเม.ย.เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 12 ปีโดยดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 4.2% จากปีที่แล้ว ขณะที่ดาวโจนส์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6%

 

ด้านดัชนี CPI ที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปี 2020 และ 0.9% เมื่อเทียบกับรายเดือน ตัวเลขที่สูงขึ้นอาจเพิ่มแรงกดดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม ซึ่งเป็นความกังวลที่ส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้

 

·         ไบเดนยังคงเจรจากับ 4 ผู้นำสภาคองเกรสครั้งแรก เพื่อหารือเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มขึ้นวานนี้

รายงานจาก New York Times ระบุว่า ดูจะมีความคืบหน้าปานกลางเท่านั้นในการแก้ไขสิ่งที่ไม่ลงรอยกัน เกี่ยวกับข้อเสนอของนายไบเดนที่มีค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานและครอบครัวสูงถึง 4 ล้านล้านเหรียญ 

ทั้งนี้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ร่วมกับ นางกามาลา แฮริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการพบกับผู้นำเสียงข้างมากและข้างน้อยของทั้งสภาล่างและสภาสูง โดยกำลังเจรจากันอยู่ในเวลานี้

 

 

·         CNBC ล่าสุด เผย "ไบเดน" และ "ผู้นำ" ไม่สามารถตกลงเรื่ิอง "โครงสร้างพื้นฐานกันได้" ในการประชุมวันนี้ท่ามกลางการหารือที่ใช้เวลาไปแล้วเกือบ ชั่วโมง

 

·         Bitcoin ดิ่งกว่า 5% ในทันทีรับ อีลอน มัสก์” ระบุว่า Tesla จะไม่รับ Bitcoin ชำระการซื้อรถยนต์จากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีเพราะถูกกดดันอย่างหนักจากนักลงทุนและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม


·         เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ "สหรัฐฯ-รัสเซีย" จะหารือกันทางการทูตในสัปดาห์หน้าที่ไอซ์แลนด์ 20 พ.ค.นี้ นำโดยนายแอนโธนี บลินคินส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ

 


·         ไบเดนลงนามคำสั่งฉุกเฉินอย่างแข็งกร้าวต่อการป้องกันความมั่นคงทางด้านการโจมตีทางไซเบอร์ หลังบริษัทท่อส่งน้ำมันสหรัฐฯโดนโจมตี


 

·         Colonial Pipeline จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังถูกโจมตีทางไซเบอร์ แต่อุปทานอาจไม่กลับมาได้เทียบเท่ากับสภาวะปกติในช่วง 2-3 วันนี้

 

 

·         อิสราเอลโจมตีหนักในเขตฉนวนกาซา เพื่อสังหารกลุ่มแกนนำ "ฮามาส"

 

 

·         ยูเอ็น เตือน การต่อสู้กันระหวา่งอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น อาจนำไปสู่การเกิด "สงครามอย่างเต็มรูปแบบ" ได้

·         CDC สหรัฐฯ เห็นพ้องให้ใช้วัคซีน Covid-19 ในกลุ่มวันรุ่น (12-15 ปี) เริ่มฉีดได้วันนี้


·         CDC เผยพบว่ามีชาวสหรัฐฯ 28 รายประสบภาวะลิ่มเลือด และอีก รายเสียชีวิต อาจเกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนของบริษัท Johnson & Johnson


·         สถานการณ์ระบาดทั่วโลกพบยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาสะสมทะลุ 161.06 ล้านราย และข้อมูลเสียชีวิตสะสม 3.34 ล้านราย


·         สถานการณ์ระบาดในไทยพบการเสียชีวิตทำ New High 34 ราย ติดเชื้อเพิ่มอีก 1,983 ราย

รวมติดเชื้อสะสมในประเทศ 88,907 ราย

เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 486 ราย


อย่างไรก็ดี ช่วงเย็นมีรายงานว่า พบผู้ต้องขัง เรือนจำกรุงเทพฯ กว่า 2 พันราย ติดโควิด! ช่วงเดียวกับ แกนนำราษฎร

 

ขณะที่ แอมเนสตี้” เรียกร้องไทยเพิ่มมาตรการ หวังลดโควิด-19 ระบาดในเรือนจำ

 

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าว TNN ONLINE

ไทยเสียชีวิตทำ New High 34 ราย ติดเชื้อเพิ่มอีก 1,983 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือ ศบค. เปิดเผยสถานการณ์ประจำวัน ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1,983 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 1,974 ราย มาจากการตรวจในระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,328 ราย จากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 646 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย โดยเป็นผู้ที่อยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine)

 

จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 88,907 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 2,006 ราย รวมรักษาหาย 59,043 ราย กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 29,378 ราย โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 34 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 486 ราย

 

 

·         นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.05 - 31.50 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่ค่อยมีปัจจัยเด่นชัดที่จะส่งผลต่อทิศทางของเงินบาท

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึง กรณีมีนักวิชาการตั้งข้อสงสัยกรณีรัฐบาลนำวัคซีนซิโนแวกที่ยังไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) มาฉีดให้แก่คนไทย ส่งผลให้คนไทยรับวัคซีนน้อยนั้นว่า วัคซีนของซิโนแวกเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย และมีประสิทธิผลในการป้องกันไวรัส โดยมีการอนุมัติให้ใช้กว่า 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่ง อย. ได้ประเมินและขึ้นทะเบียน โดยผ่านเกณฑ์องค์การอนามัยโลกเรื่องประสิทธิผลในการป้องกันโรคมากกว่า 50%, สามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ 100%, ป้องกันการเกิดอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 77.9% (ผลการศึกษา Phase 3 จากประเทศบราซิล)

คณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนไวรัสโคโรนา มีมติเห็นชอบการปรับแผนการกระจายวัคซีนด้วยกลยุทธ์ "ฉีดปูพรม" (Mass Vaccination) ในพื้นที่ระบาด เนื่องจากสถานการณ์การระบาดในขณะนี้ ยังอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นหลัก

คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติมีมติเห็นชอบ เพิ่มจำนวนวัคซีนจากเป้าหมายเดิม 100 ล้านโดส เป็น 150 ล้านโดส และปรับแนวทางการฉีดวัคซีน โดยปูพรมฉีดเข็มแรกให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด เพื่อ ลดโอกาสการติดเชื้อและความรุนแรงของไวรัสซึ่งการฉีดวัคซีนจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

- CPALL เผยไตรมาส 1/64 มีกำไร 2,599 ล้านบาท ลดลง 53.95% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังรับผลกระทบโควิด-19 ฉุดรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อหดตัว 8.5% เดินหน้าเปิดสาขาใหม่ 700 แห่ง ภายในปี 64 พร้อมทุ่มงบลงทุนประมาณ 11,500 – 12,000 ล้านบาท


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com