• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2564

    14 พฤษภาคม 2564 | SET News

·         ตลาดหุ้นญี่ปุ่นรีบาวน์ หลังจากที่ตลาดปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อ โดยเหล่าสมาชิกเฟดหลายรายเน้นย้ำว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ จากการเปิดตัวทางเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น



·         ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ร่วงลง 2% เนื่องจากเหล่านักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการผ่อนคลายข้อจำกัด ขณะที่ตลาดหุ้นไต้หวันปรับตัวสูงขึ้นในตลาดเอเชีย หลังจากที่ นายกรัฐมนตรีไต้หวันมั่นใจว่าพร้อมที่จะต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

 

·         ตลาดหุ้นอินเดียเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว

ดัชนี NSE Nifty 50 -0.09% ที่ระดับ 14,683.2 จุด

ดัชนี S&P BSE Sensex +0.03% ที่ระดับ 48,702.98 จุด

ดัชนีทั้ง 2 ปรับตัวลงประมาณ 1%  หลังจากขาดทุนเมื่อต้นสัปดาห์จากความกังวลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ

 

·         ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางสมาชิกเฟดที่คลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

ดัชนี CSI300 +1.7% ที่ระดับ 5,079.30 จุด

ดัชนี Shanghai Composite +1.2% ที่ระดับ 3,471.17 จุด

ดัชนี CSI300 กลุ่มการเงินและกลุ่มสุขภาพ +2% และ +2.8% ตามลำดับ

ดัชนี Hang Seng +1.0% ที่ระดับ 27,981.51 จุด

ดัชนี China Enterprises +0.4% ที่ระดับ 10,382.09 จุด

 

·         นักลงทุนจับตาความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน

นางแคเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯจำเป็นต้องมีเครื่องมือทางด้านกฎหมายการค้าฉบับใหม่เพื่อต่อต้านการแข่งขันที่เป็นภัยคุกคามจากจีน ที่จะกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูงของสหรัฐฯ มากกว่าจะทำการตอบโต้ทันทีที่ได้รับผลกระทบ

 

·         ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา



ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.6% ด้านหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการพักผ่อนพุ่งขึ้น 1.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มทรัพยากรลดลง 0.9%

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ

- หุ้นไทยวันนี้ (14 พ.ค.) ปิดตลาดภาคเช้า -1.05 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,547 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 57,334 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ STGT PTT และ SAWAD

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (14 พ.ค.) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,547.08 จุด ปรับลง -1.05 จุด หรือคิดเป็น -0.07% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 57,334 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,532.29-1,558.86 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ STGT PTT และ SAWAD

ขณะที่ดัชนี SET50 ปรับลง -1.28 จุด คิดเป็น -0.14% อยู่ที่ 937.05 จุด โดยมูลค่าซื้อขายรวม อยู่ที่ 23,826 ล้านบาท คิดเป็นราว 41.56% ของมูลค่าซื้อ-ขายในตลาด SET

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

- ศบค.ผ่อนปรน นั่งร้านอาหาร ได้แล้วไม่ เกิน 25% ในพื้นที่ ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

โฆษก ศบค. แถลง ที่ประชุม ศบค. มีมาตรการผ่อนปรน พื้นที่ ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด นั่งร้านอาหาร ได้แล้วไม่ เกิน 25% สุรา งดเหมือนเดิม ส่วนจังหวัดใดจะอยู่ในระดับสีใด ขอให้รอผลสรุปพรุ่งนี้อีกครั้ง

 

·         อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

 

เปิดผลสำรวจ คนไทยกับโควิด-19 ระลอก 3

 

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี คนไทยกับโควิด-19 ระลอก 3” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,082 คน สำรวจวันที่ 16-22 เม.ย. 2564

 

พบว่า ประชาชนมองว่าการระบาดระลอก 3 นี้มีการแพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว 74.29% ทำให้ตื่นตระหนกและวิตกกังวลมากกว่าครั้งที่ผ่านมา 68.40% มองว่าระลอก 3 นี้มีความรุนแรงมากที่สุด 70.51% จะป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อย ๆ 83.90% มองว่ารัฐบาลน่าจะรับมือได้ 39.19% โดยคาดว่าจะใช้เวลามากกว่า 3 เดือน จึงจะ ดีขึ้น 50.58% และอาจจะมีการระบาดระลอกสี่ 58.89%

 


ที่มา:​ ​Reuters, CNBC

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com