· ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.6% ปิดสัปดาห์แดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2
· สัญญาทองคำมิ.ย. ปิด +0.8% ที่ 1,838.1 เหรียญ
· SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 4.08 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 1,028.36 ตัน
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงมาแตะ 1.629% ด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาบาิเวณ 90.56 จุด นักวิเคราะห์คาดอาจทดสอบแนวรับ 89.98 จุด
· Standard Chartered ระบุว่า ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรแท้จริงสำหรับทองขึ้นในระยะสั้น และมีการปรับฐาน ท่ามกลางเฟดยังคงระดับดอกเบี้ยและเงินเฟ้อกำลังปรับตัวสูงขึ้น จึงมีแนวโน้มจะช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ ขณะที่ข้อมูลค้าปลีกที่ออกมาน่าผิดหวังมีโอกาสทำทองทดสอบ 1,850 เหรียญ
· ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ออกมาดีขึ้นเกินคาด โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภคและข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ทำต่ำสุดรอบ 14 เดือน ก่อให้เกิดความกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อและเรื่องการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี บรรดาสมาชิกเฟดยังคงคาดว่าการขึ้นของเงินเฟ้อจะเป็นเพียงชั่วคราว และพร้อมจะใช้ดอกเบี้ยระดับต่ำเท่าเดิม จนกว่าเงินเฟ้อและการจ้างงานจะตรงตามเป้า
· ยอดติดเชื้อไวรัสในอินเดียและการใช้มาตรการ Lockdown จึงกดดันความต้องการทองคำ
· พลาเดียมปิด +1.1% ที่ 2,894.21 เหรียญ
· แพลทินัมปิด +1.3% ที่ 1,221.53 เหรียญ
· ซิลเวอร์ปิด +0.7% ที่ 27.26 เหรียญ
· “บอริส จอห์นสัน” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์จากอินเดียสามารถระบาดได้มากขึ้นและอาจคุกคามการผ่อนคลาย Lockdown อ้งกฤษ
และอังกฤษจะเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ผู้สูงอายุกว่า 50 ปีขึ้นไป รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงท่ามกลางความกังวลเรื่องไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในอินเดีย
· อังกฤษจะตัดสินใจผ่อนคลาย Lockdown อีกครั้งในวันที่ 14 มิ.ย.
· ออสเตรเลียคงแผนกลับมาเปิดพรมแดนกลางปีหน้า 2022
· “ไบเดน” เรียกร้องคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดท่ามกลางการสูญเสียจากเหตุปะทะรุนแรงในเขตฉนวนกาซาระหว่างทหารปาเลสไตน์-อิสราเอล ที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 2014
· ข้อพิพาทบริเวณเขตฉนวนกาซาทวีความรุนแรง นายกฯอิสราเอลยังสั่งโจมตีทางอากาศต่อเนื่อง
· จับตาจีดีพีไทย Q1/64 หนุนเงินบาทขยับแข็งค่า 31.50 บาท/ดอลลาร์
นักบริหารการเงิน มองว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์นี้อยู่ระหว่าง 31.10-31.50 บาท/ดอลลาร์ แนะนำจับตาสภาพัฒน์ฯ ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1 คาดติดลบ 3-3.3% เกาะรายงานการประชุมเฟด-ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปกดดันดอลลาร์อ่อนค่า
· อ้างอิงสำนักข่าวช่อง 7
ธปท.หนุนฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นเศรษฐกิจ
ธปท.ได้จัดทำสมมุติฐานการฉีดวัคซีนต้านโควิดที่จะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยไว้ 3 กรณี
กรณีแรก หากไทยจัดหาและกระจายวัคซีนได้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ คาดว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในไตรมาสแรกปีหน้า และอาจจะทำให้ GDP ปี 2564 ขยายตัวได้ 2% และขยายตัวได้ 4.7% ในปี 2565 โดยจากปริมาณการฉีดวัคซีนของไทยขณะนี้กว่าวันละ 100,000 โดส รัฐบาลจึงต้องเพิ่มการกระจายวัคซีนเป็น 4 เท่า เพื่อให้บรรลุดเป้าหมาย 100 ล้านโดส
แต่หากปีนี้จัดหาและกระจายวัคซีนได้ 64.5 ล้านโดส จะส่งผลให้ GDP ปี 2564 ขยายตัวได้ 1.5% และขยายตัวได้ 2.8% ในปีหน้า
กรณีสุดท้ายคือ หากจัดหาและกระจายวัคซีนได้น้อยกว่า 64.5 ล้านโดส จะส่งผลให้ GDP ปี 2564 มีโอกาสขยายตัวได้เพียง 1% ส่วนในปี 2565 คาดว่า GDP จะขยายตัวได้ 1.1% ทั้งนี้ วัคซีนถือเป็นปัจจัยสำคัญในขณะนี้ หากดำเนินการได้เร็วก็จะมีผลดีในเรื่องการเปิดประเทศ ซึ่งในเดือนมิถุนายนนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยอีกครั้ง
· 'ไพศาล' เลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน เตือนระวังระเบิดทางเศรษฐกิจ ปลายปี ภาคธุรกิจไม่ได้รับเงินเยียวยาโควิด