ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวสูงขึ้นต่อจากวันก่อนหน้า ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกจากการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรป ที่ช่วยลดแรงกดดันเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงานในเอเชียท่ามกลางยอดติดเชื้อไวรัส Covid-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น และการกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มรอบใหม่
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นราว 19 เซนต์ หรือ +0.3% ที่ระดับ 66.46 เหรียญ/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 20 เซนต์ หรือ +0.3% บริเวณ 69.66 เหรียญ/บาร์เรล
ขณะที่น้ำมันดิบสองชนิดวานนี้ปิดตลาด +1%
กรรมการผู้จัดการด้านการวิจัยของ Nissan Securities ระบุว่า ภาพรวมตลาดน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และสถานการณ์ราคามีการยื้อยุดกันระหว่าง "ยอดติดเชื้อ Covid-19" ในเอเชีย กับมุมมองเชิงบวกจาก "การกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจ" ของยุโรปและสหรัฐฯ อันได้รับอานิงส์จากการฉีดวัคซีน
นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านที่อาจนำไปสู่การกลับมาเพิ่มการส่งออกน้ำมันให้แก่อิหร่าน ก็ยัง "จำกัด" การปรับขึ้นของราคาน้ำมันเวลานี้
เศรษฐกิจอังกฤษกลับมาเปิดทำการตามปกติหลัง Lockdown นานกว่า 4 เดือน ควบคู่กับการฉีดวัคซีนที่รวดเร็วขึ้นในฝรั่งเศสและสเปน ช่วยคลายมาตรการเข้มงวดในประเทศลงได้ ขณะที่โปรตุเกสและเนเธอร์แลนด์กลับมาเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้ง
ด้านสหรัฐฯ ล่าสุด รัฐนิวยอร์กเผยว่า "ไม่นานเกินไป" สำหรับการใช้หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีน Covid-19 ครบ 2 โดสแล้ว ขณะที่ภูมิภาคอื่นๆของสหรัฐฯเริ่มมีการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี เอเชียยังคงแตกต่างออไป นำโดยสิงคโปร์ที่พบยอดติดเชื้อในประเทศมากที่สุดในรอบหลายเดือน รวมไปถึงไต้หวันที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สองประเทศยังคงมีการใช้มาตรการ Lockdown อย่างเข้มงวด