นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิทัลยังถูกกดดันจากรัฐบาลจีนประกาศห้ามไม่ให้สถาบันการเงินและบริษัทด้านการชำระเงินให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัล
โดย Bitcoin ร่วงลงมากถึง 5.3% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.และล่าสุดอยู่ที่ 40,973 เหรียญ โดยสูญเสียมากกว่า 1/3 ของมูลค่าจากจุดสูงสุด 64,895 เหรียญ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
ด้าน Ether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ2 อยู่บริเวณ 3,199 เหรียญ ซึ่งลดลงกว่า 25% จากสถิติสูงสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ดัช CSI300 (.CSI300) -0.6%
ดัชนี Nikkei -1.1%
ดัชนี S&P 500 (.SPX) -0.85%
ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) -0.56%
คืนนี้จะมีการเผยรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับวันนี้ตลาดฮ่องกงและเกาหลีใต้ปิดทำการเนื่องในวันหยุด
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ลดลง 0.3%
· หุ้นอินเดียปรับตัวลดลงจากหุ้นกลุ่มภาคธนาคารรายใหญ่ในประเทศเคลื่อนไหวแดนลบ
หุ้นอินเดียปรับตัวลดลงในวันนี้ หลังฟื้นตัวได้ 2 วันทำการก่อนหน้า โดยได้รับแรงกดดันจาก
- หุ้นกลุ่มการเงินในประเทศทรุดตัว เช่นเดียวกับเอเชีย
- ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ กดดันความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน
- การระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศ
· ดัชนี NSE Nifty 50 ปิด -0.15% ที่ระดับ 15,084.05 จุด ซึ่งภาพรวมดัชนีกลุ่มนี้อยู่ในกลุ่ม Bluechip และมีการปรับขึ้นได้ประมาณ 3% ในแต่ละวันของช่วง 2 วันก่อนหน้า จากหหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี S&P BSE Sensex ปิด +0.18% ที่ระดับ 50,114.42 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก
โดยดัชนี Stoxx600 ร่วงลง 1% ด้านหุ้นกลุ่มทรัพยากรร่วงลง 2.1% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่นใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
ขณะที่หุ้นของกลุ่มการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของอังกฤษ John Laing พุ่งขึ้นมากกว่า 11% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ หลังจาก KKR บริษัทหุ้นเอกชนประกาศว่าตกลงซื้อบริษัทในราคา 2 พันล้านปอนด์ (2.84 พันล้านเหรียญ)
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,563.20 จุด ลดลง 3.60 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขายราว 46,861 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,570.05 จุด และระดับต่ำสุด 1,557.83 จุด
- ครม.ดอดเคาะออก พ.ร.ก.กู้เงินอีก 7 แสนล้านบาท ใช้ฟื้นฟูและเยียวยาเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19 ระลอกใหม่พร้อมไฟเขียวเว้นภาษีอากรและผ่อนปรนหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการที่เข้าโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบธุรกิจ
- รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในปี 64-65 รัฐบาลยังคงมีวงเงินเพียงพอสำหรับการทำมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันการดำเนินการของแผนงานและโครงการภายใต้ พ.ร.ก. เงินกู้โควิด-19 วงเงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น มีการอนุมัติวงเงินไปแล้วรวมทั้งสิ้น833,475 ล้านบาท โดยยังมีวงเงินคงเหลืออีกมากถึง 166,525 ล้านบาท รวมทั้งยังมีแหล่งเงินอื่น ที่สามารถนำมารองรับมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลได้
- นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 2564 เติบโตที่ 1.8% จากเดิม 2.4% สะท้อนจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น การฟื้นของภาคการท่องเที่ยวยังไม่ชัดเจนและการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับจีดีพีปี 2565 ปรับประมาณการขึ้นเป็น 3.1% จากเดิม 3.0% จากฐานที่ต่ำลง
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ให้ความเห็นต่อเศรษฐกิจไทยว่า เศรษฐกิจไตรมาสแรกของปี 2564 หดตัวต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 5 ที่ -2.6% เมื่อเทียบกับ ปีก่อนหน้านี้ (YoY) คาดทั้งปีขยายตัว 2.0% เศรษฐกิจ หรือ GDP ในไตรมาสแรก ของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ -4.2% ในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน และหดตัว น้อยกว่าที่วิจัยกรุงศรีและผลสำรวจ Bloomberg คาดไว้ที่ -3.3% และ –
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
- กกร. หั่นจีดีพีปี 64 เหลือโต 0.5-2% จากเดิม 1.5-3% เซ่นพิษโควิด
กกร. หั่นเป้าจีดีพีปี 64 เหลือโต 0.5-2% จากเดิม 1.5-3% เซ่นพิษโควิด หวังพ.ร.ก.เงินกู้ ฉบับใหม่ 7 แสนล้านบ. ผ่านสภาฯโดยเร็ว หวังฟื้นฟูศก. พร้อมหนุนรัฐออก"ชอปดีมีคืน"- เพิ่มวงเงินใช้จ่าย"คนละครึ่ง"จาก 3,000 บ. เป็น 6,000 บ.