สรุปรายงานประชุมเฟดเมื่อวันที่ 27-28 เม.ย.
- เฟดมีมติคงดอกเบี้ยระดับต่ำ 0-0.25%
- เฟดคงการเข้าซื้อสินทรัพย์ 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน
- สมาชิกเฟดส่วนใหญ่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงนโยบายจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ
- เฟดมองการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งอาจนำไปสู่ “การหารือ” เกี่ยวกับการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินได้
- หากมีความคืบหน้าในการขยายตัวเรื่องจ้างงานและเงินเฟ้อตามเป้าหมายของเฟด อาจเป็นเรื่อง “เหมาะสม” ที่เฟดจะเริ่มต้นหารือเกี่ยวกับแผนการปรับการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือน
ทั้งนี้ ตลาดค่อนข้างจับตาว่าเมื่อไหร่ที่เฟดจะเริ่มต้นหารือเรื่องการลดการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนเมื่อไร ซึ่งปัจจุบันเฟดมีการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนไม่น้อยกว่า 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน ทำให้ยอดงบดุลบัญชีของเฟด (Balance Sheet) ณ ปัจจุบันอยู่แถวระดับ 7.9 ล้านล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากช่วงก่อนไวรัส Covid-19 ระบาด
ขณะที่รายงานประชุมเฟดครั้งนี้เผยให้เห็นว่า “เป็นครั้งแรก” ที่เฟดเริ่มมีสัญญาณหารือถึงการลดการเข้าซื้อพันธบัตรที่อาจเกิดขึ้นได้ แม้จะไม่มีการกำหนดระยะเวลาใดๆก็ตาม
นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวหลังจบการประชุมว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งเศรษฐกิจยังไม่มีสัญญาณ “ความมั่นคงและความก้าวหน้า”ตามมาตรฐานที่สมาชิกเฟดกำหนด ก่อนตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ
สมาชิกเฟดเริ่มหารือเรื่องการ “ลด” QE
Reuters ระบุว่า จากรายงานประชุมเม.ย. จะเห็นได้ว่า สมาชิกเฟดบางส่วนดูจะ “พร้อม” ที่จะพิจารณาเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินตามความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- สมาชิกเฟดจำนวนหนึ่ง บ่งชี้ถึง หากเศรษฐกิจฟื้นตัวรวดเร็วตามเป้าหมายที่เฟดกำหนด อาจเป็น “ช่วงเวลาที่เหมาะสม” ที่จะเริ่มหารือแผนการลดการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือน
ข้อมูลจ้างงานเดือนเม.ย. ออกมาแย่กว่าคาด แม้ว่าเงินเฟ้อจะปรับขึ้น แต่ตลาดก็ยังกังวลเรื่องจ้างงานที่ออกมา 266,000 รายเดือนเม.ย. จึงสะท้อนความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อย จึงทำให้เฟดพยายามที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้การจ้างงานกลับมาโตได้เต็มที่
- สมาชิก 2-3 ราย แสดงความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจอยู่ในระดับที่น่าเป็นกังวล ก่อนที่พวกเขาจะมีเวลาตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และการปรับนโยบายเพื่อรับมือ
- สมาชิกเฟดส่วนใหญ่ ระบุว่า รายงานปัญหาภาคธุรกิจกำลังดึงดูดแรงงาน แม้ว่าอัตราว่างงานจะยังอยู่ในระดับสูง
- สมาชิกเฟดอาจพิจารณาเรื่องการเกษียณอายุ, ความกังวลเรื่องไวรัส, ปัญหาสถานดูแลเด็ก และการรับสวัสดิการว่างงาน เพราะนี่อาจเป็นข้อเท็จจริงที่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน
นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ตลาดแรงงานยังอยู่ห่างไกลเป้าหมายของเฟด และไวรัสโคโรนายังคงคร่าชีวิตชาวอเมริกาอีกนับร้อย ดังนั้น “จึงเร็วเกินไปที่จะหารือเรื่องการลดการผ่อนคลายทางการเงิน”
อย่างไรก็ดี หลังวิกฤตเศรษฐกิจที่สามารถควบคุมได้อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น อาจทำให้เฟดพิจารณาจำกัดการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ซึ่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าน่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น