ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังจากที่ร่วงลงติตต่อกัน 2 วันทำการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกแบบผสม หลังจากการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยคาดว่าอุปสงค์ของสหรัฐฯจะยังคงเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ยังคงถูกกดดันการระบาดของไวรัสโคโรนาระลอกที่สองในอินเดีย
ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.2% ที่ระดับ 66.77 เหรียญ/บาร์เรล หลังร่วงลงไป 3%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ที่ระดับ 63.61 เหรียญ/บาร์เรล หลังร่วงลง 3.3% ในช่วงก่อนหน้านี้
นักวิจัยประจำ ANZ กล่าวว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯอยู่ในระดับที่ดีก่อนช่วง Driving season นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวในสนามบินของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 1.85 ล้านคน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับความต้องการน้ำมันเครื่องบิน
สต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ (USOILC = ECI) เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ของ Reuters ที่เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซิน (USOILG = ECI) ลดลง 2 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ว่าจะลดลง 886,000 บาร์เรล โดยผลิตภัณฑ์น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5% เป็น 9.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ความต้องการเชื้อเพลิงที่ลดลงของอินเดียมีแนวโน้มที่จะแย่ลงในเดือนพ.ค.นี้ เนื่องจากข้อ จำกัดในการเคลื่อนย้าย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา