· ราคาทองคำปรับตัวลดลง เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟดที่คลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แต่การปรับลดลงของราคาทองคำถูกจำกัด จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และอัตราพันบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวลง
· ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลง -0.3% ที่ระดับ 1,876.24 เหรียญ
· ขณะที่สัญญาส่งมอบทองคำปรับตัวลง -0.4% ที่ระดับ 1,876.30 เหรียญ
· หัวหน้านักวิเคราะห์อาวุโสฝ่ายการตลาดประจำ OANDA กล่าวว่า ความเชื่อมั่นกลับไปสู่ภาวะขาขึ้นในชั่วข้ามคืน หลังจากที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่ผ่อนคลายความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ซึ่งนำไปสู่การฟื้นตัวในตลาดหุ้น และส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงชั่วคราว
· โดยระดับแนวรับที่สำคัญของทองคำอยู่ที่ 1,845 เหรียญ เป็นเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วัน ซึ่งหากยังสามารถยืนอยู่เหนือบริเวณดังกล่าวได้นั้น ราคาทองคำก็ยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่
· นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่า 2% ทั้งในปีนี้และปีหน้า แต่เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย รวมถึงตัวเขาเองยังคงสนับสนุนแนวทางการใช้นโยบายของเฟด
· ตลาดหุ้นเอเชียประับตัวสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากเหล่านักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นดอกเบี้ย
· ขณะที่ Bitcoin พุ่งขึ้นมากกว่า 10% หลังจากเผชิญแรงเทขายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
· กองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำ 0.3% โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,046.12 ตัน
· ราคาพลาเดียม +0.5% ที่ระดับ 2,741.19 เหรียญ หลังจากร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อวานนี้
· ราคาซิลเวอร์ -0.7% ที่ระดับ 27.60 เหรียญ
· ราคาแพลตินัม เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวที่บริเวณ 1,174 เหรียญ
· ผู้เชี่ยวชาญจาก NYU เผย Ether ดูจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าและจะกลายมาอยู่ในฐานะ "สินค้าโภคภัณฑ์" แทน Bitcoin
· ”เอสเธอร์ จอร์จ” ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ ไม่ได้เพิกเฉยต่อความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ
และยังมีท่าทีระมัดระวังต้อการปรับใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินเพื่อให้เป็นไปอย่างเหมาะสมหลังการระบาดของไวรัส และอาจเกี่ยวข้องกันกับความแตกต่างของเงินเฟ้อและการจ้างงาน เหมือนที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่แล้ว ในการเข้าสู่การปรับกรอบนโยบายการเงิน
กรอบดำเนินงานใหม่ล่าสุดของเฟดมีการย้ำถึงเรื่องการจ้างงานและความเชื่อมั่นต่อเงินเฟ้อหลังอยู่ระดับต่ำเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเฟดจะยังเดินหน้าเข้าซื้อ QE ต่อไปในวงเงิน 1.2 แสนล้านเหรียญ จนกว่าจ้างงานจะเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ และพร้อมจะคงดอกเบี้ยระดับต่ำใกล้ศูนย์ แม้เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น
· สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของอังกฤษ กล่าวว่า บริษัทได้เริ่มต้นการตรวจสอบบริษัท AstraZeneca ที่เข้าไปควบรวมกิจการบริษัท Alexion ของสหรัฐฯ มูลค่า 3.9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งอาจลดการแข่งขันในตลาดอังกฤษหรือที่อื่น ๆ
· รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษเตรียมพร้อมที่รับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเห็นการว่างงานเพิ่มขึ้น หลังจากที่รัฐบาลได้เข้าช่วยเหลือด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจลดการว่างงานในช่วงการระบาดของ Covid-19
· เศรษฐกิจเยอรมันไตรมาสแรกหดตัวลงมากกว่าคาดที่ระดับ -1.8% เนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาไวรัสส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน
· ผู้นำระดับโลกแสดงความไม่พอใจต่อ "การจี้" เครื่องบินสายการบิน Ryanair ของเบลารุสและการควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านรัสเซีย ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า มอสโกได้รับประโยชน์การความขัดแย้งในครั้งนี้
ทั้งนี้ ทางรัสเซียกล่าวถึงความโกลาหลในสหรัฐฯและยุโรปว่า “น่าตกใจ” และกล่าวหาว่าตะวันตกมีสองมาตรฐาน
· หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Pinpoint Asset Management ระบุว่า ภาคการผลิตอาจกลับสู่ประเทศจีน จากการระบาดของ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้นในอินเดียและเวียดนาม
หลังจากที่ช่วงก่อนภาคการผลิตในจีนได้รับอุปสรรคจากห่วงโซ่อุปทานเนื่องจาก Trade War ระหว่างสหรัฐฯ-จีน จึงทำให้มีการย้ายฐานการผลิตและการบริการของจีนไปยังอินเดียและเวียดนาม เนื่องจากให้ผลประโยชน์มากกว่า
แต่สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้กำลัง "เปลี่ยนแปลงไป" โดยที่ห่วงโซ่อุปทานกลับมาขับเคลื่อนในจีนเพิ่ม จากยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาในอินเดียและเวียดนามที่สูงขึ้น
· นักเศรษฐศาสตร์ประจำ Nomura Research เตือน ญี่ปุ่นจะสูญเสียเม็ดเงิน 1.8 ล้านล้านเยน (1.6 หมื่นล้านเหรียญ) หากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกถูกยกเลิก แต่ความเสียหายดังกล่าวยังเทียบไม่ได้กับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะได้รับจากการใช้มาตรการฉุกเฉิน หากการจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าวก่อให้เกิดการระบาดในรูปแบบ Super-Spreader
· Barclays ปรับลดคาดการณ์การงบประมาณประจำปี 2021-2022 จากทิศทางเศรษฐกิจอินเดียลง 0.8% สู่ระดับ 9.2% เพราะได้รับผลกระทบจาก "มาตรการ Lockdown" เพื่อจำกัดการปรับขึ้นของการระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ยังเป็นปัญหาใหญ่เกินคาด
ความเสียหายจากการระบาดรอบ 2 ของ COvid-19 ทำให้ภาพรวมประเทศกว่า 2 ใน 3 ต้องกีการเข้าควบคุมส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และทำให้บรรดาธนาคารรายใหญ่ และหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือทำการปรับลดคาดการณ์ของพวกเขา
· บลูมเบิร์ก เผย แหล่งข่าววงให้ให้ข้อมูลว่า อินเดียกำลังเตรียมแผนแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ Covid-19 สำหรับภาคส่วนที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดรอบนี้
· เศรษฐกิจของสิงคโปร์ขยายตัวมากกว่าที่คิดไว้ในไตรมาสแรกและรัฐบาลยังคงคาดการณ์การเติบโตในปีนี้ แต่ควรระวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวเนื่องจากความไม่แน่นอนจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (MTI) เผย จีดีพีสิงคโปร์ไตรมาสแรกเติบโต 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโต 0.2% ในการประมาณการล่วงหน้าของรัฐบาล
· รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไต้หวัน กล่าวว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาจำนวนหลายล้านโดสกำลังเดินทางไปยังไต้หวัน ท่ามกลางการขยายข้อจำกัดทางสังคมเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสไปจนถึงกลางเดือนมิ.ย. แม้ว่าแนวโน้มการติดเชื้อรายใหม่จะลดลงก็ตาม
ทั้งนี้่ ปริมาณวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดสจะมาถึงภายในสิ้นเดือนมิ.ย. และ 10 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้
· ผลสำรวจความคิดเห็นของประเทศไทยแสดงให้เห็นว่า คนไทยเกิดความลังเลใจในการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่ประเทศยังคงต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น