· ราคาทองคำในวันนี้ปรับตัวลงต่อ โดยได้รับแรงกดดันจาก ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% มาที่ 90.283 จุด
· ขณะที่ทองคำยังมีปัจจัยบวกจาก
-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับลงต่ำกว่า 1.6% ทรงตัวใกล้ต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์
-ตลาดมองเฟดยังคงแนวทางการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
· ราคาทองคำตลาดโลกขยับลง 0.4% มาที่ 1,883.1 เหรียญ
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปรับลง 0.3% บริเวณ 1,886 เหรียญ
· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ในตลาดเอเชียมีการทำ Long Covering บางส่วนในทองคำ ประกอบกับตลาดลดการถือครองสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง และการแข็งค่าของดอลลาร์ ควบคู่กับ Bitcoin ฟื้นตัว
· ดังนั้น แม้ทองคำจะเคลื่อนไหวแบบ "ปรับฐาน" และมีปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร แต่ก็ยังถูกกดดันอยู่บ้าง
· กลุ่มนักลงทุนให้ความสำคัญกับปัจจัยสำคัญช่วงปลายสัปดาห์นี้
-ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ
-ประชุมอีซีบี
· นักลงทุนบางส่วน มองว่า "ทองคำ" อาจมีแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หากมีการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
· รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผย ว่า เดโมแครตเริ่มเตรียมการ "ผลักดัน" แผนโครงสร้างพื้นฐาน ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ สำหรับการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โดย "ปราศจากการรับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน"
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters กล่าวว่า ทองคำอาจอ่อนตัวกลับลงมาในกรอบ 1,864 - 1,877 เหรียญได้
· ซิลเวอร์อ่อนตัวลง 1% ที่ 27.51 เหรียญ
· พลาเดียมทรงตัว 2,846.37 เหรียญ
· OECD ระบุว่า ข้อตกลงภาษี G7 อาจไม่ยุติธรรมสำหรับ "สหรัฐฯ" เนื่องจากแผนปฏิรูปภาษีจะส่งผลให้มีบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จำนวนมากในสหรัฐฯต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆทั่วโลก แม้ว่าจะไม่ใช่ตอนนี้ก็ตาม
· เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเพิ่มแรงกดดันในกลุ่มบริษัท และคู่แข่งจากต่างประเทศเกี่ยวกับกรณี Cyberattacks
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยถึงการที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังมีการพิจารณาทางเลือกทั้งหมด ประกอบด้วย
- การตอบโต้ทางการทหาร
- การต่อต้านภัยคุกคามที่กำลังขยายตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ ทีมบริหารของนายไบเดนจะมองหาทางเลือกทั้งหมดเพื่อเป็นการป้องกันประเทศและอาชญากรรมไซเบอร์
· Halifax ระบุว่า ราคาบ้านในอังกฤษพ.ค. ปรับขึ้นอีก 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการขยายตัวรายปีที่มากที่สุดรอบเกือบ 7 ปี
· อุปสรรคด้านอุปทานเป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมในเยอรมนีเดือนเม.ย. อ่อนตัวลงแตะ -0.2% เป็นครั้งแรกที่ปรับลงของปีนี้ หลังปรับขึ้นมาต่อเนื่อง 3 เดือนติด
ด้านอุปสงค์ในประเทศลดลง -4.3% ขณะที่อุปสงค์ต่างประเทศปรับขึ้น 2.7%
· ยอดนำเข้าจีนขยายตัวได้อย่างรวดเร็วในรอบ 10 ปี จากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางอุปสรรคจาก Covid-19 ที่เพิ่มขึ้นบริเวณท่าเรือหลักต่างๆในแถบตอนใต้ของจีน
ยอดส่งออกจีนเดือนพ.ค. ขยายตัวได้แย่กว่าคาด โดยออกมาแตะ 27.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ชะลอตัวลงจากระดับ 32.3% ในเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่ยอดนำเข้าปรับขึ้นมาแตะ 51.1% เมื่อเทียบกับปีรายปีในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2011 แต่ออกมาน้อยกว่าที่ Reuters Polls คาดว่าจะแตะ 51.5%
· CNBC ระบุว่า จีนมีการเข้าซื้อสินค้าในสหรัฐฯเพียงเล็กน้อย ขณะที่ "ยอดเกินดุลการค้า" ขยายตัว
ล่าสุดจีนมีการเข้าซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 1.311 หมื่นล้านเหรียญในเดือนพ.ค. จากระดับ 1.394 หมื่นล้านเหรียญ โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนพ.ค. ถือเป็นข้อมูลรายเดือนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.
· จีนออกนโยบายใหม่ ที่อาจรวมการปรับลดการเกิดของชาวอุยกูร์นับล้านคนในมณฑลซินเจียง ซึ่งจะเป็นการควบคุมการเกิดระหว่างกรอบ 2.6 - 4.5 ล้านคน ภายในช่วง 20 ปี
· จีนสั่งระงับหลายบัญชีที่เกี่ยวกับ Cryptocurrency ทาง Social Media ท่ามกลางการปราบปรามล่าสุด
· S&P Global Ratings ปรับเพิ่มแนวโน้มเศรษฐกิจออสเตรเลียสู่ระดับ AAA มีเสถียรภาพมากขึ้นจากแดนลบ หลังประเทศกลับมาฟื้นตัวได้จากการระบาดของ Covid-19
· Delta Covid Variant หรือ การระบาดของสายพันธุ์ใหม่ที่พบในอินเดียเป็นแห่งแรก กำลังระบาดหนักในหลายๆเมืองใหญ่ของจีน ส่งผลให้เกิดการ Lockdown และการตรวจหาเชื้อเพื่อพยายามควบคุมการระบาดเวลานี้
ที่มาจาก CNBC, Reuters