ดอลลาร์อ่อนหนุนทองขึ้น – ตลาดจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ และเฟด
· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับอานิสงส์หลักจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าอีกครั้งวานนี้หลุด 90 จุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี อยู่ต่ำกว่า 1.6% ท่ามกลางนักลงทุนในตลาดที่รอคอยข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯช่วงปลายสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับ “เฟด” ว่าจะทำการเริ่ม “ลดการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ” หรือไม่
· ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.3% ที่ 1,895.77 เหรียญ
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด +0.4% ที่ระดับ 1,898.80 เหรียญ
· ทองคำคืนวันศุกร์ปรับขึ้นได้กว่า 1% จากการที่ข้อมูลจ้างงานเดือนพ.ค.ของรัฐบาลสหรัฐฯออกมาแย่กว่าคาด ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับโอกาสเฟดจะคุมเข้มทางการเงินในอนาคตอันใกล้
· SPDR GOLD HOLDINGS:
กองทุนทองคำ SPDR กลับมเป็นผู้ขายอีกครั้ง โดยวานนี้ขายออก 5.83 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 1,037.33 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 วันทำการ
ภาพรวมกองทุน SPDR เดือนมิ.ย. มีสถานะขายออก รวมกว่า 5.88 ตัน
ภาพรวมตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน กองทุน SPDR ขายออกแล้วทั้งสิ้น 127.58 ตัน
· นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า ทองคำค่อนข้างเป็นทิศทางขาขึ้น แต่ถ้อยแถลงของนางเยลเลน กำลังเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันราคา
· รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า แผนค่าใช้จ่ายของนายไบเดนมูลค่ารวมกว่า 4 ล้านล้านเหรียญ อาจเป็นผลดีต่อสหรัฐฯ แม้ว่าจะเห็นเงินเฟ้อปรับขึ้น และเป็นผลให้เห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยตามมา
· นักวิเคราะห์จาก RJO มองว่า สิ่งที่ทุกคนกำลัง “รอคอย” คือ “แผนของเฟด” ว่าจะมีการผ่อนคลายดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปหรือไม่ และเฟดก็ยังไม่มีสัญญาณอะไรเพิ่มเติมก่อนการประชุมสัปดาห์หน้า ซึ่งบางทีเราอาจได้เห็นราคาปรับขึ้นไปเหนือ 1,900 เหรียญ โดยทองคำจะล้มเหลวในการ Break เหนือ 1,900 เหรียญหรือไม่ ทั้งหมด “ขึ้นอยู่กับท่าทีของเฟด”
· ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอคอยในวันพฤหัสบดีนี้ ได้แก่ ตัวเลข CPI
ขณะเดียวกันก็จะมีการประชุมของอีซีบีและแคนาดาด้วย
· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวว่า ระยะยาว - ระยะกลาง จะเห็นได้ถึงความผันผวนในตลาดหุ้น ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าในการถือครองทองคำในฐานะ Safe-Haven ได้ ประกอบกับความต้องการสินทรัพย์เพื่อป้องกันเงินเฟ้อ
· ซิลเวอร์ปิด +0.4% ที่ระดับ 27.88 เหรียญ
· พลาเดียม ปิด -0.3% ที่ 2,837.22 เหรียญ
· แพลทินัมปิด +0.7% ที่ระดับ 1,170.00 เหรียญ
· Heraeus Precious Metals ระบุว่า ตลาดพลาเดียมในระยะยาวยังถูกคาดว่าจะเห็นภาวะขาดดุลในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ราคายังคงปรับขึ้นทำสูงสุดประวัติการณ์
· “ไบเดน” กลับสู่โต๊ะเจรจากับ “นางแคปิโต” ส.ว.รีพับลิกันเกี่ยวกับแผนโครงสร้างพื้นฐานในสัปดาห์นี้ เพื่อหาข้อตกลงร่วมกับระหว่าง 2 พรรค สำหรับร่างแผนโครงสร้างพื้นฐาน
· CNN รายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เดโมแครตเริ่มเตรียมการ "ผลักดัน" แผนโครงสร้างพื้นฐาน ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ สำหรับการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โดย "ปราศจากการรับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกัน"
· CNBC ชี้ เฟดอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเตรียมพร้อมสำหรับตลาดต่างๆในการลดการเข้าซื้อ QE ที่ปัจจุบันสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยวงเงินเดือนละ 1.2 แสนล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี การตัดสินใจจะลด QE ของเฟดจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาหรือกรอบเวลาของเฟด แต่ความเสี่ยงในเวลานี้คือ เฟดกำลังพยายาม “เลี่ยง” การสร้างความปั่นป่วนแก่ตลาด ท่ามกลางการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินที่ยาวนานเกินไป รวมทั้งการอนุญาตให้เงินเฟ้อปรับขึ้น และมองเงินเฟ้อเป็นการปรับขึ้นชั่วคราวมากกว่าเป็นปัญหา
· Reuters เผย บรรดาบริษัทรายใหญ่ สนับสนุนการกำหนดภาษีบริษัทข้ามชาติทั่วโลก แต่ก็ต้องการให้มีการลดภาษีด้านการบริการดิจิทัลด้วย
· ผู้อำนวยการกระทรวงอวกาศของรัสเซียข่มขู่จะก้าวออกจากโครงการสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station) ยกเว้นสหรัฐฯจะทำการยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซีย
· รัฐสภาอิสราเอลจะทำการลงมติอนุมัติการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในวันที่ 14 มิ.ย. นี้
· ทำเนียบขาว เผย “ไบเดน-เออโดเกน” จะหารือถึงความเห็นที่แตกต่างกันสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ผู้นำทั้ง 2 ประเทศจะหารือกันในเรื่องของ
- ซีเรีย
- อัฟกานิสถาน
- ภูมิภาคอื่นๆ
· “คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือเดินหน้าหารือกับเจ้าหน้าที่อาวุโสเรื่องทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ
· CORONAVIRUS UPDATES:
ยอดติดเชื้อ Covid-19 สะสมทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 174.36 ล้านราย
เสียชีวิตสะสมทั่วโลกรวม 3.75 ล้านราย
· วานนี้ ศบค. แถลงไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2,419 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 151,023 ราย ขณะที่เสียชีวิตเพิ่ม 33 ราย รวมสะสม 1,269 ราย
· อินเดียอนุญาตให้ผู้สูงอายุฉีดวัควีน Covid-19 ฟรีเพิ่มหลังฉีดครบโดสแล้ว หลังอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น
· เจ้าหน้าที่จาก WHO ระบุว่า ไม่สามารถบังคับให้จีนสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นกำเนิด Covid-19
· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10 - 31.25 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวัน เงินบาทแทบจะไม่เคลื่อนไหวมาก ตลาดให้ความสนใจไปยังเงินเฟ้อสหรัฐฯ และประชุมอีซีบี แต่ปัจจัยในประเทศก็ทำให้ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนดีขึ้น ทั้งเรื่องการปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งน่าจะทำให้เงินบาทมีแนวโน้มไปในทิศทางแข็งค่าได้
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- กระทรวงสาธารณสุข ย้ำความมั่นใจให้ประชาชน รพ.ในสังกัดกระทรวงจะไม่มีการเลื่อนฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนตามที่ได้ลงทะเบียนนัดหมายไว้แล้ว ยืนยันมีวัคซีนให้กับประชาชนทุกคนที่ประสงค์จะเข้ารับการฉีด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผย ภูเก็ตพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามแผน Phuket Sandbox วันที่ 1 ก.ค.นี้ ตั้งเป้าในรอบแรกจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตกว่า 1.29 แสนคน ประมาณการรายได้การท่องเที่ยวเฉพาะภูเก็ตในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ไว้ที่ราว 15,000 ล้านบาท
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) มั่นใจการส่งออกไทยปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตกว่าเป้าหมายที่ 4% แต่ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในระยะถัดไป คือ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 จากการเกิดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และการเร่งกระจายวัคซีน เพื่อนำไปสู่การคลายล็อกดาวน์ที่เร็วขึ้น
· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
- หอการค้าหวังรัฐฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผนอย่างน้อย 100 ล้านโดสภายในปีนี้เพื่อเปิดประเทศให้ทันต้นปีหน้า ขณะที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอก รพ. ทั้ง 25 จุด เตรียมพร้อมให้บริการประชาชนทุกแห่ง สามารถรองรับประชาชนได้กว่า 80,000 คน/วัน
· อ้างอิงจากสำนักข่าว ฐานเศรษฐกิจ
- ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกรับแรงซื้อหนุนจากคาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นหลังเดินหน้าฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 อย่างทั่วถึง รวมถึงราคาน้ํามันดิบโลกท่ีทรงตัวระดับสูงสต็อกน้ํามันดิบลดลง และคาดการณ์ความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น แต่ช่วงท้ายตลาดมีแรงขายทำกำไรกดดันอีกทั้งกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงผันผวน และตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่ยังทรงตัวระดับสูง และเสียชีวิตต่อเนื่อง
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
- รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ผลจากดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยเดือน มิ.ย. 64 สะท้อนการคาดการณ์ของตลาดที่คงมุมมองเช่นเดียวกับครั้งที่แล้วว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันที่ 23 มิ.ย.64 นี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจถึงแม้จะเริ่มมีการฉีดวัคซีน แต่สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ยังอยู่ในระดับสูง และเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่