ดัชนี Hang Seng +0.4%
ดัชนี CSI300 Index เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น +0.11%
ดัชนี Nikkei -0.11% ที่ระดับ 28,987.58 จุด
ดัชนี Topix +0.06% ที่ระดับ 1,962.07 จุด
เนื่องจากการปรับลดลงในตลาดหุ้นหลักส่วนใหญ่ จึงกดดันจากเพิ่มขึ้นของหุ้นผู้ผลิตยา หลังจากที่บริษัทยาอัลไซเมอร์ของ Eisai Co ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของดัชนี Nikkei ในช่วงต้นถูกกดดันจากการที่เหล่านักลงทุนระมัดระวังการลงทุน ก่อนหน้าการประกาศข้อมูล CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ และการประชุมเฟด ในสัปดาห์หน้า
· ตลาดหุ้นอินเดียลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มพลังงาน เนื่องจากเหล่านักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าที่สูงและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนการประชุมธนาคารกลาง
ดัชนี NSE Nifty 50 -0.20% ที่ระดับ 15,716.40 จุด
ดัชนี S&P BSE Sensex -0.18% ที่ระดับ 52,243.87 จุด
ทั้งนี้ ภาพรวมรายปีดัชนี Nifty 50 เพิ่มึข้นประมาณ 13% ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาระลอก 2 ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศ และนักเศรษฐศาสตร์ปรับลดประมาณการการเติบโต โดยนักลงทุนมุ่งเน้นไปที่การฟื้นตัวหลังเกิดการระบาดดังกล่าว
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านีกลงทุนให้ความสนใจไปยังข้อมูลการเติบโตภาคญโรโซนและข้อมูลการจ้างงานในไตรมาสแรก รวมทั้งยังคงให้ความสนใจไปยังความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 +0.6% ท่ามกลางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก จากหุ้นกลุ่มน้ำมัน ก๊าซ เคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรม ทรัพยากรพื้นฐาน และยานยนต์
· รายงานผลประกอบการแกร่งหนุนดันหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้น - หุ้นบริษัท Aviva พุ่ง 3%
ดัชนี FTSE100 ปรับขึ้น 0.2% ขานรับหุ้นบริษัทต่างๆที่ปรับขึ้นตามรายงานผลประกอบการ
Intermediate Capital Group (ICP.L) ปรับขึ้น 6.9% ทำสูงสุดประวัติการณ์ หลังจากที่การจัดการสินทรัพย์ทางเลือกปรับขึ้น 19% เมื่อเทียบรายปี ภายใต้การจัดการของบริษัทดังกล่าว
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 1.45 จุด รับแรงกดดันจาก Global plays หลังกังวลความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,611.14 จุด ลดลง 1.45 จุด (-0.09%) มูลค่าการซื้อขายราว 54,504 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,618.70 จุด และระดับต่ำสุด 1,605.31 จุด
- สภาฯ เตรียมพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนลบ.พรุ่งนี้ ให้เวลาฝ่ายละ 9 ชม.
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงการพิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5 แสนล้านบาทในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) ว่า ได้กำหนดเวลาในการอภิปรายไว้ฝ่ายละ 9 ชั่วโมง หากพิจารณาไม่เสร็จก็สามารถพิจารณาต่อได้แล้วลงมติในวันถัดไปแต่ไม่ควรยืดเยื้อ เพราะยังมีวาระอื่นที่สำคัญต้องพิจารณาด้วย
ขณะที่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในชั้นกรรมาธิการฯ ก็ต้องติดตามดูว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไร
· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
- ภาพรวมใช้'วัคซีนโควิด-19'แล้ว 69.3% จากยอดที่จัดสรร
เตรียมส่งซิโนแวคลงพื้นที่อีก 7.5 แสนโดส ส่วนแอสตร้าฯเพิ่มอีกที 14 มิ.ย. ขณะที่ไทยฉีดแล้ว 4.6 ล้านโดส อัตราการใช้วัคซีนจากที่จัดสรร 69.3%
เมื่อเวลา 12.30 น. ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า ไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 2,662 ราย พบจากระบบเฝ้าระวังในรพ.1,495 ราย ค้นหาเชิงรุก 617 ราย เรือนจำ 534 รายและเดินทางจากต่างประเทศ 16 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 28 ราย ติดเชื้อสะสมระลอกเม.ย.153,685 ราย เสียชีวิตสะสม 1,203 ราย อัตราเสียชีวิต 0.78% ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 182,545 ราย เสียชีวิตสะสมทั้งหมด 1,297 ราย อัตราเสียชีวิต 0.71% หายป่วยเพิ่ม 2,483 ราย ยังรักษา 49,252 ราย อาการหนัก 1,281 รายในจำนวนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจ 359 ราย
ที่มาจาก CNBC, Reuters