• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 9 มิถุนายน 2564

    9 มิถุนายน 2564 | Gold News

ทองขึ้น -  U.S. 10 yields ปรับลง ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯและประชุมอีซีบี

 

·         ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ทำระดับต่ำสุดมากกว่า 2 เดือน  ท่ามกลางนักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนหน้าการประกาศข้อมูล CPI สหรัฐฯ รวมทั้งการประชุมอีซีบีในสัปดาห์นี้

 

·         ราคาทองคำตลาดโลก +0.1% ที่ระดับ 1,893.78 เหรียญ

·         สัญญาทองคำ +0.1% ที่ระดับ 1,896.60 เหรียญ

 

·         ข้อมูลกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านคน ทำสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนเม.ย.

 

·         ผลสำรวจเผยว่า ความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐฯปรับตัวลดลงเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั่วประเทศและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

 

·         ตลาดกำลังรอคอยการประกาศข้อมูล CPI สหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวการดำเนินนโยบายของเฟดเกี่ยวกับการลดการสนับสนุนทางการเงิน พร้อมทั้งคาดว่าอีซีบีจะยังคงนโยบายไว้ตามเดิม

 

·         อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.หลังจากลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนในเดือนเม.ย.  แต่จำนวนผู้จ้างงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หนุนความหวังว่าตลาดแรงงานจะค่อยๆฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

·         นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ไม่สามารถตกลงแผนโครงสร้างพื้นฐานกับผู้แทนคนสำคัญของพรรครีพับลิกันได้ และคาดว่าจะเดินหน้าเจรจาต่อโดยเปลี่ยนแผนจากการเจรจาเป็นกลุ่มผู้แทน 6 รายจากรีพับลิกัน เป็นการเจรจาแบบ 1 ต่อ 1 แทน


·         FXStreet ชี้ ทองหลุด $1,900 แม้ U.S.10 Yield จะปรับลง

ราคาทองคำปิดวันแรกของสัปดาห์ในแดนบวกและช่วงครึ่งวันทำการแรกในตลาดวานนี้ หลังจากที่ราคาทองขึ้นไปทำสูงสุดรายวันบริเวณ 1,903 เหรียญ และมีการทำ Low ของวันบริเวณ 1,883 เหรียญ ก่อนที่ราคาจะเคลื่อนไหวแบบสะสมพลัง ขณะที่ราคารายวันล่าสุดทรงตัวแถว 1,892 เหรียญ 

ช่วงต้นตลาด จะเห็นได้ว่าราคาทองคำมีปัจจัยบวกจาก "การปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ" ที่ปรับลงกว่า 2% มาแถว 1.53%

แต่ท่าทีระมัดระวังของตลาดที่ช่วยหนุนให้ดอลลาร์ยังแกร่งเมื่อเทียบค่าเงินสกุลอื่นๆ ถือเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์มีการปรับแข็งค่าเล็กน้อยบริเวณ 90.12 จุด

ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนในตลาดที่ระมัดระวังการซื้อขายช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์สามารถฟื้นตัวและกดดันราคาทองคำปรับตัวลง


สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ ได้แก่

ข้อมูลการค้าและบริการสหรัฐฯ ที่ออกมาขาดดุลเพิ่ม 6.1 พันล้านเหรียญ สู่ระดับ 6.89 หมื่นล้านเหรียญ

ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดเล็กจากองค์กร NFIB สหรัฐฯ เดือนพ.ค.ขยับลงมาที่ 99.6 จากเดิม 99.8 ในเดือนเม.ย.

การเปิดงานของ JOLTS ทำสถิติสูงสุดที่ 9.3 ล้านในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8.3 ล้านตำแหน่ง ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดมากนัก

ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯเปิดตลาดแดนบวก และเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideways ใกล้ระดับปิดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเป็นผลจากท่าทีระมัดระวังการลงทุนของนักลงทุน  ก่อนการประกาศข้อมูล CPI สหรัฐฯในวันพรุ่งนี้


วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

จากความผันผวนของราคาทองคำเมื่อวานนี้ ปัจจัยทางเทคนิคยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของทองคำในทิศทางขาขึ้น แม้จะเห็นแรงขายบริเวณระดับสำคัญทางจิตวิทยา 1,900 เหรียญ ซึ่งหากผ่านไปได้ ทองคำจะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,916 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน สัญญาณทางเทคนิคเส้นค่าเฉลี่ย RSI ในกราฟรายวันกำลังเคลื่อนไหวลักษณะ Sideways ใกล้ระดับ 60 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง

ในทางกลับกัน ทองคำจะกลับเป็นหาขึ้นหากหลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 20 วันบริเวณ 1,880 เหรียญ ที่เป็นแนวรับ ณ ปัจจุบัน เพราะหากต่ำกว่าอาจกลับไปทดสอบต่ำสุดเดิมในช่วงต้นเดือนเม.ย. ที่ 1,870 เหรียญ  ก่อนที่จะกลับลงบริเวณ 1,840 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 200 วัน

 

·         Chris Vermeulen คาด ทองอาจขึ้นไปแตะ 2,700 เหรียญได้เร็วภายใน 1 - 2 ปี

หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจาก  TheTechcnicalTraders.com. กล่าวว่า แม้ทองคำจะยังไม่สามารถกลับไปทำสูงสุดรอบหลายๆปีที่ทำไว้ในปีที่แล้วได้ แต่ตลาดทองคำระยะยาวจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น

ดังนั้น โอกาสจะเห็นทองคำบริเวณ 2,700 เหรียญโดยประมาณอาจเกิดขึ้นได้จากสภาวะขาขึ้นของตลาด หรือเร็วสุดอาจเกิดขึ้นในปีหน้า หรือ 2 ปีจากนี้

ขณะที่ภาพรวมของตลาดหุ้นดูจะมีการ Breakout ออกจากภาวะขาขึ้นในปัจจุบัน แต่กระแสเงินสดทั้งหมดก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะส่งสัญญาณเข้าซื้อเพิ่มขึ้นอย่างไร

ท้ายที่สุดแล้ว จึงแนะนำให้นักลงทุนจับตาเรื่อง "กระแสเงินสด" ที่อาจกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น ขณะที่ "ภาพทางเทคนิค" ก็ดูเหมือนตลาดหุ้นจะมีสัญญาณผสมผสานและเป็นไปในกรอบมากกว่า


·         ราคาซิลเวอร์ ทรงตัวแถวบริเวณ 27.63 เหรียญ

·         ราคาพลาเดียม +0.2% ที่ระดับ 2,812.30 เหรียญ

·         ราคาแพลตินัม -0.1% ที่ระดับ 1,160.81 เหรียญ

 

·         ห่วงโซ่อุปทานโลกเผชิญภาวะแช่แข็ง ท่ามกลางราคาที่เพิ่มขึ้นคุกคามการเจริญเติบโตของพลังงานโซลาร์เซลล์



กลุ่มผู้พัฒนาพลังงานโซลาร์ทั่วโลกชะลอโครงการติดตั้ง เนื่องจากราคาวัสดุที่ใช้ในการผลิตปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายด้านสำหรับวัตถุดิบแรงงาน และการขนส่ง จากสภาวะที่ทั่วโลกเผชิญการระบาดของไวรัส


สถานการณ์ที่บ่งชี้ถึงความผันผวนครั้งใหญ่ในราคาวัตถุดับที่ใช้ผลิตโซลาร์ชะลอตัวมากขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมพลังงานโซลาร์เพื่อลดมลพิษให้ต่ำสู่ระดับศูนย์ จากความพยายามของรัฐบาลทั่วโลกที่เร่งการเพิ่มการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ



ความผันผวนที่กำลังเกิดขึ้นอย่างมากกำลังเป็นอุปสรรคในการผลิตโซลาร์เซลล์ อันเนื่องจากส่วนประกอบหลักที่ใช้ดำเนินการทำแผลโซลาร์เซลล์และตัวยึดที่กำลังมีราคาเพิ่มสูงอย่างมาก

·         วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านร่างกฎหมายการขึ้นค่าธรรมเนียมการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ที่สุด

·         ประชุมสุดยอดผู้นำ G7 กับเป้าแรก "ไบเดน" เดินทางเยือนยุโรป 8 วัน

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะออกเดินทางไปยังประเทศอังกฤษวันนี้เป็นวันแรกนับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่ง ท่ามกลางกำหนดเวลา 8 วันในการเดินทางฟื้นคืนความสัมพันธ์กับแถบแอตแลนติค หลังยุคทรัมป์ได้ทำลายความสัมพันธ์กับกลุ่มนี้ และหันไปสานสัมพันธ์กับรัสเซีย

ดังนั้น ทริปนี้จึงเป็นบททดสอบความสามารถของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบันในการจัดการและแก้ไขความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรหลัก หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีคนก่อนได้ทำการขึ้นภาษีการค้า และถอนสหรัฐฯออกจากสนธิสัญญาระหว่างประเทศ


·         "ไบเดน" ปรับทบทวนมาตรการผลประโยชน์ด้านห่วงโซ่อุปทานกับ "จีน" ตั้งแต่สินค้าประเภทเซมิคอนดัคเตอร์ส จนถึงแบตเตอรี่ยารักษาโรค รวมทั้งกลยุทธ์ด้านแร่หายาก เป็นต้น

เนื่องจาก นายโจ ไบเดน มีความกังวลว่าสหรัฐฯจะก้าวไม่ทันจีนและประสบปัญหาการเข้าถึงสินค้าสำคัญในช่วงการระบาดของ Covid-19


·         ข้อมูล PPI จีน สะท้อนการขยายของเงินเฟ้อด้านผู้ผลิตสูงในรอบกว่า 12 ปี จากแรงกดดันด้านราคาทั่วโลกในเดือนพ.ค. ที่ 9.0% (สูงสุดตั้งแต่ก.ย. ปี 2008) จากราคาเหล็กน้ำมันทองแดง และโลหะนอกกลุ่มเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนกำลังมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการระบาดที่เป็นตัวผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่อาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อครั้งใหญ่ทั่วโลก และบังคับให้ธนาคารกลางต่างๆจำเป็นต้องใช้นโยบายคุมเข้ม และอาจเกิดการจำกัดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้


·         จีนปฏิรูปการดอกเบี้ยการฝากเงินภาคธนาคาร พร้อมกำหนดเพดานใหม่

โดยทุกธนาคารจะได้รับอนุญาตห้เพิ่มเพดานได้สูงสุดไม่เกินคนละ 
0.2% สำหรับอัตราอ้างอิงเงินฝาก ขณะที่ธนาคารขนาดเล็กจะได้รับอนุญาตให้เพิ่มเพดานมากถึง 0.75% สำหรับอัตราอ้างอิงการฝากประจำ

ขณะที่แนวทางกำหนดราคาใหม่ จะทำให้เพดานดอกเบี้ยเงินฝากประจำหนึ่งปียังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.25% ด้านเพดานดอกเบี้ยเงินฝากประจำในหนึ่งปีจะลดลง

อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการเปิดโอกาสใช้อัตราดอกเบี้ยเสรี และช่วยลดต้นทุนทางการเงินของธนาคารได้บางส่วน แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนว่าจะแปลี่ยนแปลงจะมีผลเมื่อไร

 

 

·         ญี่ปุ่นออสเตรเลีย แสดงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน

 

·         รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เผย เป้าการเพิ่มสัมพันธ์กับออสเตรเลียสู่ระดับใหม่ ในเรื่องความมั่นคงด้านการร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างสองประเทศ

 

·         ยอดส่งออกเยอรมนีปรับขึ้นเล็กน้อยในเดือนเม.ย. แตะ 0.3% ขณะที่มี.ค. ปรับทบทวนมาที่ 1.3% โดยได้รับแรงหนุนจากการค้าที่เพิ่มขึ้นกับสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

 

·         Reuters Poll ชี้ เงินเฟ้อรัสเซียพุ่ง หนุนโอกาสครั้งใหญ่สำหรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในวันศุกร์นี้

 

·         มาเลเซีย ระบุว่า การจัดส่งวัคซีน AstraZeneca ให้แก่ประเทศไทยมีความล่าช้า

 

ที่มาจาก CNBC, Reuters, Kitco, FXStreet


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com