· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังข้อมูลเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯที่ ประกาศในคืนนี้
ดัชนี Shenzhen component ปรับตัวสูงขึ้น ที่ระดับ 1.299%
ดัชนี Shanghai composite +0.82%
ดัชนี Hang Seng +0.3%
ดัชนี Nikkei +0.37%
ดัชนี Topix เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว
ดัชนี Kospi เกาหลีใต้ +0.57%
ดัชนี S&P/ASX 200 อสสเตรเลีย +0.57%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 0.57%
· ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวผสมผสานกัน เนื่องจากตลาดโลกเตรียมพร้อมสำหรับข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนนี้
โดยดัชนี Stoxx600 เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ร่วงลง 1% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสุขภาพเพิ่มขึ้น 0.6%
ทั้งนี้ ตลาดโลกให้ความสำคัญกับข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีความสำคัญที่บ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือลดโครงการซื้อสินทรัพย์ของเฟด
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลาดหุ้นไทยปิดบวก 2.24 จุดตามภูมิภาคคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นจากเปิดเมืองแต่ upside ยังจำกัด
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,628.51 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด (+0.14%) มูลค่าการซื้อขายราว 63,966 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้แกว่งตัวแคบในแดนบวกตามทิศทางตลาดภูมิภาครับ Sentiment บวกคลายกังวลความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐ และความคาดหวังเศรษฐกิจในประเทศฟื้นจากการกลับมาเปิดเมืองหลังจากกระจายการฉีดวัคซีนได้เร็ว แต่ดัชนียังมี upside จำกัดระหว่างรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและประชุมธนาคารกลางยุโรปในคืนนี้ แนวโน้มตลาดช่วงบ่ายทรงตัว ให้แนวรับ 1,625 จุด แนวต้านที่ 1,640 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,628.51 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด (+0.14%) มูลค่าการซื้อขายราว 63,966 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,626.22 จุด และระดับต่ำสุด 1,626.39 จุด
- ศูนย์วิจัยกสิกร คงเป้า GDP ปีนี้ 1.8% ลุ้นกระจายวัคซีนได้ดีดัน Q4/64 โตก้าวกระโดด
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ศูนย์วิจัยฯ ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 64 ไว้ที่เติบโต 1.8% ภายใต้สมมติฐานที่คาดว่าการระบาดโควิดระลอก 3 จะบรรเทาลงในช่วงเดือน ก.ค.64 จากการเร่งปูพรมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนมากขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.64 เป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การติดเชื้อโควิดเริ่มชะลอลงในช่วง 1-2 เดือนนี้ (มิ.ย.-ก.ค.64) และจะทำให้เริ่มกลับมาเปิดเมืองได้เต็มที่มากขึ้น
ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยยังได้รับผลบวกจากทิศทางการส่งออกที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้ปรัประมาณการตัวเลขการส่งออกไทยในปี 64 เพิ่มขึ้นเป็นเติบโต 9% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 7% ทำให้ยังสามารถช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ
- พ.ร.ก. กู้เงินเยียวยาโควิด 5 แสนล้าน ผ่านแล้ว 270 : 196 เสียง
รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีวาระสำคัญในการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 (พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท) เป็นวันที่ 2 ซึ่งเป็นการลงมติ ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ผ่าน พ.ร.ก.ดังกล่าวด้วยเสียง 270 ต่อ 196 งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง จากจำนวนผู้ลงมติ 469 คน
· อ้างอิงสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
- ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ตายกลับมาพุ่ง! พบเสียชีวิต 43 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 2,310 ราย
ยอด "โควิด-19" วันนี้ ยังคงจับตาสถานการณ์ ยอดเสียชีวิตยังคงสูงต่อเนื่อง หลังพบเสียชีวิตเพิ่มสูงถึง 43 ราย ติดเชื้อใหม่อีก 2,310 ราย สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ยังลุกลามต่อเนื่อง และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ที่มาจาก CNBC, Reuters